โอบามา เสนองบประมาณปีหน้า 125 ล้านล้านบาท
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เสนองบประมาณปี 2554 มูลค่า 3.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 125.4 ล้านล้านบาท) พร้อมรับปากจะลดยอดขาดดุลงบประมาณและอัตราว่างงาน
ประธานาธิบดี โอบามา กล่าวหลังเสนองบประมาณซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนกันยายน 2554 ว่า จะลดยอดขาดดุลงบประมาณลงให้ได้ครึ่งหนึ่งเมื่อครบวาระดำรงตำแหน่งสมัยแรกใน เดือนมกราคม 2558 คาดว่าปี 2553 ยอดขาดดุลงบประมาณจะสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 1.56 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 51.48 ล้านล้านบาท) หรือร้อยละ 10.6 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 9.9 เมื่อปี 2552 แต่คาดว่าปี 2554 จะลดลงเหลือร้อยละ 8.3
งบประมาณปี 2554 เสนอให้ยกเลิกการลดหย่อนภาษีแก่ครอบครัวที่มีรายได้เกิน 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.25 ล้านบาท) คาดจะช่วยประหยัดเงินได้ 678,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 22.37 ล้านล้านบาท) ภายในทศวรรษหน้า นอกจากนี้ยังเสนอเรียกเก็บเงินจากธนาคาร 90,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.97 ล้านล้านบาท) เพื่อชดเชยเงินภาษีที่ใช้ช่วยธนาคารช่วงเกิดวิกฤติ เสนอยกเลิกการอุดหนุนบริษัทพลังงาน 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.32 ล้านล้านบาท) รวมทั้งจะประหยัดงบค่าใช้จ่ายโครงการรัฐบาลกลางปี 2554-2563 ให้ได้รวม 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.25 ล้านล้านบาท)
ส่วนปัญหาการว่างงานซึ่งเป็นเรื่องสำคัญของประชาชนที่จะไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ส.ส. 435 คน และ ส.ว. 1 ใน 3 จาก 100 คน ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ประธานาธิบดีโอบามา เสนอจัดสรรเงิน 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.3 ล้านล้านบาท) เป็นเครดิตภาษีให้แก่ธุรกิจขนาดเล็ก การลงทุนพลังงานสะอาดและสาธารณูปโภค เพื่อกระตุ้นการสร้างงาน
ด้านพรรครีพับลิกันวิจารณ์นายโอบามา ว่า แก้ปัญหาว่างงานไม่ได้ ขึ้นภาษีคนรวย และว่าประเทศกำลังติดหล่มหนี้สิน ขณะที่ตลาดการเงินส่วนใหญ่ไม่สนใจตัวเลขในงบประมาณเพราะได้เห็นมาแล้วก่อน หน้านี้ แต่นักวิเคราะห์จากสถาบันบรู้คกิงเตือนว่า ประเทศอื่นกำลังสังเกตเห็นถึงความล้มเหลวในการบริหารประเทศ ฐานะของเงินดอลลาร์และเศรษฐกิจสหรัฐกำลังอยู่ในอันตราย