อนุพงษ์ ไฟเขียวสัปดาห์หน้าผ่าจีที200
อนุพงษ์ ไฟเขียวสัปดาห์หน้าผ่าจีที 200 กองทัพท้า เจษฎา ฟอร์มทีมเลือกวันเวลา-สถานที่ กร้าวผลเป็นอย่างไรต้องยอมรับ เผยขวัญทหารในพื้นที่กำลังแย่ อ้างผลงานจีที 200 จับยาบ้าล้านเม็ดของ ตร. ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 4 ท้านักวิชาการแน่จริงลงมาทำงานแทน ส่วน อบจ.ทั่วประเทศปัดซื้อจีที 200 หลังลือสะพัดปันงบซื้อมาใช้
(30ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสการผ่าพิสูจน์เครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200 เพื่อไขข้อข้องใจเรื่องประสิทธิภาพยังคงถาโถมเข้าสู่กองทัพอย่างต่อเนื่อง แม้ก่อนหน้านี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก มีคำสั่งชะลอการสั่งซื้อเครื่องจีที 200 ทั้งหมด พร้อมให้ผู้เชี่ยวชาญผ่าพิสูจน์แล้วก็ตาม ทั้งนี้เพื่อให้ข้อข้องใจต่างๆ ได้ข้อยุติ ล่าสุดมีรายงานว่า กองทัพบกได้เชิญให้กลุ่มนักวิชาการจัดทีมขึ้นมาเพื่อเลือกวันเวลาในการพิสูจน์เครื่องจีที 200 ในสัปดาห์หน้าแล้ว
พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีผ่าพิสูจน์เครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200 ว่า เรื่องนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าจะมีการผ่าพิสูจน์อย่างไร แต่เบื้องต้น พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.นิติวิทยาศาสตร์ ได้พิสูจน์ให้สื่อมวลชนได้เห็นกันไปแล้วว่า จีที 200 สามารถตรวจหาวัตถุระเบิดได้อย่างแม่นยำ ทั้งนี้อยากให้หยุดพูดเรื่องนี้ได้แล้ว เพราะเจ้าหน้าที่จะได้ทำงานแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้แก่ประชาชนที่เดือดร้อนกับสถานการณ์ในพื้นที่อย่างราบรื่น
"ผมอยากให้นักวิชาการมองในภาพรวม และต้องถามความเห็นของผู้ปฏิบัติงานมากกว่า แม้ว่าทางด้านวิชาการจะมีความแน่นอน 100% แต่เครื่องมือที่จะทำงานเพียงแค่ 90% ผมก็พอใจแล้ว ดังนั้นการทำงานต้องเอาหัวใจเข้ามาทำงาน นักวิชาการที่โจมตีก็นั่งแต่ห้องแอร์ ดังนั้นให้ลงมาทำงานในพื้นที่ หรือจะมาทำงานแทนผมก็ได้ ไม่ใช่เพียงแต่ลุกขึ้นมาด่ากันแบบนี้ นักวิชาการคิดเพียงมิติเดียว แต่พวกผมทำงานจะต้องคิดหลายมิติ และต้องมองไปข้างหน้าว่าจะแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่อย่างไร ถ้ามัวแต่มองไปทางด้านเดียวแก้ไขปัญหาไม่ได้หรอก" พล.ท.พิเชษฐ์ ระบุ
แม่ทัพภาคที่ 4 บอกด้วยว่า ถ้าไม่มี จีที 200 ผู้ปฏิบัติคงไม่กล้าเข้าไปทำงาน เพราะไม่รู้คนร้ายนำระเบิดไปซุกซ่อนไว้ที่ใดบ้าง แต่เมื่อมีจีที 200 แล้ว ผู้ปฏิบัติมีความอุ่นใจทุกครั้งเมื่อลงปฏิบัติงาน ดังนั้นนักวิชาการอย่ามัวแต่พูดเรื่องวิชาการอย่างเดียวแต่จะต้องผสมผสานเอาความจริงใส่เข้าไปด้วย วันนี้นักวิชาการไม่ได้ทำงานอยู่ในพื้นที่คงไม่รู้หรอก และอยากบอกว่า ทหารไม่ได้โง่ และไม่อยากตายอยากมีชีวิตรอดเหมือนกับคนอื่นๆ ดังนั้นต้องเข้าใจกันในการทำงานว่าเป็นอย่างไร
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากที่นักวิชาการออกมาโจมตีเครื่องตรวจวัตถุระเบิดจีที 200 ว่าใช้งานไม่ได้ผลนั้น กระทั่ง พล.อ.อนุพงษ์ ออกมาประกาศว่าพร้อมที่จะให้ผ่าพิสูจน์จีที 200 โดยเบื้องต้นได้สั่งไปยังกรมสรรพาวุธทหารบก ให้ตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับจีที 200 แล้ว คาดว่าการผ่าพิสูจน์จีที 200 อาจจะเป็นสัปดาห์หน้า เพื่อพิสูจน์ให้เห็นกันอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร
แหล่งข่าวระดับสูงในกองทัพบก กล่าวถึงการพิสูจน์ประสิทธิภาพของจีที 200 ว่า ขณะนี้ผู้บังคับบัญชากำลังรอให้ ผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไปรวบรวมนักวิชาการมา และขอให้นักวิชาการเป็นคนเลือกวันเวลาและสถานที่ในการทดสอบเอง กองทัพพร้อมที่จะพิสูจน์ทุกเมื่อ แต่มีข้อแม้ว่าต้องมีทุกภาคส่วนเข้าไปพิสูจน์ และผลออกมาอย่างไรต้องยอมรับ เพราะข่าวที่ออกมาส่งผลกระทบต่อกำลังพลในพื้นที่มาก หากผลพิสูจน์เป็นอย่างไรก็ควรยอมรับ และหยุดพูดเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนอีก
เมื่อถามถึงการแถลงข่าวของเนคเทคที่ระบุว่า โดยหลักการทางวิทยาศาสตร์ไม่ค่อยเชื่อถือหลักการ "ไฟฟ้าสถิต" ในร่างกายของมนุษย์ แหล่งข่าวคนเดิม กล่าวว่า ขณะนี้ถึงพูดอย่างไรอีกฝ่ายก็ไม่เชื่อถือและไม่ยอมรับอยู่แล้ว จึงอยากให้มีการพิสูจน์กันอย่างเป็นทางการดีกว่า แต่อยากให้ตั้งข้อสังเกตว่า ในการเข้าตรวจค้นและยึดยาเสพติดเป็นล้านเม็ดที่กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้ ก็ใช้เครื่องจีที 200 ในการตรวจสอบ หรือกรณีการตรวจหายาเสพติดของตำรวจทหารที่ จ.ลำปาง ก็ใช้จีที 200 เช่นกัน จึงอยากให้หาคำตอบด้วยว่า เหตุใดจีที 200 จึงยังใช้งานได้ดีอยู่
วันเดียวกัน นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ สำนักข่าวไทย ถึงการใช้เครื่องตรวจหาสารประกอบวัตถุระเบิดจีที200 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากมีคำสั่งให้ตรวจสอบ และระงับการจัดซื้อเครื่องดังกล่าวเพิ่ม ว่า ทหารในพื้นที่ยังคงใช้อยู่ คนในพื้นที่ก็ไม่ได้วิตกกังวลและเข้าใจความจำเป็นของทหารที่ต้องมีเครื่องมือสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนการตรวจสอบเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เท่าที่ทราบ รัฐบาลชุดนี้ยังไม่ได้จัดซื้อเครื่องจีที 200 หากฝ่ายค้านจะนำเรื่องนี้ไปอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็คงไม่เป็นปัญหา
"ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย มีเพียงเรื่องการจัดซื้ออัลฟา 6 ไว้ในการตรวจหาสารเสพติดเท่านั้น ส่วนจะมีประสิทธิภาพใช้ได้ผลหรือไม่ ก็ต้องว่ากันไปอีกเรื่องหนึ่ง การจัดซื้อเครื่องอัลฟา 6 นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย เป็นผู้ดำเนินการ หากมีการตรวจสอบใคร ทำอะไร ถ้ามีความผิด ก็ต้องรับผิดชอบไป แต่เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา" นายถาวร กล่าว
นายถาวร ยังกล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยว่า การทำงานของรัฐบาลชุดนี้ถือว่าประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง พื้นที่สีแดงลดลง ประชาชนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่มากขึ้น ดูได้จากการต่อต้านของประชาชนในพื้นที่ลดน้อยลง เมื่อเทียบกับสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ถ้ามีการจับกุมหรือเข้าตรวจค้นในพื้นที่ จะถูกประชาชนในพื้นที่ต่อต้าน แต่รัฐบาลชุดนี้ไม่มีเรื่องดังกล่าว