เสธ.แดง กลับมาแล้วรุดตรวจบ้าน ก่อนร่วมชุมนุมเสื้อแดงที่เขาสอยดาว

เสธ.แดง กลับมาแล้วรุดตรวจบ้าน ก่อนร่วมชุมนุมเสื้อแดงที่เขาสอยดาว

เสธ.แดง กลับมาแล้วรุดตรวจบ้าน ก่อนร่วมชุมนุมเสื้อแดงที่เขาสอยดาว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เสธ.แดงเดินทางกลับกรุงเทพฯแล้ว ลั่นจันทร์นี้พบพนักงานสอบสวน ไปพร้อมส.ส.เพื่อไทย ก่อนไปร่วมชุมนุมเสื้อแดงที่เขาสอยดาว

พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิประจำกองทัพบก ยืนยันว่า พร้อมเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนที่ได้เแจ้งข้อหา ร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ ตามหมายเรียกภายในกำหนดเวลาอย่างแน่นอน โดยจะไปกับ พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ในวันจันทร์นี้โดยไม่จำเป็นต้องรอให้มีการออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 2 ตนเองยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ยิงกองบัญชาการกองทัพบก เป็นการโมเมทางการเมืองของคนบางคน

ต่อมาเมื่อเวลา 21.00 น.ที่ผ่านมา พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เดินทางด้วยเที่ยวบินเอฟดี 3140 ของสายการบินแอร์เอเชีย จากอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา มาลงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งบรรยากาศที่สุวรรณภูมิค่อนข้างคึกคัก โดยมีกลุ่มคนที่ชื่นชอบ เสธ.แดง และกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งมารอให้กำลังใจ ซึ่งเสธ.แดงมีท่าทีขึงขังเช่นเดิม ไม่มีทีท่าวิตกกังวลกับเรื่องที่ถูกออกหมายเรียก

พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า ก่อนอื่นจะกลับไปบ้านพักนายทหาร ม.พัน 4 ที่เกรียกกราย เพื่อตรวจดูทรัพย์สินและความเสียหายภายในบ้าน เพราะมีตำรวจทหารเข้าไปรื้อค้น ซึ่งคงใช้เวลาไม่นาน จากนั้นก็จะเดินทางไปเขาสอยดาว จ.จันทบุรี เพื่อพบปะกลุ่มคนเสื้อแดง และหากพบว่ามีหมายเรียกของพนักงานสอบสวน ตนเองก็จะไปพบพนักงานสอบสวนในวันจันทร์ที่ 25 มกราคมนี้ เรื่องราวที่เกิดขึ้นอยากจะบอกว่าทางกองทัพบกไม่เคยตกต่ำขนาดนี้มาก่อนตั้งแต่มีกองทัพมา ขนาดที่ทำงานของ ผบ.ทบ.ยังโดนลอบยิงได้ ถ้าเป็นที่อื่นต้องลาออกแล้ว เช่นเดียวกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่บางรายหากมีลูกน้องติดเครื่องหมายให้ผิดโดยที่ไม่ได้จบหลักสูตรนั้น ก็ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก ซึ่งทุกวันนี้กองทัพบกไม่มีนักรบ มีแต่นักกอล์ฟ

พล.ต.ขัตติยะ กล่าวด้วยว่า การไปตรวจค้นที่บ้านก็ไม่มีของอะไรผิดกฏหมาย ระเบิดชนิดขว้างก็พบนอกบ้าน ซึ่งเป็นฝีมือของร้อยเอกที่อยู่หน้าห้อง ผบ.ทบ.มาทำเอาไว้ ส่วนอาวุธปืนที่พบก็เป็นปืนของตนเอง มีทะเบียนถูกต้อง ซื้อมาจากกรมศุลกากร และกระสุนปืนที่พบในบ้านก็เป็นเรื่องธรรมดาของนักรบที่ผ่านสมรภูมิมาหลายครั้ง สำหรับเรื่องจ่าที่บอกว่าเป็นลูกน้องตนเอง ไปค้นบ้านเขาแล้วเจออาวุธสงคราม อยากถาม ผบ.ทบ.มากกว่าที่ปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชามีอาวุธสงครามมาครอบครอง ทั้งที่ผบ.ทบ.เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของจ่าคนนี้ ถามตนเอง ตนเองก็ไม่รู้เรื่อง เพราะเป็นผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ไม่ได้เป็นผู้ดูแลอาวุธยุทธโธปกรณ์ คนที่ต้องรับผิดชอบต้องเป็นผบ.ทบ. ไม่ใช่ตนเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook