เลขผิดหรือเปล่า? ฝากแม่เก็บเงิน 12 ปี สาวดูบัญชีหวังถอนเงินล้าน งงทำไมมีอยู่หลักหมื่น

เลขผิดหรือเปล่า? ฝากแม่เก็บเงิน 12 ปี สาวดูบัญชีหวังถอนเงินล้าน งงทำไมมีอยู่หลักหมื่น

เลขผิดหรือเปล่า? ฝากแม่เก็บเงิน 12 ปี สาวดูบัญชีหวังถอนเงินล้าน งงทำไมมีอยู่หลักหมื่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ลูกสาวผิดหวังมาก ฝากแม่เก็บเงินเดือน 12 ปี เอาบัญชีมาดูตอนจะแต่งงาน หวังเห็นเงินล้าน แต่เห็นตัวเลขแล้วเงียบกริบ

 หญิงสาวชาวไต้หวันแบ่งปันเรื่องราวชีวิตบนฟอรัมนิรนาม บอกเล่าเกี่ยวกับการฝากเงินเดือนเกือบทั้งหมดตลอด 12 ปีที่ผ่านมา ให้แม่ช่วยเก็บสะสมไว้ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเธอถามถึงจำนวนเงินทั้งหมด ถึงกับช็อกหนักมากเมื่อคุณแม่เผยจำนวนเงินที่เหลือ

นับตั้งแต่เธอเรียนจบและเริ่มทำงานได้รับเงินเดือน เธอก็เริ่มฝากเงินไว้กับแม่ทุกเดือน 24,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 24,000 บาท) และเก็บไว้ใช้เพียง 4,500 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 4,500 บาท)  สำหรับค่าครองชีพขั้นพื้นฐาน เนื่องจากแม่เกลี้ยกล่อมให้เธอเชื่อใจว่า “ตอนนี้ ถ้าลูกให้แม่จัดการเงินของลูก ลูกจะต้องขอบคุณแม่ในภายหลังอย่างแน่นอน” และยังยืนยันว่าเมื่อใดก็ตามที่เธอต้องการใช้เงิน ก็สามารถมาเอาไปใช้ได้ทันที

แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่เป็นเช่นนั้น โดยหญิงสาวเล่าว่า “ฉันจำได้ว่าครั้งหนึ่งฉันเคยขอให้แม่ถอนเงิน 3,000 เหรียญไต้หวัน (ประมาณ 3,000 บาท) เพื่อจ่ายค่าทำผม แต่แม่ดุฉันและบอกว่ามันเสียเงินเปล่า” นอกจากนี้หลายครั้งที่เธอมีเงินไม่พอแม้แต่จะซื้ออาหาร แต่เธอก็ลังเลที่จะขอเงินเพิ่มจากแม่ เพราะกลัวแม่จะโกรธ

นับจากวันที่เธอเริ่มทำงาน รวมเป็นเวลา 12 ปี ประเมินว่าจำนวนเงินที่เธอส่งให้แม่อาจสูงถึง 2.66 ล้านเหรียญไต้หวัน (ประมาณ 2.66 ล้านบาท)  อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อเธอกำลังจะแต่งงาน และได้รับสมุดบัญชีเงินฝากจากแม่ ก็ต้องตกใจเมื่อรู้ว่าเงินถูกใช้ไป "เกือบหมด" ทั้งบัญชีมีเงินเหลืออยู่เพียง 50,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 50,000 บาท)

แม้ว่าเงินจะ "หายไป" แต่เธอก็ยังไม่เอ่ยถามแม่แม้แต่คำเดียว รู้สึกผิดหวังกับพฤติกรรมขโมยเงินของแม่ และทัศนคติของทั้งพ่อและแม่ที่มีต่อเงินของลูก “พวกเขาเชื่อว่าเป็นเรื่องปกติที่เด็กๆ จะหาเงินให้พ่อแม่” แน่นอนว่าตอนนี้เธอจัดการเงินของเธอเองแล้ว แต่แม่ก็ยังมักจะถามถึงรายได้ของเธออยู่เรื่อยๆ

“เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่า ฉันและสามีจะต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่าใช้จ่ายในครอบครัว และเลี้ยงลูกสองคน มันก็เพียงพอแล้วที่จะเห็นว่าได้รับแรงกดดันทางการเงินมากเพียงใด ดังนั้นฉันจึงไม่อยากบอกแม่เกี่ยวกับรายได้ทางการเงินของฉัน”

เรื่องราวของหญิงสาวคนนี้ทำให้เกิดกระแสถกเถียงในสังคมออนไลน์ของจีน มีความคิดเห็นมากมายที่ร่วมแสดงความเห็นใจกับเธอ และร่วมแชร์ประสบการณ์ที่คล้ายๆ กัน เช่น

“แม่ของคุณยังรู้จักโกหก ในขณะที่แม่ของฉันรีดไถเงินจากฉันตรงๆ ยังบอกด้วยว่าจะไล่ฉันออกจากบ้านถ้าฉันไม่ให้เงิน”

“ตอนเด็กๆ แม่ของฉันสัญญาว่าจะเก็บเงินที่ได้รับจากซองปีใหม่ทั้งหมดไว้ให้ แต่แล้วเธอก็ลืมบทสนทนานั้นไป ความทรงจำเลือนหายไปพร้อมกับเงิน"

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook