เหยื่อน้ำหมัก “ป้าเช็ง” โล่แจ้งความ ใช้หยอดตาหวิดบอด
อย.แจ้งจับเพิ่มอีก 4 ข้อหาโฆษณาเกินจริง ตรวจพบกรดคล้ายน้ำส้มสายชู เตือนอย่าใช้อันตราย
กลายเป็นกรณีที่ประชาชนให้ความสนใจกับ การเอาผิดดำเนินคดีกับ “ป้าเช็ง” เจ้าของธุรกิจ น้ำมหาบำบัด ที่อ้างสรรพคุณรักษาได้สารพัดโรคที่เกินจริง โฆษณาให้ประชาชนจำนวนมากหลงเชื่อและซื้อไปให้ ล่าสุดเหยื่อน้ำหมักชีวภาพป้าเช็ง แจ้งความอีก เผยใช้ยาหยอดตาหวิดตาบอด ด้านอย.แจ้งข้อหาเอาผิด “น้ำมหาบำบัด” ป้าเช็งเพิ่มอีก 4 ข้อหา เตรียมเอาผิดโฆษณาเกินจริง ขณะเดียวกัน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข เตรียมแถลงผลการตรวจเชื้อแบคทีเรียในน้ำหมักชีวภาพ น้ำมหาบำบัด และน้ำยาเจียระไนเพชร บ่ายวันนี้(27ม.ค.) โดยเบื้องต้นพบว่าน้ำทั้ง 2 ชนิดมีความเป็นกรดคล้ายนำน้ำส้มสายชูชนิดเข้มข้นไปหยอดตา ทำให้เป็นอันตราย ซึ่งเรื่องนี้สื่อมวลชนได้เสนอข่าวครึกโครมอย่างต่อเนื่องในหน้า 1
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ พาดหัวข่าวว่า “อย.ตามล้าง ป้าเช็ง แจ้งข้อหาเพิ่มเติม! ผลตรวจน้ำหมักเชื้อรา-แบคทีเรียมีปะปนอยู่เพียบ” อ่านต่อ
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ พาดหัวข่าวว่า “เอาผิด ป้าเช็ง เพิ่ม 4 ข้อหารวด น้ำหมักเจอเชื้อรามีสภาพเป็นกรดคล้ายน้ำส้มสายชู” อ่านต่อ
หนังสือพิมพ์คมชัดลึก พาดหัวข่าวว่า “ อย.แจ้งจับ ป้าเช็ง เจออีก 4 กระทง-ลูกค้าโวยหวิดบอด” อ่านต่อ
เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) นายอภิชัย หุ่นจำลอง เภสัชกรชำนาญการพิเศษ กองควบคุมยา องค์การอาหารและยา (อย.) และนายชาตรี พินใย นิติกรชำนาญการ กองการประกอบโรคศิลป กองสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เข้าพบ พล.ต.ต.จตุรงค์ ภุมรินทร์ ผบก.ปคบ. และ พ.ต.อ.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ ผกก.4 บก.ปคบ. เพื่อร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.ศรวรรณ ศิริสุนทรินทร์ หรือ “ป้าเช็ง” อายุ 72 ปี เจ้าของธุรกิจ “น้ำมหาบำบัด” น้ำหมักชีวภาพที่อ้างสรรพคุณรักษาสารพัดโรค เพิ่มเติมอีก 4 ข้อหา ได้แก่ 1.โฆษณาขายยาทางวิทยุโทรทัศน์โดยไม่ได้รับอนุมัติข้อความ เสียง หรือภาพ ที่ใช้ในการโฆษณาจากผู้อนุญาต 2.โฆษณาขายยาที่แสดงสรรพคุณยาว่าสามารถบำบัด บรรเทา รักษา หรือป้องกันโรค หรืออาการของโรค ที่รัฐมนตรีประกาศห้าม 3.ประกอบโรคศิลปโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต และ 4.ประกอบกิจการและดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเรียกตัว น.ส.ศรวรรณ มารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในวันที่ 27 ม.ค.นี้ เวลา 11.00 น.
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ชนิดของแบคทีเรียที่ตรวจพบไม่ใช่เชื้อแบคทีเรียที่มีความรุนแรงสูง อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ของป้าเช็งปริมาณที่ตรวจพบเกินค่ามาตรฐานที่จะใช้หยอดตาได้ กรณีที่ตรวจพบน้ำทั้ง 2 ชนิดมีความเป็นกรดนั้น ถ้าเปรียบเทียบก็เหมือนกับการเอาน้ำส้มสายชูชนิดเข้มข้น หรือกรดน้ำส้มไปหยอดตา ถ้าหากหยอดติดต่อกันนาน ๆ ก็อาจจะเป็นอันตรายได้ รวมทั้งการนำมา ลูบไล้ตามผิวหนัง ก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข จะแถลงในช่วงบ่ายวันที่ 27 ม.ค.เนื่องจากต้องรอผลการเพาะเชื้อให้ครบกำหนดระยะเวลาอย่างน้อย 72 ชม. จึงจะทราบผล 100 %
ขณะที่นางชญาภา จารุจารีตร์ อายุ 55 ปี เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ธรณ์ วันทองทักษ์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.คลองหลวง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ว่า หลังจากที่ตนได้ดูโฆษณาผ่านทาง เคเบิลทีวี ทางช่อง ซุปเปอร์เช็ง จึงเดินทางมาซื้อยามหาบำบัด ไปทั้งหมด 6 ขวด และยาเจียระไนเพชร ไปอีก 12 ขวด เมื่อตนเริ่มใช้ยาหยอดตา ตั้งแต่วันที่ 17-19 ม.ค. ก็เริ่มมีอาการมองไม่เห็น ตาผ้าฟาง แล้วเมื่อใช้น้ำผสมกิน ก็มีอาการแน่หน้าอก เลอออกมาก็มีกลิ่นเหม็นมาก จึงหยุดใช้ยา พอเห็นข่าวจึงไปตรวจที่โรงพยาบาลราชวิถี และให้แพทย์นำตัวอย่างยาของป้าเช็งไปใช้กล้องส่องดู ก็พบเชื้อโรคมากมาย จึงสั่งห้ามไม่ให้ตนใช้ยาต่อ
ส่วนบรรยากาศที่บ้านของป้าเช็ง บ้านเลขที่ 4/5 ซอยบงกช 51 ม.4 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ในวันนี้มีการนำสแลนสีเขียว มาปิดบังรอบบ้านทั้งหมด โดยไม่ให้ใครเข้าไปถ่ายภาพในบ้าน ส่วนป้าเช็งเก็บตัวอยู่ภายในบ้าน แต่ยังติดป้ายป้าเช็ง สู้ สู้ อยู่หน้าบ้าน และป้ายงดการจำหน่าย งดให้สัมภาษณ์