มติครม.มอบก.วิทย์ตรวจสอบจีที200
ที่ประชุมครม.มีมติให้กระทรวงวิทย์ เป็นเจ้าภาพตรวจสอบ จีที 200 ด้าน"เทพเทือก" ระบุ ต้องทำความจริงให้ปรากฎต่อสังคม
(2ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน การประชุม ได้มีมติมอบหมายให้ กระทรวงวิทยาศาสตร์ เป็นเจ้าภาพตรวจสอบเครื่องจีที 200 ที่ถูกวิพากวิจารณ์ในขณะนี้ แล้วรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบในภายหลัง
ก่อนหน้านั้นนายุสเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงการตรวจสอบพิสูจน์ประสิทธิภาพของเครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200 จะ มีความชัดเจนออกมาอย่างไร ว่า ตนก็ติดตามเรื่องนี้จากสื่อมวลชนมาตลอดเวลามีข่าว ต้องยอมรับว่าเข้ามารับหน้าที่ทางด้านความมั่นคง ก็ไม่รู้จักเครื่องนี้มาก่อน แต่เวลาลงไปในพื้นที่เจ้าหน้าที่ก็มาเล่าให้ฟังและเขามีความเชื่อว่าเครื่อง นี้ใช้ประโยชน์ได้ หลายแห่งก็มาขออยากจะได้เพิ่ม ตนก็เห็นใจเจ้าหน้าที่หน่วยตรวจสอบเก็บกู้ระเบิด เขาเสี่ยงชีวิตอยู่ตลอดเวลา ซึ่งไม่ค่อยมีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่ไว้ใช้ได้
รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความั่นคง กล่าวว่า ตนเคยสอบถามทราบว่ามีเครื่องมือชนิดหนึ่งเรียกว่า ฟีโด แต่มีราคาแพงมาก มีอยู่เพียงไม่กี่อัน แต่จีที 200 เป็นเครื่องทั่วไป ที่ไม่ต้องใช้เฉพาะผู้เชี่ยวชาญ เพียงเจ้าหน้าที่ไปฝึกมาก็สามารถไปใช้ได้ แต่ เมื่อสื่อมวลชนและผู้หวังดีทั้งหลายออกมาทักท้วง ตนก็ฟัง แต่จะให้ตนดำเนินการเปรี้ยงปร้างลงไปทันทีตนก็ต้องระมัดระวัง เพราะไม่อยากให้เจ้า หน้าที่ที่ใช้เครื่องจีที 200 อยู่ในพื้นที่ต้องตกอกตกใจ แต่ตั้งใจว่าจะต้องทำความจริงให้ปรากฎ ทุกอย่างต้องอยู่ในวิสัยที่ประชาชนเจ้าของประเทศทั้งหลายสบายใจได้ว่าทั้งหมด ต้องโปร่งใสเป็นจริง โดยตนต้องให้ผู้มีหน้าที่ในกระบวนการตรวจสอบไปดำเนินการ
ครม.สั่งก.วิทย์ระดมนักวิชาการออกพิสูจน์จีที200
เมื่อ เวลา 12.50 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุม ครม.ได้ขอให้บุคคลากรที่ใช้เครื่องจีที 200 มาสอบถาม ซึ่งตรงกับที่หลายหน่วยงานที่ใช้อุปกรณ์ดังกล่าวที่ทุกหน่วยงานยืนยันว่าใช้ ได้ และมีประสิทธิภาพพอสมควร แต่ข้อมูลในส่วนของนักวิชาการและที่เป็นข่าวในต่างประเทศนั้นจะตรงกันข้าม กัน ดังนั้นครม.เห็นว่าควรจะได้มีการ ทดสอบและพิสูจน์ให้ข้อเท็จจริงปรากฏเพื่อจะได้ดำเนินการอย่างเหมาะสมต่อไป จึงได้มอบให้ทางกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เป็นผู้ไปดำเนินการ และตนได้คุยกับคุณหญิงกัลยา โสภณพานิช รมว.วิทยาศาสตร์ฯ โดยตรงว่า จะต้องเชิญนักวิชาการที่ทำงานด้านนี้มาออกแบบการทดลองเพื่อการพิสูจน์ถึง ประสิทธิภาพข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอุปกรณ์เหล่านี้ให้เป็นข้อยุติที่เป็นที่ ยอมรับจากทุกฝ่าย เมื่อมีข้อยุติแล้วรัฐบาลจะได้ตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯจะไปถืออุปกรณ์จีที 200 ทดสอบด้วยตัวเองหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ผมไม่ได้เป็นคนไปทดสอบเอง คือลักษณะการทดสอบต้องเป็นเหมือนกับจำลองสถานการณ์จริง และต้องดูว่าการใช้อุปกรณ์นี้ต่างจากการไม่มีอุปกรณ์แค่ไหน"
เมื่อถาม ว่า นายกฯได้กำหนดระยะเวลาในการดำเนินการพิสูจน์หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ได้ขอให้ไปทำโดยเร็วที่สุดเพราะเป็นเรื่องที่กระทบต่อการทำงานของหน่วยงาน ที่ใช้อุปกรณ์นี้ สิ่งแรกต้องไปเชิญผู้เกี่ยวข้องมาเพื่อออกแบบการทดลองเพื่อพิสูจน์ที่ทุก ฝ่ายยอมรับ หากไปทดสอบแล้วฝ่ายที่อ้างว่าใช้ไม่ได้หรือการทดลองดังกล่าวใช้ไม่ได้ก็จะ เถียงกันไม่จบอีก ดีที่สุดต้องเชิญนักวิชาการมา ส่วนฝ่ายที่ใช้งานที่ยืนยันว่าใช้ได้ต้องพร้อมพิสูจน์ถ้ามั่นใจว่าใช้ได้มัน ก็ต้องใช้ได้
เมื่อถามว่า ถ้าพบว่าใช้ไม่ได้ นายกฯจะยกเลิกไม่ให้ใช้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าใช้ไม่ได้ก็ไม่ควรใช้อยู่แล้วเพราะจะเป็นผลเสียต่อทุกฝ่าย ส่วนจะหาอุปกรณ์อื่นมาทดแทนนั้นก็ต้องไปดูทางเลือกอื่นๆซึ่งอุปกรณ์ที่เป็น ที่ยอมรับในเรื่องประสิทธิภาพสูงกว่า หรือเทคโนโลยีที่พิสูจน์แล้วราคาจะสูงกว่ากันประมาณ 10 เท่า
เมื่อถามว่า มีทางอื่นนอกจากจะต้องซื้อเทคโนโลยีที่สูงกว่าจีที 200 หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าจะใช้อุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติหรือมีคุณลักษณะอย่างนั้นก็คงไม่มี จะมีแต่ว่าจะเลือกไม่ใช้อุปกรณ์ประเภทนี้แล้วก็ต้องใช้วิธีอื่นไป
เมื่อถามว่า จะพิจารณาหรือไม่ว่ามีเหตุผลอะไรที่มีการจัดซื้อุปกรณ์ที่ไม่มีประสิทธิภาพ ด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าหากว่ามันใช้ไม่ได้คงต้องย้อนกลับไปดูที่มาที่ไปอีกครั้ง แต่เฉพาะกรณีของจีทีจะมีหลายยี่ห้อที่มีลักษณะคล้ายๆกันอยู่เฉพาะจีทีจะมี ลูกค้าอยู่ เป็น 10 ประเทศ มีการซื้อกันค่อนข้างแพร่หลายพอควรทั้งที่เป็นจีทีและยี่ห้ออื่นๆ ของไทยมียี่ห้อจีทีกับอัลฟ่า-6
เมื่อถามอีกว่าจะต้องดูไปถึงขั้นการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่โปร่งใสด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องโปร่งใสจะใช้ได้หรือไม่ได้ก็ต้องตรวจสอบความโปร่งใสอยู่
เมื่อถามต่อว่า ปัญหาจีที 200 มันเป็นภาพสะท้อนของการใช้บประมาณที่มั่นรั่วไหลไปกับการทุจริตด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนว่ามันเร็วเกินไปที่จะไปสรุปอะไรในทำนองนั้นเพราะจะเห็นว่าอุปกรณ์นี้ มีการใช้กันอยู่หลายประเทศ พูดตามตรงที่ตนเดินทางไปพบกับเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้ายาเสพติดก็บอกว่าใช้ได้ ผล มันก็เป็นเรื่องที่ต้องมีการพิสูจน์
เมื่อถามว่า โดยส่วนตัวแล้วนายกฯสงสัยหรือไม่ว่าจะมีการคอร์รัปชันในการจัดซื้อจัดจ้างจี ที 200 นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่เคยดูรายละเอียดในการจัดซื้อจัดจ้างแต่ละชุด แต่ทราบเพียงว่าขณะนี้มีใช้ที่หน่วยใดบ้าง
เมื่อถามอีกว่า จะมีการตรวจสอบไปถึงเรื่องราคาที่ซื้อมาแต่มีความแตกต่างกันของแต่ละหน่วย งานหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อย่างที่เรียนใช้ได้หรือไม่ได้ ถ้าเห็นว่ามีการซื้อในราคาที่ไม่ถูกต้องก็ต้องตรวจสอบอยู่แล้ว แต่การซื้อเท่าที่ดูจากตัวเลขจะซื้อมาตั้งแต่ประมาณปี 2549 ต่อเนื่องถึงปี 2553 ราคาจะแตกต่างกันเพราะแต่ละหน่วยงานจะใช้ของไม่ตรงกันเสียทีเดียว และบางทีใช้คนละยี่ห้อกัน ซึ่งที่มีการจัดซื้อมาใช้ทั้งหมดประมาณ 700 กว่าเครื่อง ราคาที่จัดซื้อถ้าเป็นอัลฟ่า-6 ใหม่ประมาณเครื่องละ 3 แสนบาท แต่ที่ซื้อสูงสุดไปเครื่องละ 1.2 ล้านบาท ก็จะมีราคาตั้งแต่ 3 แสนบาท-1.2 ล้านบาท ตรวจสอบไปทีละขั้นขณะนี้ตรวจสอบว่าใช้งานได้หรือไม่ก่อนและจะไปไล่ดูว่า การขอจัดซื้อจัดจ้างแต่ละช่วงเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า จะต้องมีคนรับผิดชอบกับงบประมาณที่เสียไปโดยการจัดซื้ออุปกรณ์ที่ไร้ ประสิทธิภาพหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เวลานี้ยังสรุปไม่ได้ ขอให้มีการพิสูจน์ทดสอบก่อน ถ้าทำการทดลองจะพิสูจน์ได้ว่าใช้ได้จริงหรือไม่ถ้าใช้ไม่ได้จริงไม่ว่าจะ ใช้ไฟฟ้าสถิตย์หรือรุ่นที่มีพลังงานในตัวเองถ้าไม่มีเทคโนโลยีทีจะไปจับสาร เคมีได้มันก็จับไม่ได้ แต่วันนี้หน่วยงานที่มารายงานใน ครม.เขาก็จะบอกว่าได้ใช้เครื่องนี้ตรวจสอบ เหตุการณ์ไป 200 กว่าครั้งที่นำไปสู่การค้นพบอะไรต่างๆ ส่วนเทคโนโลยีจะจริงไม่จริงก็อีกเรื่อง
เมื่อถามต่อว่า แต่เครื่องนี้ใช้ 200 ครั้งตรวจพบระเบิดแค่ 23 ครั้งน่าจะพิสูจน์ได้แล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ไม่ เขาไม่ได้รายงานอย่างนั้น แต่จริงๆแล้วตรวจเจอไม่เจอมันต้องไปเทียบเคียงกับว่าถ้าไม่มีเครื่องนี้เจอ หรือไม่เจอด้วย ถึงตรวจเจอแต่ไม่มีเครื่องนี้ก็เจอมันก็บอกว่าไม่จำเป็นต้องมีเครื่องนี้ก็ ได้ ต้องมาพิสูจน์กันเรื่องจะได้จบ"
ผู้สื่อข่าวถามว่า ล่าสุดนักวิชาการบางรายออกมาระบุว่ามันเป็นเรื่องของพลังจิตที่ต้องใช้กับจี ที 200 ซึ่งไม่ใช่วิทยาศาสตร์แล้วเป็นไปได้อย่างไรที่หน่วยงานราชการจะให้คนไป เสี่ยงกับระเบิด นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ผมถึงบอกว่าการทดสอบที่ดีที่สุดคือการเทียบสถาการณ์ที่ใช้ไม่ใช้อุปกรณ์นี้ ผมก็ไม่ทราบว่าจิตไม่จิตนนี่มันวิทยาศาสตร์หรือไม่"
เมื่อถามว่า ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค)ให้ข้อสังเกตเรื่องเหล่านี้มากต่อไปจะมีมาตราการในการจัดซื้อจัดหา อุปกรณ์เหล่านี้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มาตราการสำคัญที่สุดคือต่อไปนี้ถ้าจะมีการซื้ออุปกรณ์ใดๆก็ตามควรจะต้อง เป็เทคโนโลียีที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว"
เมื่อถามอีกว่า จะเป็นปัญหาต้องมาเถียงกันอีกหรือไม่ว่าใช้ได้กับใช้ยากจะเอาอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ คือเวลาพิสูจน์เราต้องให้เจ้าหน้าที่ซึ่งถือว่าได้รับการฝึกเครื่องนี้แล้ว เป็นคนทดลองจะได้ไม่มีปัญหามาบอกว่าใช้ไม่ได้เพราะตัวบุคคลไม่เชี่ยวชาญ
เมื่อถามว่า กองทัพจะยอมรับหรือจะดึงดันเพราะหากยอมรับเท่ากับการจัดซื้อผิด นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ผมคิดว่า อย่าเพิ่งไปพูดว่าจัดซื้อหรือไม่ผิด พูดถึงว่าใช้ได้หรือไม่ได้ และถ้าไม่ได้ จะย้อนกลับไปดูว่าการจัดซื้อจัดจ้างที่ผ่านมาทำถูกต้องตาม ระเบียบมีเหตุผลเพียงพอหรือไม่ เพราะ ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน บางที มารู้ทีหลัง ก็ไปตัดสินย้อนกลับไป ก็ต้องนึกถึงว่าในสถานการณ์นั้นเขารู้อะไๆรบ้างแค่ไหนอย่างไร"
เมื่ออถามว่า เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทยระบุว่าอังกฤษเลิกใช้จีที 200 ไปนานแล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อังกฤษเองแทบไม่ได้ใช้ แต่ว่าเป็นบริษัทของอังกฤษที่ส่งออกและถูกตรวจสอบอยู่ในขณะนี้
เมื่อถามว่า ตอนนี้สิ่งที่เกิดขึ้นมันกระทบขวัญกำลังใจกับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานและต้อง ใช้เครื่องมือนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็มีส่วน เพราะถูกตั้งคำถามว่าใช้เครื่องมือนี้ได้จริงหรือไม่ แต่ในเมื่อผู้ปฏิบัติส่วนใหญ่ยืนยันว่า มันใช้ได้เขาต้องมั่นใจในตรงนั้น