ป่าไม้คาด สรยุทธ์ ย้ายของที่เขายายเที่ยงเสร็จ12ก.พ

ป่าไม้คาด สรยุทธ์ ย้ายของที่เขายายเที่ยงเสร็จ12ก.พ

ป่าไม้คาด สรยุทธ์ ย้ายของที่เขายายเที่ยงเสร็จ12ก.พ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กรมป่าไม้ คาด พลเอกสุรยุทธ์ ย้ายของบนบ้านเขายายเที่ยงเสร็จก่อน 12ก.พ.นี้ พร้อมขยายเวลาสำรวจการเปลี่ยนแปลงถือครองอีก15วัน

นายชลธิศ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมป่าไม้ ในฐานะประธาน คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการถือครองที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาเตียน-ป่า เขา เขื่อนลั่น จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้รับรายงานจากนายสุเทพ ปวเรศวิทยาฬาร ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 ประธานคณะอนุกรรมการเพื่อตรวจสภาพการเปลี่ยนแปลงการถือครองที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเตียนฯว่า มีปัญหาในการทำงาน

เนื่องจากชาวบ้านไม่มั่นใจว่าจะถูกกรมป่าไม้ใช้หลักการเดียว กับกรณีของพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายก รัฐมนตรี ที่ต้องคืนพื้นที่ให้กรมป่าไม้ จึงไม่ยอมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปตรวจสอบรายละเอียดการถือครองของชาวบ้านที่ได้จัดสรรที่ดินในโครงการหมู่บ้านป่าไม้ ตามมติครม. 29 เม.ย. 2518 ดังนั้นจึงจะขยายเวลาการทำงานออกไปอีกประมาณ 15 วัน พร้อมทั้งประสานทางอำเภอและจังหวัดให้ช่วยทำความเข้าใจกับชาว บ้าน เพราะข่าวที่ออกมาอาจจะสร้างความสับสนต่อชาวบ้านที่กลัวว่าจะถูกยืดพื้นที่คืนทั้งหมด

นายชลธิศ กล่าวอีกว่า ยังได้รับรายงานว่าจากผังแปลงทั้งหมด 1,020 ไร่นั้น ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.)ได้ขอใช้พื้นที่ไปทำโครงการโรงไฟฟ้าสูบกลับลำตะคองรวม 312 ไร่ อยู่ในผังแปลงที่กรมป่าไม้จัดให้เป็นที่ดินทำกิน 76 แปลง ทำให้เหลือพื้นที่อีก 22 แปลงเท่านั้น ส่วนอีก 161แปลง รวมพื้นที่ 79 ไร่ในผังแปลงที่อยู่อาศัยครอบคลุม 3 หมู่บ้านคือเขายายเที่ยงเหนือ 77แปลง พื้นที่ 42ไร่ เขายายเที่ยงใต้ 67 แปลง พื้นที่ 30 ไร่ และบ้านเขาน้อย 23 แปลงพื้นที่ 6 ไร่ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบรายละเอียดพื้นฐานได้ เจ้าหน้า ที่แค่ทำการวัดพิกัดเท่านั้น แต่สิ่งที่อยากได้คือ ผู้ที่ครอบครองเป็นใครบ้าง ยังเป็นรายเก่า รายใหม่ มีการเปลี่ยน แปลงพื้นที่หรือไม่ สิ่งก่อสร้างในแต่ละแปลงเป็นอย่างไร เพราะข้อมูลทั้งหมดจะใช้ประกอบการพิจารณามาตรการแก้ปัญหา

"กรมป่าไม้ ยังยืนยันว่าพร้อมจะให้ความสำคัญกับเกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกินและมีฐานะยากจน ได้อยู่ในพื้นที่เขายายเที่ยง โดยเฉพาะผังแปลงที่ถูกขีดเป็นที่อยู่อาศัยใน 3 หมู่บ้าน จะไม่ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน กรมป่าไม้จะมีมาตรการดูแลคนกลุ่มนี้เป็นพิเศษ ส่วนคนที่มีฐานะร่ำรวย และไม่ได้สิทธิ์ครอบครองตามมติครม. และอยู่ในพื้นที่กระทบต่อนิเวศน์ก็ต้องใช้อีกมาตรการหนึ่งเช่นกัน" นายชลธิศ กล่าว

นายชลธิศ กล่าวว่า สำหรับกรณีของพลเอกสุรยุทธ์ นั้นทราบว่ามีการขนย้ายสิ่งของออกไปแล้ว คาดว่าคงจะแล้วเสร็จก่อนวันที่ 12 ก.พ.นี้ อีกทั้งทางคณะกรรมการชุดใหญ่ก็เตรียมจะลงตรวจสอบพื้นที่อีกครั้งในช่วงกลางเดือนก.พ.ด้วย และหากเป็นไปได้ ก็อาจจะเข้าตรวจสอบในบ้านพักของอดีตนายกรัฐมนตรีด้วย"

เมื่อถามว่าพื้นที่ บ้านพักอดีตนายกรัฐมนตรี กรมป่าไม้จะดำเนินการอย่างไรต่อ นายชลธิศ กล่าวว่า ถ้ามีความเป็นไปได้ การลงพื้นที่รอบที่ 2 ก็อาจจะเข้าตรวจสอบในบ้านพักของอดีตนายกฯด้วย ส่วนพื้นที่นี้หากเห็นว่ากระทบต่อนิเวศน์ก็ต้องไปฟื้นฟูสภาพป่า แต่หากไม่กระทบ เช่น ตัวบ้านและอสังหาริมทรัพย์อื่นๆที่ผ่านมาทางราชการอาจพิจารณาใช้ประโยชน์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook