ปปส.ขยายผลจับยาบ้าที่บางพลีได้กว่า1ล้านเม็ด

ปปส.ขยายผลจับยาบ้าที่บางพลีได้กว่า1ล้านเม็ด

ปปส.ขยายผลจับยาบ้าที่บางพลีได้กว่า1ล้านเม็ด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปส.วิสามัญฯ พ่อค้ายาบ้าดับคาปิกอัพบนด่วนพระราม 2 เผยนาทีระทึกตำรวจขับปาดหน้า ทำทียกมือไหว้ยอมให้จับ พอเผลอฮึดสู้ถูกยิงสวนดับ ค้นรถเจอยาบ้า 5 หมื่นเม็ด "อดิเทพ"แฉแก๊งเดียวกับที่ถูกจับ 2 แสนเม็ดที่คลองเตย ยกกำลังบุกทลายแหล่งพักยาย่านบางพลีได้กล่าว 1 ล้านเม็ด

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) บุกจับกุม นายภูมินทร์ คล้ายแก้ว อายุ 44 ปี ชาวปทุมธานี และนายยงยุทธ์ วีระพันธ์ อายุ 45 ปี สองผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้ากว่า 2 แสนเม็ด และสารตั้งต้นผลิตยาบ้า จากนั้นได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหาย่านคลองเตย พบเครื่องปั๊มยาบ้าอีก 2 เครื่อง ซึ่งเป็นการจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายค้ายาบ้ารายใหญ่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลติดตามจับกุมเครือข่ายเดียวกันแต่คนร้ายรายนี้กลับขัดขืนจึงถูกวิสามัญฆาตกรรม

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 29 มกราคม พ.ต.ท.ธัชพงษ์ ปิ่นรอด พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.บางมด รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.วิสามัญฯ เอเย่นต์ค้ายาบ้าที่บริเวณทางลงด่วนเฉลิมมหานคร (ด่วนพระราม 2) ใกล้ปากซอยพระราม 2/23 ตรงข้ามโรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล แขวงและเขตจอมทอง กทม. หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ท.อดิเทพ ปัญจมานนท์ ผู้บัญชากาารตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) พล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รอง ผบช.ปส. พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 (รองผบก.น.8) พ.ต.อ.เศรษฐศักดิ์ ยิ้มเจริญ ผกก.สน.บางมด เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และมูลนิธิร่วมกตัญญู

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ ไฮแลนเดอร์ แบบ 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ทะบียน กง 1186 สุพรรณบุรี จอดอยู่ในเลนขวา ในที่นั่งคนขับพบศพ นายมานพ แจ้งคล้ายคม อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 229 หมู่ 10 ต.สระพังลาน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี มีบาดแผลถูกอาวุธปืนขนาด 9 มม.เข้าที่บริเวณหัวคิ้วขวา ต้นแขนขวา หน้าอก และชายโครงขวา รวม 4 แผล ที่เบาะด้านหลังคนขับพบของกลางยาบ้า จำนวน 5 หมื่นเม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายสีดำ ที่บริเวณพื้นถนนข้างรถพบกองเลือด และอาวุธปืนขนาด 11 มม. มีกระสุนบรรจุอยู่ในแม็กกาซีน จำนวน 3 นัด ซึ่งเป็นอาวุธปืนของคนร้ายตกอยู่ในลักษณะขึ้นลำพร้อมยิง นอกจากนั้น ยังพบแว่นตา หมวกแก็ป และปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 ปลอก จึงเก็บทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด้านหน้ารถของคนร้าย มีรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฌท 3128 กรุงเทพมหานคร ส่วนด้านหลังรถคนร้ายมีรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า คัมรี สีบรอนซ์ฟ้า ทะเบียน พฮ 8384 กรุงเทพมหานคร รถทั้ง 2 คันเป็นรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 บช.ปส.จอดปิดหัวท้ายรถของคนร้าย อย่างไรก็ตาม การวิสามัญฯ คนร้ายครั้งนี้ส่งผลให้การจราจรบริเวณถนนพระราม 2 ติดขัดอย่างหนักเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร โดยเฉพาะรถที่จะลงถนนพระราม 2 เนื่องจากเจ้าหน้าที่ปิด 1 ช่องทาง เพื่อตรวจสอบจุดเกิดเหตุ

ด้าน พล.ต.ท.อดิเทพ เปิดเผยว่า การวิสามัญฯ คนร้ายครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.ได้บุกเข้าทลายโรงงานผลิตยาบ้าย่านคลองเตย เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 28 มกราคม ที่ผ่านมา โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 2 แสนเม็ด จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลพบว่า นายมานพ คนร้ายรายนี้มีความเชื่อมโยงกับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ที่ย่านคลองเตย เนื่องจากนายมานพได้รับยาบ้ามาจากแหล่งเดียวกัน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 บช.ปส. นำโดย พ.ต.อ.สุรภัค รอดโพธิ์ทอง ผกก.3 กก.ปส.3 บช.ปส. สืบทราบว่านายมานพจะไปรับยาบ้าของกลางจากเอเย่นต์ที่ห้างบิ๊กซี สาขาบางพลี จ.สมุทรปราการ จึงได้นำกำลังเฝ้าติดตามมาจากห้างดังกล่าว และหลังจากคนร้ายรับยาบ้าซึ่งคาดว่ากำลังขับรถมุ่งหน้าไปส่งให้แก่ลูกค้า เจ้าหน้าที่จึงขับรถติดตามมาห่างๆ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ คนร้ายไหวตัวทันโดยสังเกตเห็นว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามมา จึงพยายามเร่งเครื่องรถหลบหนี

"ตำรวจขับรถตามมาตั้งแต่ห้างบิ๊กซี แต่พอใกล้จะถึงจุดที่วิสามัญฯ คนร้ายไหวตัวทันพยายามจะขับรถหนี ทางเราก็ไล่ตามมาติดๆ เราคิดว่าถ้าปล่อยให้คนร้ายลงทางด่วนไปได้ก็จะยุ่งยากแน่ เพราะด้านล่างการจราจรแออัด ถ้าคนร้ายคิดต่อสู้ก็อาจจะมีประชาชนที่ขับรถผ่านในเส้นทางถูกลูกหลงแน่ ตำรวจชุดจับกุมจึงพยายามขับรถแซงเพื่อปาดหน้ารถคนร้าย แต่คนร้ายก็พยายามบังไม่ให้รถตำรวจขับแซง แต่พอดีมีจังหวะแซงขึ้นไปได้จึงเบรกให้รถคนร้ายจอด ตำรวจจอดประกบหน้าหลังรถคนร้าย คนร้ายเห็นจวนตัวจึงเปิดประตูรถเดินลงมายกมือไหว้คล้ายจะยอมมอบตัว แต่พอเผลอกลับชักปืนพยายามจะยิงใส่ ตำรวจจึงยิงสวนกลับไปถูกคนร้ายได้รับบาดเจ็บ แต่คนร้ายพยายามขึ้นรถเพื่อขับหลบหนีแต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตอยู่บนรถ" พล.ต.ท.อดิเทพ กล่าว

ผบช.ปส. กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบประวัติอาชญากร พบว่าคนร้ายรายนี้เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในคดีพกพาอาวุธปืนในพื้นที่ สน.โคกคราม มาแล้วเมื่อช่วงเดือนมกราคม 2551 อย่างไรก็ตาม ในช่วงเย็นวันเดียวกันทาง บช.ปส.เตรียมจะนำกำลังบุกเข้าทลายแหล่งพักยาบ้าในย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ ที่ส่งยาบ้าให้แก่คนร้ายรายนี้ต่อไป


ปปส.ขยายผลจับยาบ้าที่บางพลีได้กว่า1ล้านเม็ด

ขณะเดียวกันเมื่อเวลา 18.00 น. พล.ต.ท.อติเทพ ปัญจะมานนท์ผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ท. กฤษณะ ผลอนันต์ผู้บัญชาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และเจ้าหน้าที่จาก ดีอีเอ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีพล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รองผู้บัญชาการปปส. เป็นผู้คุมกำลังพร้อมหน่วยคอมมานโดรวม 80 นาย ได้เข้าบุกตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่งใน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังจากขยายผล การจับกุมที่ห้างดังย่าน พระราม 2 ทราบว่า เป็นแหล่งค้ายาบ้า โดยเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นที่บ้าน เลขที่ 16 / 2 หมู่ 4 ต.บางพลีใหญ่ ซึ่งเป็นร้านขายเครื่องเซรามิค พบนายนันพงษ์ รัตนากรแก้วจินดา อายุ 30 ปี ภูมิลำเนาเดิม เพชรบูรณ์ ตรวจค้นภายในบ้าน พบยาบ้าซุกไว้ใต้เตียงนอน พบยาบ้า 1 , 010 , 000 เม็ด(หนึ่งล้านหนึ่งหมื่นเม็ด)

จากการสอบสวนนายนันพงษ์ รับสารภาพว่า ได้รับจ้างขนยาบ้ามาจากนายจ้างคนหนึ่ง โดยให้ตนไปรับที่อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ จากนั้นได้นำยาบ้ามาพักไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว โดยรับมาจำนวน 1 , 110 , 000 โดยเมื่อช่วงเช้าวันนี้ได้นำยาบ้าไปส่งลูกค้าที่ห้างดังกล่าว สาขาพระราม 2 จำนวน 100,000 เม็ด ได้ค่าจ้างมา 300 , 000 บาท ส่วนบ้านเช่าหลังนี้ได้เช่าแค่ 2 เดือนและจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ โดยจะมีคนมาเช่าบ้านให้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมนำตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook