"ชลน่าน" ย้ำ เพื่อไทยไม่ปล่อยมือก้าวไกล ยอมรับไม่พอใจ ปธ.สภาฯ ปมญัตติเสนอชื่อ "พิธา"

"ชลน่าน" ย้ำ เพื่อไทยไม่ปล่อยมือก้าวไกล ยอมรับไม่พอใจ ปธ.สภาฯ ปมญัตติเสนอชื่อ "พิธา"

"ชลน่าน" ย้ำ เพื่อไทยไม่ปล่อยมือก้าวไกล ยอมรับไม่พอใจ ปธ.สภาฯ ปมญัตติเสนอชื่อ "พิธา"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"หมอชลน่าน" ย้ำเพื่อไทยไม่ปล่อยมือก้าวไกล รอนัดหมายหารือชื่อนายกฯ โหวตครั้งที่ 3 เห็นด้วยยื่นศาล รธน. ตีความมติที่ประชุมรัฐสภา งดตอบถอย ม.112

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ถึงทิศทาง ของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลหลังจากนี้ว่าเมื่อนี้ ( 19 ก.ค.) เป็นเหตุที่ปรากฏขึ้น ว่า ไม่สามารถเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบได้ โดยมีผลการวินิจฉัยว่า เป็นญัตติซ้ำ จึงถูกตีตกไป เหตุการณ์นี้ไม่ควรเกิดขึ้น ไปเป็นข้อที่จะผูกมัดต่อไปด้วย เพราะคำวินิจฉัยของรัฐสภาเป็นการผูกมัดการใช้ข้อบังคับของตนเอง

แต่ข้อบังคับนี้เป็นข้อบังคับเฉพาะ ในรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เท่านั้น ถ้าเราเปลี่ยนไปใช้ข้อบังคับนี้กับรัฐธรรมนูญมาตรา 159 ผลผูกพันก็จะลดลงไป ดังนั้นการเดินหน้าของ 8 พรรค ก็ต้องเป็นไปตาม MOU ที่ทำร่วมกันโดยให้สิทธิ์แกนนำคือพรรคก้าวไกลเป็นผู้เริ่มในทุกกระบวนการ

ดังนั้น การพูดคุยต่อจากนี้ให้เป็นหน้าที่ของพรรคก้าวไกลเป็นผู้นัดหมายมา เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทางเลขาธิการของพรรคพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยได้ มีการหารือกันเบื้องต้น และจะมีการนัดหมายต่อไป พร้อมยันว่าพรรคเพื่อไทยยังไม่ปล่อยมือจากพรรคก้าวไกลขณะนี้ยังอยู่ด้วยกัน

ส่วนการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ในการโหวตครั้งที่ 3 จะเป็นแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเลยหรือไม่นั้น ให้ขึ้นอยู่กับการพูดคุยกันที่จะเกิดขึ้นยังไม่สามารถที่จะฟันธงได้ รอเพียงพรรคก้าวไกลนัดหมายมาอาจจะเป็นวันนี้หรือวันพรุ่งนี้

ทั้งนี้ เมื่อรัฐสภามีมติว่าจะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีซ้ำไม่ได้ หากวินิจฉัยว่า การเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีเป็น ไปตามข้อบังคับที่ 41 ซึ่งก็ยังสามารถใช้ข้อบังคับที่ 41 ในตัวเองได้ เพราะยังมีวรรคท้ายอยู่ ที่ระบุว่า กรณีที่การเปลี่ยนแปลงไปยังสามารถเสนอได้ เช่น การเสนอชื่อของนายพิธา ขึ้นมาใหม่ และมีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกขึ้นมาด้วย

สำหรับกรณีที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ได้ โพสต์ Facebook ส่วนตัวแสดงความเห็นไม่พอใจต่อการวินิจฉัยข้อบังคับที่ 41 ที่ทำให้บทบัญญัตในรัฐธรรมนูญดูเป็นง่อย นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ในเรื่องนี้นายบวรศักดิ์ ไม่เห็นชัดเจน เพราะ เป็นเรื่องรัฐธรรมนูญ และยังให้แนวว่าบุคคลที่เห็นว่าถูกละเมิดสิทธิ์

ก็สามารถใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 243 ยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดินได้ เป็นสิทธิ์ของบุคคลไม่ใช่สิทธิ์ของ ส.ส. แต่กระบวนการร้อง ต้องร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน หากผู้ตรวจการแผ่นดินไม่รับ ก็สามารถร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้

สำหรับการวินิจฉัยข้อบังคับที่ 41 มีคน ไม่พอใจในการทำหน้าที่ของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา นายแพทย์ชลน่าน ระบุว่า ไม่มีใครพอใจ ตนเองก็ไม่พอใจที่มีการวินิจฉัยออกมาแบบนี้ ตนพยายามหาทางออกให้ เมื่อผลออกมาเช่นนี้ก็ต้องยอมรับไม่มีใครพอใจ โดยหลักแล้วเราอยู่ในระบบนี้ ระบบการปกครอง ระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ระบบรัฐสภา ระบบเสียงข้างมากเราต้องยึดถือ แต่สิ่งหนึ่งที่อาจจะคลางแคลงใจไม่พอใจ คือ เสียงข้างมากไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม

พร้อมยืนยันว่า หลังจากนี้จะมีปัญหาในการทำหน้าที่ในที่ประชุมรัฐสภาอย่างแน่นอน แค่บทเรียนครั้งนี้สามารถนำไปปรับปรุงแก้ไขได้ เพราะข้อบังคับเกิด สมาชิกรัฐสภาเป็นผู้กำหนดตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเมื่อหมดวาระ ส.ว. วันที่ 11 พ.ค. 2567 ก็มีความชอบที่จะแก้ไขข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยยกเอาเรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรี นำเรื่องการเห็นชอบนายกรัฐมนตรีมากำหนดไว้ในสภาผู้แทนราษฎร อะไรที่เป็นข้อจำกัดมนข้อบังคับของการประชุมรัฐสภา ก็สามารถนำไปบัญญัติไว้ในข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรให้ชัด

นายแพทย์ชนน่าน ระบุว่า มีความเป็นห่วงในเรื่องการเสนอชื่อซ้ำ และยอมรับว่า พรรคเพื่อไทยตกภาระลำบาก หากได้รับโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งตามหลักการแกนนำจะต้องไปแสวงหาความมั่นใจว่าก่อนเสนอเสียงจะผ่าน ไม่มีใครที่อยู่ในสมรภูมิที่แพ้แล้วไปรบ เพราะเราจะเสียคนของเราไปด้วย

ส่วนกรณีพรรคก้าวไกลจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความนั้น ตนเห็นสมควรด้วย อะไรที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ถ้าเรามีสิทธิก็ควรจะต้องดำเนินการ สำหรับกรณีส.ว. บางคนระบุว่า ถ้าเพื่อไทยยังจับมือกับพรรคก้าวไกลจะไม่โหวตให้นั้น เราคงไม่รอให้มีมติออกมา กรณีที่เราต้องเสนอถ้ารอมติตรงนั้นก็แพ้อย่างเดียว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่มีแนวทางในการดำเนินการหาเสียงเพิ่ม เพราะถ้าบอกว่ามีจะหาว่าเราคิดไปก่อน

ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่บอกว่า 8 พรรคร่วมติดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรกนั้น คงแล้วแต่มุมมอง จะสรุปว่าผิดหรือไม่ จะต้องดูข้อเท็จจริง และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ให้ดูเป็นเรื่องๆ ไป ความเห็นต่างเป็นสีสันของระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้จากเหตุการณ์เมื่อวานเป็นเพราะ8 พรรคร่วมแพ้ จึงถูกมองว่าเราติดกระดุมผิด แต่หากเราชนะก็จะมีการมองอีกแบบ

 

อัลบั้มภาพ 102 ภาพ

อัลบั้มภาพ 102 ภาพ ของ "ชลน่าน" ย้ำ เพื่อไทยไม่ปล่อยมือก้าวไกล ยอมรับไม่พอใจ ปธ.สภาฯ ปมญัตติเสนอชื่อ "พิธา"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook