ครม.คาดแดงเดือด19-28ก.พ.!!! ตั้งทหารช่วยคุมม็อบ

ครม.วางมาตรการรับมือม็อบแดง ใช้งัดพรบ.กลาโหมตั้งทหารเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ประเมินการชุมนุมมีขึ้นระหว่าง 19-28 ก.พ.นี้

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในการประชุมครม.เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ซึ่งมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในช่วงหนึ่งที่ประชุมครม.ได้มีการประชุมลับ เพื่อพิจารณาเรื่องที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)เสนอขอให้ครม.รับทราบมติสมช.ในการติดตามประเมินผลและการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองการ

นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ได้เสนอเรื่องเพื่อพิจารณาจร แจกเอกสารให้แก่ครม.ได้อ่านและขอเก็บเอกสารกลับคืนไปด้วย ทั้งนี้เลขาธิการสมช.ได้ขอให้ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบให้ทหารเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะมีการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงต่อเนื่อง

เลขาธิการสมช.ได้รายงานเอกสารมติที่ประชุมสมช.เมื่อวันที่ 22 ม.ค. เรื่องการติดตามประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่มีการประเมินติดตามว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะมีการชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ 1 .การชุมนุมย่อย เช่น การชุมนุมเครือข่ายเสื้อแดงในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ มีม็อบตีนตบเป็นต้น 2 .การชุมนุมขนาดกลาง เช่น การดาวกระจายไปชุมนุมที่เขายายเที่ยง เขาสอยดาว และ 3. การชุมนุมขนาดใหญ่ ที่จะมีการชุมนุมใหญ่กันในระหว่างวันที่ 19-28 ก.พ. 53

เลขาธิการสมช.รายงานด้วยว่า ในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมนั้นถ้ายังเป็นการชุมนุมในระดับปกติ ไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงก็ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้รับผิดชอบดูแลไป แต่หากสถานการณ์ลุกลามมีความรุนแรงมากก็ให้ทางทหารเข้ามาเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานรับผิดชอบดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย โดยใช้บทบัญญัติแห่งพ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 มาตรา 8(5) ที่กำหนดว่า ปฏิบัติการอื่นที่เป็นการปฏิบัติการทางทหารนอกเหนือจากสงครามเพื่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือปฏิบัติการอื่นใด

ทั้งนี้ ตามที่มีกฎหมายกำหนดหรือตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการใช้กฎหมายปกติ ไม่ต้องไปใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ จึงขอความเห็นชอบครม.รับทราบมาตรการในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมและขอให้ทหารเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ซึ่งตามเอกสารเดิมได้ระบุว่าให้ทหารเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานตั้งแต่วันที่ 19-/28 ก.พ. แต่นายสุเทพ ได้ขอให้ตัดคำว่าวันที่ 28 ก.พ. 53 ออกไป เพื่อให้มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยไม่มีกำหนดสิ้นสุดตายตัวซึ่งครม.ก็เห็นชอบตามนั้น