ฮุน เซน ปักหมุด ฮุน มาเนต พร้อมเป็นนายกฯ กัมพูชาคนใหม่? หลังเลือกตั้ง
นายกฯ กัมพูชา ฮุน เซน เผยว่า ฮุน มาเนต บุตรชายคนโตของเขา อาจเข้ามารับหน้าที่ผู้นำกัมพูชาได้เร็วที่สุดคือในเดือนหน้า นับเป็นการเดินเกมที่เหนือความคาดหมายไม่กี่วันก่อนการเลือกตั้งใหญ่กัมพูชา 23 กรกฎาคมนี้
แม้จะเป็นที่คาดหมายว่า ฮุน มาเนต จะเข้ารับอำนาจบริหารประเทศต่อจากพ่อของเขาที่ปกครองกัมพูชามาเกือบ 4 ทศวรรษ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยกรอบเวลาที่ชัดเจนมาก่อน
แต่ในการสัมภาษณ์ของฮุน เซน ซึ่งจะมีอายุ 71 ปีในเดือนหน้า กับสื่อฟีนิกซ์ ทีวี ที่ออกอากาศเมื่อวันพฤหัสบดี ฮุน เซน เผยว่า “ในอีก 3-4 สัปดาห์ ฮุน มาเนต จะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี มันขึ้นอยู่กับว่าฮุน มาเนต จะสามารถทำได้หรือไม่”
การส่งต่ออำนาจอย่างราบรื่น
นักวิเคราะห์หลายรายเชื่อว่าการปราบปรามนักการเมืองฝั่งตรงข้ามมีมาเพื่อให้แน่ใจว่าการเลือกตั้งในวันอาทิตย์นี้จะเป็นไปอย่างไร้คู่แข่งและสามารถเปลี่ยนผ่านอำนาจให้กับบุตรชายได้อย่างราบรื่น
ฮุน มาเนต บุตรชายคนโตของ ฮุน เซน จบการศึกษาจากวิทยาลัยกองทัพบกสหรัฐฯ ที่เมืองเวสต์พอยต์ รัฐนิวยอร์ก เมื่อปี 1999 และจบปริญญาเอกด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยบริสตอล ประเทศอังกฤษ เขาเป็นผู้ที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรครัฐบาลกัมพูชาในฐานะนายกรัฐมนตรีในอนาคต
ฮุน มาเนต จะเปิดตัวในสนามการเมืองอย่างเต็มตัวในศึกเลือกตั้งทั่วไปของกัมพูชาในวันอาทิตย์นี้ ขณะที่พรรครัฐบาล Cambodian People’s Party (CPP) ของฮุน เซน แทบจะไร้คู่แข่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ เนื่องจากพรรคฝั่งตรงข้ามถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้งไป
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องการส่งต่ออำนาจ โฆษกพรรครัฐบาล CPP สก อีสาน ได้กล่าวว่าพรรคมีแคนดิเดตนายกฯ 2 คน นั่นคือ ฮุน เซน และ ฮุน มาเนต และว่าไม่มี “อะไรจะยืนยันได้มากกว่านี้อีกแล้ว” จากสิ่งที่ผู้นำกัมพูชาได้กล่าวในบทสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์
ที่ผ่านมา ฮุน มาเนต เก็บตัวจากสาธารณชนมาตลอดในช่วงที่ค่อย ๆ ไต่เต้าขึ้นมารับตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพ และนับแต่นั้นเขาก็เริ่มมีบทบาทต่อการเมืองในประเทศมากขึ้น
ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าผู้นำในแบบของฮุน มาเนต นั้นจะเป็นเช่นไร เมื่อพิจารณาจากประสบการณ์การศึกษาและใช้ชีวิตในประเทศประชาธิปไตยฝั่งตะวันตกมาก่อนและการอยู่ในอำนาจของฮุน เซนที่กัมพูชา
ฮุน มาเนต ลงหาเสียงเลือกตั้งเป็นวันสุดท้ายในวันศุกร์ และแสดงความเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนจะเทเสียงถล่มทลายให้กับพรรครัฐบาล ซึ่งเขากล่าวเป็นเพียงพรรคเดียวที่สามารถบริหารประเทศและได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอย่างเต็มกำลัง
ฮุน มาเนต เขากล่าวกับผู้สนับสนุนระหว่างหาเสียงด้วยว่า “ประชาชนพร้อมลงคะแนนให้พรรค CPP เพื่อให้แน่ใจว่าประเทศจะมีอนาคตที่สดใสและมั่งคั่งไปถึงคนรุ่นต่อไป”