โดนถล่มเละ "ฮุนเซน" โร่แจง ปัดเย้ย "พิธา" แค่เตือนฝ่ายค้านสุดโต่ง หยุดใช้ไทยต่อต้านกัมพูชา
"ฮุนเซน" แจงไม่ได้แทรกแซงกิจการภายในไทย ไม่ได้ต่อต้าน "พิธา" แค่ต้องการเตือนกลุ่มหัวรุนแรง หยุดใช้ไทยต่อต้านกัมพูชา
หลังจากเมื่อคืนวานที่สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ภายหลังจาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มีมติไม่ได้รับการโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรี จนกลายเป็นประเด็นการเมืองร้อนในเมืองไทย นั้น ปรากฏว่าสมเด็จฮุนเซนได้ออกมาอธิบายเพื่อไม่ให้เกิดการนำข้อมูลไปขยายในทิศทางที่จะทำให้คนไทยบางกลุ่มข้าใจผิด โดยระบุว่า
“เมื่อคืนผมโพสต์ข้อความว่านายพิธา ไม่ได้รับเลือกเป็นนายกฯ ไทย แสดงถึงความล้มเหลวของฝ่ายค้านสุดโต่งในกัมพูชา เพราะคนกลุ่มนี้ใช้ชื่อนายพิธาและพรรคการเมืองไปใช้หาเสียงในประเทศกัมพูชา ทำนองว่า หลังจากนายพิธา เข้ารับตำแหน่งนายกฯ จะมีผู้นำกลุ่มหัวรุนแรงจะเข้าสู่ประเทศกัมพูชา ผ่านดินแดนไทย ซึ่งกลุ่มหัวรุนแรงนี้ใช้ชื่อนายพิธา มาเกือบสองเดือนแล้วนับตั้งแต่นายพิธาชนะการเลือกตั้งในประเทศไทย
สมเด็จฮุนเซน ยังระบุว่า ข้าพเจ้าไม่ต่อต้านนายพิธาและข้าพเจ้าไม่ก้าวก่ายกิจการภายในของประเทศไทย ข้อความของขัาพเจ้ามีจุดมุ่งหมายเพื่อบอกกลุ่มหัวรุนแรงในกัมพูชาว่าความปรารถนาของพวกเขาละลายเหมือนเกลือในน้ำ หลังจากที่ข้าพเจ้าโพสต์ข้อความไป ก็มีคนไทยเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นภาษาไทย ซึ่งผมไม่เข้าใจ แต่ต้องการอธิบายให้คนไทยได้ทราบว่า
1.ขัาพเจ้าไม่ได้ต่อต้านนายพิธาและพร้อมทำงานร่วมกับนายพิธา หากนายพิธา ได้รับเลือกเป็นผู้นำรัฐบาลไทย
2.ข้าพเจ้าเคารพในการตัดสินใจของประชาชนชาวไทย และข้าพเจ้าไม่ก้าวก่ายกิจการภายในของประเทศไทย
3.ข้าพเจ้าพร้อมทำงานร่วมกับผู้นำประเทศไทยไม่ว่าจะใครหรือพรรคการเมืองไหน
4.กลุ่มเขมรสุดโต่งที่ใช้ดินแดนไทยทำกิจกรรมต่อต้านกัมพูชา รวมทั้งใช้ชื่อนายพิธา เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ควรหยุดการกระทำทางการเมืองที่อาศัยลมหายใจของผู้อื่นเพื่อทำลายชาติของตนเอง โดยเฉพาะหยุดใช้ชื่อนายพิธาเพื่อทำการต่อต้านรัฐบาลกัมพูชา
ทั้งนี้ จากประวัติของกัมพูชามีปัญหาภายในประเทศมานาน 40 ปี มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ บาดเจ็บล้มตายมีการนองเลือด และการต่อสู้ของสมเด็จฮุนเซนทำให้ประเทศกัมพูชาและประชาชนชาวกัมพูชามีชีวิตอยู่ได้เป็นที่ยอมรับของนานาชาติหมดสงคราม ขายแดนไทย- กัมพูชาไร้เสียงปืนเสียงระเบิด ไม่มีเหตุปล้นฆ่า คนกัมพูชาและคนไทยอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข
ด้วยนโยบายเอาสันติภาพเป็นหลักก่อนประชาธิปไตย แต่มีการแอบอ้างกลุ่มการเมืองบางกลุ่มในกัมพูชาไปอยู่ต่างประเทศก่อการเมืองต่อต้านรัฐบาลกัมพูชาโดยอาศัยชื่อนายพิธาและพรรคก้าวไกลเพื่อหวังผลทางการเมืองในประเทศกัมพูชา จึงเป็นที่มาของการทวีตข้อความ