หญิงวัย 91 หกล้มไปหาหมอ อึ้งตรวจพบว่า "ท้อง" ลูกชายวัย 60 รู้ความลับถึงกับร้องไห้

ชายอายุมากกว่า 60 ปี พาแม่ไปโรงพยาบาลเพราะหกล้ม แต่พอฟังคำวินิจฉัยของแพทย์ ไม่เชื่อหูถึงกับอุทานลั่น "อะไรนะ?! จะตั้งครรภ์ได้ยังไง แม่อายุ 91 ปีแล้ว"

ตามรายงานพบว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในหมู่บ้านบนภูเขา มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 ในตอนนี้การแพทย์ยังไม่ได้รับการพัฒนาเท่าปัจจุบัน อย่างไรก็ดี ในเวลานั้นหลังจากได้ฟังการวินิจฉัยจากแพทย์ ลูกชายยังคงไม่เชื่อว่าแม่ที่ชราแล้วจะตั้งครรภ์ คิดว่าผลการตรวจออกมาผิดพลาดแน่นอน

ย้อนกลับไปในชีวิตตอนสาวๆ ของคุณยาย เธอได้แต่งงานกับชายคนหนึ่งและให้กำเนิดลูกชาย ชีวิตครอบครัวมีความสุขสงบแม้จะลำบากทางการเงิน แต่น่าเสียดายที่สามีของเธอจากไปก่อนวัยอันควร ในตอนที่เธออายุได้เพียง 30 ปี ครอบครัวที่ยากจนอยู่แล้วก็ยิ่งยากจนลง ใช้ชีวิตอย่างสมบุกสมบัน แต่เธอก็ยังคงพยายามหาเลี้ยงลูก ทำงานหนักจนชีวิตค่อยๆ ดีขึ้น

หลายปีต่อมาลูกชายได้แต่งงานและให้กำเนิดลูกคนหนึ่ง แม้จะมีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว แต่ลูกชายยังคงสัญญาว่าจะดูแลแม่ของเขาอย่างดีไปตลอดชีวิต และบอกด้วยว่าเขารู้สึกภูมิใจเสมอเมื่อแม่ที่อายุมากกว่า 90 ปี ยังคงแข็งแรงดี สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และแม้กระทั่งทำหลายอย่างเพื่อช่วยเหลือลูกหลานด้วย

แต่แล้วในปี 2550 แม่ก็เกิดอุบัติเหตุลื่นล้มตอนออกไปตักน้ำ แต่เธอไม่ได้บอกใครเพราะไม่ต้องการให้ลูกหลานกังวล แต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือ นอกจากขาที่บวมและอาการเจ็บปวดจากการล้มแล้ว อุบัติเหตุในครั้งนั้นยังทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยง่าย ปวดท้อง และถึงกับอาเจียน เมื่อลูกชายรู้จึงจะพาไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพ ในตอนแรกแม่ยังคงปฏิเสธ แต่ไม่กี่วันต่อมาอาการก็แย่ลงอีก จนต้องยอมไปหาหมอในที่สุด

อย่างไรก็ดี หลังจากฟังคำอธิบายอาการแล้ว คุณหมอค่อนข้างงง เพราะอาการดูไม่สัมพันธ์กับการลื่นล้ม จึงแนะนำให้อัลตราซาวนด์ และก็ได้ผลลัพธ์ที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจ ในท้องของหญิชราวัย 91 ปี มีทารกอยู่ เมื่อรู้ชายได้ฟังก็บอกทันทีว่า "เป็นไปไม่ได้" เพราะนอกจากแม่จะอายุมากแล้ว ยังไม่ได้มีความสัมพันธ์กับใครด้วย

หมอเองก็ตกใจกับเคสที่ไม่เคยเจอมาก่อน โดยปกติผู้หญิงจะหยุดตกไข่เมื่ออายุประมาณ 50 ปี อย่างไรก็ดีแม้โลกนี้จะเคยมีเคสคนอายุ 60 ปีตั้งครรภ์ แต่เป็นไปไม่ได้ที่ผู้หญิงอายุ 91 ปีจะยังตั้งครรภ์ได้ ดังนั้น เพื่อตรวจสอบให้ชัดเจนยิ่งขึ้น จึงขอความช่วยเหลือจากสูตินรีแพทย์ พวกเขาทำการอัลตราซาวนด์อีกครั้ง แต่ผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิม ลูกชายอารมณ์เสียและโกรธมาก ไม่สามารถยอมรับความจริงนี้ได้ ยังคงคิดว่าโรงพยาบาลวินิจฉัยผิด จึงพาแม่กลับบ้านทันที

อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขากลับถึงบ้าน ข่าวลือก็เริ่มแพร่สะพัดในหมู่บ้าน ทุกคนไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้หญิงวัย 91 ปีที่เป็นคนซื่อสัตย์และอ่อนโยนมาก จู่ๆ กลับกำลังตั้งครรภ์ บางคนถึงกับโยงไปเรื่องทางจิตวิญญาณ ลูกชายและภรรยาแทบไม่อยากออกจากบ้านไปเจอใครๆ สุดท้ายเขาจึงค่อยๆ กลับมาถามความจริงจากปากแม่ ในตอนนั้นความลับที่หญิงชราปกปิดไว้เกือบ 60 ปีก็ถูกเปิดเผย

ในปี พ.ศ.2491 ที่สามีของเธอเสียชีวิตลง ขณะนั้นลูกชายอายุเพียง 6 ขวบ หลังจากงานศพของสามีไม่นานเธอก็ตรวจพบว่าตั้งท้อง เธอมีความสุขมากเมื่อนึกถึงว่าจะได้ให้กำเนิดลูกอีกคนหนึ่งแก่สามีผู้ล่วงลับ แม้จะยากจนแต่เธอก็ยังต้องการที่จะให้กำเนิดลูก เมื่อการตั้งครรภ์ดำเนินมาถึงช่วงไตรมาสที่ 3 เธอต้องการไปตรวจที่โรงพยาบาล แต่โรงพยาบาลอยู่ไกล ใช้เวลานาน จึงต้องพาลูกชายไปด้วย แต่ระหว่างขึ้นเรือเพื่อข้ามแม่น้ำ เธอก็รู้สึกว่าทารกในครรภ์หยุดเคลื่อนไหว สัญชาตญาณของเธอบอกเธอว่ามีบางอย่างไม่ดีเกิดขึ้น

เมื่อไปโรงพยาบาล แพทย์ก็แจ้งข่าวร้ายว่าทารกในท้องเสียชีวิตแล้ว เธอปวดใจมากแต่ไม่กล้าร้องไห้เพราะกลัวว่าลูกชายเป็นห่วง หลังจากนั้นแพทย์แนะนำให้ทำการผ่าตัดเอาทารกในครรภ์ออก มิฉะนั้นอาจส่งผลต่อชีวิตของแม่ด้วย อย่างไรก็ตาม ค่าผ่าตัดอยู่ที่ 120 หยวน (ประมาณ 600 บาท ตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน) ซึ่งเท่ากับค่าครองชีพของครอบครัวต่อเดือนในเวลานั้น

สุดท้ายเพราะไม่มีเงินที่เพียงพอ และไม่ต้องการให้ลูกชายไม่มีอะไรกิน ดังนั้นจึงปฏิเสธการผ่าตัด และเก็บทุกอย่างไว้เป็นความลับ หลังจากกลับบ้านแม้จะรู้สึกถึงภาวะแทรกซ้อน แต่ยังคงทำงานหนักเพื่อเลี้ยงลูก กระทั่งหนึ่งปีต่อมา เธอก็ยังไม่รู้สึกถึงอาการผิดปกติใดๆ อีกเลย เธอคิดว่าเป็นเพราะสามีบนสวรรค์ช่วยอวยพรให้ ทำให้ไม่ต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกเลยหลังจากนั้น

เมื่อลูกชายได้รับฟังเรื่องราวในอดีตของแม่ทั้งหมด ก็รู้สึกตื้นตันจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ แต่เขาไม่ได้ต้องการให้แม่เสี่ยงชีวิตเพื่อเห็นแก่มื้ออาหารของลูก และสงสัยว่าทำไมแม่ยังคงมีสุขภาพแข็งแรงมาหลายปี ทั้งทีมีร่างทารกอยู่ในครรภ์มาตลอด? เพื่อหาคำตอบเรื่องนี้จึงพาแม่ไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง เล่าความจริงทุกอย่างให้แพทย์ฟัง ก่อนทำการตรวจอย่างละเอียดและพบสาเหตุของปัญหาในที่สุด

ปรากฏว่าสาเหตุที่ในอดีตทารกเสียชีวิตเพราะเป็นการท้องนอกมดลูก เมื่อเวลาผ่านไป ทารกในครรภ์กลายเป็นวัตถุแข็งเหมือนหิน ส่วนเหตุผลที่ดูเหมือนจะไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เพราะเมื่อถุงน้ำคร่ำแตก น้ำคร่ำและเลือดจะถูกระบายออกทั้งหมด การตั้งครรภ์ที่กลายเป็นก้อนแข็งนี้ก็เหมือนกับชิ้นเนื้อส่วนเกินในร่างกายของหญิงชรา นอกจากจะทำให้หน้าท้องใหญ่ขึ้น และบีบรัดส่วนหนึ่งของกระเพาะอาหารแล้ว มันก็ไม่ได้สร้างอันตรายมากนัก

ลูกชายยังคงถามแพทย์ต่อไปว่า ควรให้แม่ผ่าตัดเอาออกหรือไม่? เมื่อพิจารณาจากอายุและสุขภาพของหญิงชรา พบว่าการผ่าตัดจะเป็นอันตรายมากกว่าการปล่อยให้อยู่ในช่องท้องต่อไป ดังนั้นหญิงวัย 91 ปีในตอนนั้น จึงมีชีวิตอยู่ต่อไปกับทารกในครรภ์ที่กลายเป็นหินมานานถึง 60 ปี