"อุ๊งอิ๊ง" มาเอง เพื่อไทยดัน "เศรษฐา" นั่งนายกฯ หาก "พิธา" วืดพรุ่งนี้ มั่นใจพรรคไม่มีงูเห่า
"อุ๊งอิ๊ง" มาเอง เพื่อไทยดัน"เศรษฐา" นั่งนายกฯ ก่อน หาก "พิธา" วืดเก้าอี้อีกพรุ่งนี้ มองเป็นตัวเลือกที่ดีสุด มั่นใจไม่มีงูเห่า
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ประกาศชัดเจนว่าหากไม่สามารถผ่านการโหวตนายกรัฐมนตรีรอบที่สอง ก็จะเป็นคิวของพรรคเพื่อไทย ว่า คิดว่านายพิธา อาจพูดไปตามระบบระบอบ แต่พรุ่งนี้ต้องโหวตให้เต็มที่ก่อน เพราะว่าอย่างไรเพื่อไทยก็สนับสนุนนายพิธาอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าในพรุ่งนี้ อาจจะมีโอกาสเร็วขึ้น หากการเสนอชื่อนายพิธา เป็นการโหวตญัตติซ้ำ พรรคเพื่อไทยก็อาจจะถูกเสนอขึ้นมาในวันพรุ่งนี้ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ที่เราเตรียมกันไว้คือการเตรียมโหวตให้กับนายพิธา ถ้าพรุ่งนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร กรรมการบริหารพรรคต้องคุยกันก่อน
เมื่อถามว่าหากเป็นเกมเร็ว คือไม่สามารถเสนอได้ในวันพรุ่งนี้ แคนดิเดตนายกของพรรคเพื่อไทยทั้งสามคนได้พูดคุยกันหรือไม่ว่าจะเสนอใคร น.ส.แพทองธาร ระบุว่า พรรคเพื่อไทยจะเสนอ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย แต่เราทำไปทีละขั้นตอน ส่วนกรณีที่มี ส.ว. ออกมาว่า ถ้ามีเพื่อไทย ก็ต้องไม่มีก้าวไกล น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขอให้เป็นการที่ 8 พรรคร่วม และกรรมการบริหารพรรค พูดคุยกัน เพราะตนเองไม่ได้มีหน้าที่ ที่จะตอบ แต่ขอให้เป็นไปทีละขั้นตอน เพราะจะทำให้เกิดความวุ่นวายและความไม่สบายของประชาชนด้วย
เมื่อถามว่าหากนายเศรษฐา ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ในส่วนของ น.ส.แพทองธาร จะทำหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรี อะไร น.ส.แพทองธารตอบว่า ในส่วนของตัวเอง ยังไม่ได้คิดไว้ ตอนนี้คิดว่าเคยบอกกับประชาชนไว้ตอนหาเสียงว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยทั้งสามคนจะช่วยกันทำงาน ทุกวันนี้ที่จะเสนอนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี เราก็ยังคงทำงานด้วยกันอยู่ ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งอะไรก็ช่วยกันได้แน่นอน
ส่วนหาก ส.ว. ไม่เอาพรรคก้าวไกลจริง ๆ เป็นไปได้หรือไม่ว่า รัฐบาลของพรรคเพื่อไทย จะไม่มีพรรคก้าวไกล น.ส.แพทองธาร ระบุว่า ยังพูดเหมือนเดิมว่า ต้องให้ทางกรรมการบริหารพรรคพูดคุยกันก่อน เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนหากจะพูดอะไรออกไป ตอนนี้ยังไม่มีคำตอบแบบนั้น
ส่วนจากที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่ามีการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยไว้บ้างแล้ว น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะไม่ได้คุยกับตน ดังนั้นอาจจะมีความเป็นไปได้หากรอบสามเสนอชื่อนายเศรษฐา ในการชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พรรคชาติไทยพัฒนาที่จุดยืนว่าไม่เอาพรรคที่แก้ ม.112 จะโหวตให้ น.ส.แพทองธารระบุว่า ยังไม่ขอลงรายละเอียด
“ต้องโฟกัสว่าเราจะจัดตั้งรัฐบาลให้ประชาชนได้เมื่อไหร่ เพื่อให้พร้อมทำงาน เมื่อเราโฟกัสภาพใกล้จะเป็นภาพว่าใครจะขึ้น แต่ประเทศชาติต้องไปต่อแล้ว เหมือนที่พูดไว้ตั้งแต่ตอนหาเสียง แต่เข้าใจว่าตอนนี้ในเรื่องของรัฐธรรมนูญและกติกาต่าง ๆ มันไม่ปกติ มีกับดักที่ว่งไว้เยอะแยะมากมาย ต้องผ่านตรงนี้ไป และโฟกัสกับประเทศชาติและประชาชน ว่าพีฒนาต่อไปได้อย่างไร เรื่องปากท้องต้องแก้ไขแล้ว ถ้าผ่านไปได้ประเทศชาติก้าวหน้าต่อไป ต่างชาติจะได้มั่นใจและมาลงทุนกับเราสักที อยากมห้ทุกคนโฟกัสตรงนั้น” น.ส.แพทองธารกล่าว
เมื่อถามว่าถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล น.ส.แพทองธาร จะออกหน้าดีลเอง ในการหาเสียงสนับสนุนหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ต้องดูตัวเลขเป็นหลัก เพราะเสียงยังไม่ครบ 375 เสียงก็จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ คิดว่าถ้าช่วยอะไรได้ก็ช่วย ถ้ามีประโยชน์ในการคุยกับใครได้บ้าง แต่พรุ่งนี้ก็คือเต็มที่ในการโหวตให้กับนายพิธาเหมือนเดิม เพราะไม่ทราบจริง ๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ส่วนกรณีที่กลุ่ม ส.ส. ภาคอีสาน อยากให้ น.ส.แพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี แทนนายเศรษฐา ที่พรรคมีแนวทางนำเสนอ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า ไม่ทราบว่าข่าวนี้มาจากไหน แต่ต้องเป็นสิ่งที่ต้องตกลงกันในพรรค
“ตอนนี้ประเทศชาติไม่ง่าย เพราะฉะนั้นตัวเลือกที่ดีที่สุดกับประเทศชาติ ณ ตอนนี้ คือคุณเศรษฐา ที่จะช่วยในเรื่องของเศรษฐกิจ ถ้าเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล แต่ถ้าไม่ได้เราก็ทำงานร่วมกัน ใตการที่จะช่วยประเทศชาติ ถ้าเป็นหัวหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล ถ้าต้องเลือกจากเรา เรามองว่าเป็นคุณเศรษฐา” น.ส. แพทองธารกล่าว สำหรับเรื่องงูเห่า 20-30 คน ในพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร มองว่า เป็นเรื่องที่มีการเข้าใจผิดกัน แต่จะต้องมีการพูดคุยกัน และส่วนตัวยังมั่นใจใน ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามถึงกรณีที่ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเดินกลับมาประเทศไทย ภายในช่วงเดือนสองเดือนนี้ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า มีการเลื่อนวันกลับนิดหน่อย แต่ไม่เยอะมากจากเดิม เพราะการเมืองยังไม่นิ่ง การเลือกนายกรัฐมนตรียังไม่เรียบร้อย หากเหตุการณ์ราบรื่น ก็ไว้ว่ากัน ส่วนเอกสารหลุดของหน่วยงานราชการ ที่เตรียมรับ ดร.ทักษิณ หากกลับมาประเทศไทย น.ส.แพทองธาร บอกว่า ไม่ใช่การเตรียมการของคุณพ่อ แต่เมื่อมีข่าวออกมาในทางสาธารณะ ทางการก็อาจจะเตรียมไว้ คาดว่าเป็นการเตรียมเอาไว้ ว่าหากกลับมาจริง จะต้องมีการดำเนินการอะไรบ้าง พร้อมย้ำว่า หากการเมืองนิ่งเมื่อไหร่ ก็กลับ แต่ไม่รู้ว่าสำหรับคุณพ่อ การเมืองนิ่ง คือนิ่งเบอร์ไหน เพราะคุณพ่อไม่หนึ่งในปัจจัยของความขัดแย้ง