วรภพ สส. ก้าวไกล หวั่นประกันสังคมล้มอีก 31 ปี คนวัย 24 จะไม่ได้เงินคืนเลย
นายวรภพ วิริยะโรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพฤหัสบดี (21 ก.ค.) เกรงว่าหากยังบริหารกองทุนประกันสังคมแบบนี้ต่อไป อาจล้มละลายในอีก 31 ปีข้างหน้า เท่ากับว่าคนอายุ 24 ปีในขณะนี้ จะไม่ได้รับเงินที่ส่งเข้ากองทุนเลยสักบาท
"ผมคิดว่ามันถึงเวลาสื่อสารถึงระเบิดเวลาลูกใหญ่นะครับที่รอระเบิดอยู่นะครับ ก็คือประกันสังคมจะถังแตกในอีก 30 ปีนี้นะครับ ก็คือล้มละลายในอีก 30 ปีข้างหน้า ผมคิดว่ามันหมายถึงอะไร มันหมายถึงว่า คนที่อายุ 24 ปีนี้ ทำงานส่งเงินเข้าประกันสังคมตลอดชีวิต แต่เมื่อเกษียณแล้วเนี่ยเขาจะไม่ได้เงินเลยสักบาท ผมว่านี่คือใจความสำคัญที่ประกันสังคมเนี่ยต้องอธิบายกับพี่น้องประชาชน" นายวรภพ กล่าว
"คนที่อายุมากกว่านี้ก็สะสมไปแต่เงินเกษียณที่จะได้มาก็ได้ไม่ครบ ดังนั้นเนี่ยมันไม่ใช่แค่เรื่องของคนอายุ 24 ลงไปนะครับ นี่คือระเบิดลูกใหญ่ที่รอรัฐบาลใหม่ให้เข้าไปแก้ปัญหา"
นายวรภพ กล่าวต่อไปว่า แม้ขณะนี้ประกันสังคมพยายามแก้ไขปัญหานี้อยู่หลายวิธี เช่น การเพิ่มเพดานเงินที่ส่งเข้าประกันสังคม และการขยายการเกษียณอายุ แต่ตนมองว่าไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ยั่งยืนนัก
แนะเปลี่ยนระบบจ่ายตายตัวเป็นยิ่งสะสมยิ่งได้
สส. พรรคก้าวไกลรายนี้ เสนอว่า ควรเปลี่ยนระบบส่งเงินเข้ากองทุนจากแบบ Defined benefits ที่ส่งเงินตายเข้าแบบตายตัว เป็น Defined contribution หรือแบบยิ่งสะสมยิ่งได้มาก คล้ายกับระบบกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)
"นี่คือเหตุผลที่ท่านจะสามารถอธิบายกับพี่น้องประชาชนได้ว่าทำไมถึงควรจะต้องขยายเพดานเงินเดือน ทำไมถึงต้องเพิ่มเงินสะสม และก็ทำไมต้องเพิ่มขยายเวลาเกษียณ เพื่อให้พี่น้องผู้ประกันตนนั้นได้เงินเกษียณมากขึ้น และก็เป็นหลักการที่ว่าไม่เอา- ตกให้เป็นภาระของคนรุ่นหลังมาจ่ายให้กับคนรุ่นก่อน"
"สมัยก่อนเขาอาจจะออกแบบไว้ว่าสักวันหนึ่งจะมาเพิ่มทยอยขยายเพดานขึ้น แต่ 30 ปีที่ผ่านมาสิ่งเหล่านี้ไม่เกิดขึ้น ระเบิดเวลาลูกนี้มันก็เลยจะเข้ามาถึง เข้าใกล้งวดขึ้นทุกวันๆ นี่คือเหตุผลที่ผมอยากให้ทบทวนว่าถึงเวลาแล้วถ้าท่านจะขยายเพดานเนี่ย ไม่ใช่ปรับจาก Defined benefits ที่แค่เพียงแค่ขยายเพดานเงินสะสม เงินสมทบเพิ่ม แต่ถึงเวลาให้เปลี่ยนเป็น Defined contribution ที่รัฐบาลการันตีขั้นต่ำ ผมว่าแบบนี้อธิบายแบบน้องประชาชนได้ว่ารัฐบาลยังการันตีผลตอบแทนที่ได้รับเมื่อยามเกษียณที่ขั้นต่ำอยู่เหมือนเดิม ไม่น้อยไปกว่าเดิมเลย แต่ใครก็ตามที่สะสมเพิ่มก็ได้รับเงินเกษียณเพิ่มไปด้วย"
ปรับใช้โมเดลสิงคโปร์ เปิดเอกชนแข่งขัน
นายวรภพเสนอรูปแบบประกันสังคมของสิงคโปร์ว่าควรนำมาปรับใช้ คือ การเปิดให้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพของเอกชนมาแข่งขันกับกองทุนประกันสังคม เพื่อให้กองทุนประกันสังคมตื่นตัวในการนำเงินในกองทุนไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น
"การเปิดให้เอกชนเข้ามาแข่งขันเนี่ยคือการการันตีครับว่าผลตอบแทนที่ผู้ประกันตนจะได้จากการส่งเงินเข้าประกันสังคมเนี่ยจะได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดเพราะมีการแข่งขันนะครับ ซึ่งแน่นอนด้วยขนาดของท่านยังไงท่านก็คิดค่าใช้จ่ายต่ำกว่าเอกชนอยู่แล้ว แต่การเปิดการแข่งขันเป็นเรื่องที่ดีสำหรับผู้บริโภคอยู่แล้ว ในขณะเดียวกันจะบอกว่าเงินสะสมที่มากขึ้นจะเอาไปช่วยผ่อนบ้านก็ยังได้ นี่ก็คือโมเดลที่ประเทศสิงคโปร์เขาใช้เพื่อให้ทุกคนมีความมั่นคงในการที่อยู่อาศัยตรงนี้"