คดีเป้รักผู้การฯ "บิ๊กโจ๊ก" จ่อจับตำรวจเพิ่ม และสอบ "รองแดนไพร" ลั่น! ไม่ช่วยลูกน้องทำชั่ว
คดีผู้การฯ ชลบุรี เรียกรับส่วย "บิ๊กโจ๊ก" จ่อออกหมายจับตำรวจเพิ่มอีก 1 นาย พร้อมประสาน ปปป. สอบ "รองแดนไพร" ปมช่วยบอยหนี ลั่น! ไม่ช่วยลูกน้องที่กระทําชั่ว
วันนี้ (7 ก.ค. 66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าในคดีอดีตผู้การชลบุรีกับพวกร่วมกันเรียกรับเงินเว็บพนันออนไลน์จํานวน 140 ล้านบาท ว่า สํานวนมีความคืบหน้าไปมากแล้ว ซึ่งทําให้เหลือตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องน้อยลง วันนี้จะมีการอนุมัติหมายจับตํารวจเพิ่มอีก 1 นาย โดยภายในสัปดาห์คาดว่าจะได้เส้นทางการเงินครบสมบูรณ์ ซึ่งจะทําให้เห็นความเชื่อมโยงทั้งขบวนการ ในตอนนี้ผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้คือเส้นทางการเงินที่จะระบุชัดว่าใครเกี่ยวข้องในเรื่องนี้บ้าง ซึ่งสัปดาห์หน้าจะเห็นภาพรวมของสํานวนในคดีนี้ทั้งหมด
นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายอัจฉริยะ นําตํารวจที่เกี่ยวข้องในคดีเดินทางไปร้องเรียนหน่วยงานต่างๆเรื่องการถูกบังคับ ข่มขู่ว่า ไม่มีการข่มขู่และบังคับอย่างแน่นอน เพราะตํารวจทํางานอย่างเปิดเผยและโปร่งใส การสอบสวนต่างๆทําในสถานที่ราชการทั้งสิ้นและทําในรูปแบบของคณะกรรมการ แต่อย่างไรก็ตามตนเองยินดีรับฟังและให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
ส่วนกรณีของ “รองแดนไพร” ที่ถูกโยงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการเจรจากับ นายบอย (ผู้ต้องหา) เรื่องการหลบหนีนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า รองแดนไพร เป็นหนึ่งในชุดทํางานคดีนี้ เบื้องต้นได้ประสานไปยัง บก.ปปป. ให้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว หากพบมีความผิดจริง ไม่ใช่แค่ดําเนินคดีอาญาแต่จะต้องให้ออกจากชุดทํางาน และถูกลงโทษ 2 เท่า พร้อมกับดําเนินการทางวินัยควบคู่กันไป
สําหรับกรณีของ นายบอย ผู้ต้องหาที่ยังคงหลบหนีอยู่ต่างประเทศนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า ตนไม่ติดต่อผู้ต้องหา หากต้องการมอบตัวให้ติดต่อมาที่ตนหรือชุดทํางานเท่านั้น ส่วนจะอ้างว่าไม่สามารถกลับไทยได้เพราะถูกเพิกถอนวีซ่านั้น หากจะมอบตัวจริงๆให้ติดต่อมาโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น ซึ่งจะประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศให้ออกวีซ่าชั่วคราวเพื่อเดินทางเข้ามามอบตัว
ทั้งนี้ในส่วนของตํารวจ 3 นาย และพลเรือน 2 ราย ที่ถูกหมายจับวานนี้นั้น รอง ผบ.ตร. ระบุว่าทั้ง 5 รายเดินทางเข้ามามอบตัวแล้วตั้งแต่เมื่อวานเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา และได้ให้ประกันตัวในวงเงินคนละ 2 แสนบาท พร้อมยํ้าว่าจะไม่มีการช่วยเหลือลูกน้องที่กระทําผิดอย่างแน่อนน