ชื่นมื่น! เพื่อไทย-ชทพ. ‘วราวุธ’ เผยเคยร่วมงานตั้งแต่ยุค ‘บรรหาร’ ย้ำจุดยืนไม่ร่วมพรรคแก้ ม.112
ชื่นมื่น! เพื่อไทย-ชทพ. ‘วราวุธ’ ย้ำจุดยืน ไม่ร่วมพรรคที่แก้ไขมาตรา 112 เผย ‘เพื่อไทย’ เคยทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ยุค ‘บรรหาร’ มอง เป็นเรื่องปกติที่พรรคการเมืองคุยกัน ขณะ “ชลน่าน” ปัดชวนจัดตั้งรัฐบาล ยันไม่ทิ้งก้าวไกล ขอยึด MOU 8 พรรคเป็นหลัก
ภายหลังการหารือร่วมกันประมาณ 40 นาที นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้นำนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมคณะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
โดยนายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า หลังจากพรรคเพื่อไทยได้รับมอบภารกิจจากพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ขอย้ำว่าการดำเนินการวันนี้ เป็นไปตามมติของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ให้พรรคเพื่อไทยดำเนินการแสวงหาเสียงสนับสนุนในรัฐสภา โดยมี 2 แนวทาง คือ หาเสียงจากสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งมีคณะทำงานและสอง ให้พรรคเพื่อไทยดำเนินการหาเสียงสนับสนุนจากพรรคการเมือง จึงเชิญพรรคการเมืองต่างๆ ที่อยู่ในสภามาพบปะพูดคุย เพื่อให้พรรคการเมืองได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลภายใต้แปดพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยย้ำว่า ไม่ใช่การร่วมรัฐบาล แค่การหาหรือพูดคุยก่อนหน้านี้แต่ละพรรคได้แสดงจุดยืนผ่านทั้งแถลงการณ์และผ่านช่องทางอื่นๆ
ซึ่งการพูดคุยของแต่ละพรรคก็เพื่อเป็นข้อมูล นำกลับเข้าไปพูดคุยที่ประชุม 8 พรรค วันนี้จึงขอบคุณทางพรรคชาติไทยพัฒนาที่นำโดยนายวราวุธ ที่ให้เกียรติกับพรรคเพื่อไทยมาหารือร่วมกัน โดยนายแพทย์ชลน่าน เน้นย้ำว่า การหารือวันนี้กับพรรคชาติไทยพัฒนาเป็นไปตามเป็นแนวทางของ 8พรรค ร่วมจัดตั้งรัฐบาล ไม่ใช่การเชิญมาเพื่อร่วมรัฐบาล แต่จะเป็นแนวทางจัดตั้งรัฐบาลให้ได้อย่างไร
ด้านนายวราวุธ ขอบคุณพรรคเพื่อไทยและผู้บริหารพรรคให้เกียรติเชิญมาหารือ และย้ำว่าสิ่งที่พรรคประกาศไว้ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งว่า หากจะทำงานร่วมกันไม่ว่าจะในมิติหรือบริบทใดจะต้องมีแนวนโยบาย ไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่ง
พรรคชาติไทยพัฒนายืนยันตั้งแต่ก่อตั้งเป็นพรรคชาติไทย จนถึงปัจจุบันพรรคมีจุดยืนชัดเจนที่เด่นชัดข้อหนึ่ง คือ การทำงานเพื่อชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์ อันเป็นสถาบันที่รัก ต้องไม่มีการแตะต้องแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญ ตลอดถึงทัศนคติต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ หากพรรคการเมืองใดมีแนวคิดเช่นเดียวกัน ก็ร่วมงานกันได้ แต่หากมีพรรคการเมืองแนวคิดที่แตกต่าง หรือคิดเห็นไม่ตรงกันเราก็คงจะแยกย้ายกันทำงาน ซึ่งสอดคล้องกับที่นายแพทย์ชลน่าน