จุรินทร์ ชี้เบี้องต้นแม่แท้งลูกไม่เกี่ยวกับฉีดวัคซีนหวัด 2009

"จุรินทร์" แถลงตรวจเบื้องต้นหญิงตั้งครรภ์แท้งลูก ไม่เกี่ยวกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เตรียมตรวจสอบรกเด็กที่เสียชีวิต แต่ส่วนใหญ่พบว่าเป็นปัจจัยจากมารดาอ่อนแอ พร้อมสั่งสูตินรีแพทย์ให้ความรู้มารดาที่มารับวัคซีนสร้างความมั่นใจและติดตามผลต่อเนื่อง ขณะที่อาจรายงานผลตรวจไปยังองค์การอนามัยโลก

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังได้รับรายงานจากผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีน กรณีการตรวจสอบข้อเท็จจริงหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จำนวน 6 ราย ว่า จากการตรวจสอบทั้ง 6 กรณี ไม่เกี่ยวข้องกับการได้รับวัคซีน โดยกรณีที่สื่อให้ความสนใจเป็นพิเศษ คือ หญิงตั้งครรภ์ที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาลที่เด็กในครรภ์เสียชีวิต พบว่าเด็กขาดสภาวะการหายใจ มีเลือดออกในสมอง และมีจ้ำแดงตามตัว แต่เสียชีวิตหลังมารดาได้รับวัคซีนเป็นเวลา 5 วัน จึงถือว่าไม่มีความเชื่อมโยงกับวัคซีน หรือเกี่ยวข้องน้อยมาก เพราะเด็กไม่ได้เสียชีวิตทันที ขณะที่มารดาก็ปลอดภัยดี นอกจากนี้ การตรวจสอบประวัติยังพบว่าหญิงรายนี้มีประวัติการแท้งลูกถึง 2 ครั้ง ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจสอบรกเด็กโดยสูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

สำหรับกรณีอื่นๆ ตรวจสอบแล้วก็ไม่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน ได้แก่ กรณีหญิงตั้งครรภ์ 7 เดือน 1 สัปดาห์ ที่จังหวัดสตูล จากการตรวจสอบศพทารกทางพยาธิวิทยาพบว่า ทารกมีน้ำหนักน้อยมาก เพียง 1,000 กรัม จากการตรวจสอบประวัติ บิดามารดามีการสูบใบจากและใบกัญชา จึงเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะเด็กน้ำหนักตัวน้อยและแท้งบุตร ส่วนหญิงอีกรายที่จังหวัดสตูล มารดาลื่นล้มจนเลือดออกในสมอง ทำให้เด็กต้องคลอดก่อนกำหนด ขณะนี้อยู่ในตู้อบ เนื่องจากมีน้ำหนักตัวเพียง 1,800 กรัม ส่วนหญิงตั้งครรภ์ที่จังหวัดสกลนคร พบว่าแม่เด็กมีสภาวะอ้วน มีค่าดัชนีมวลกายสูงเกินกว่ามาตรฐานถึง 35 กิโลกรัม และมีภาวะของโรคเบาหวาน ขณะที่หญิงพัทลุงอีกคนหนึ่ง มีอาการหน้ามืดเนื่องจากโรคประจำตัว และยังไม่แท้งลูก และหญิงมหาสารคามนั้นมีอาการหายใจติดขัด ลูกในครรภ์ยังปกติ

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ได้มอบนโยบายเพิ่มความปลอดภัยให้กับหญิงตั้งครรภ์ หลังจากได้รับคำแนะนำจากคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาด้านวิชาการและยุทธศาสตร์ ที่มี น.พ.ประเสริฐ ทองเจริญ เป็นประธาน ให้เพิ่มการให้คำแนะนำทำความเข้าใจกับหญิงตั้งครรภ์ก่อนได้รับวัคซีนเป็นพิเศษ โดยสูตินรีแพทย์ และพยาบาลผดุงครรภ์ เพื่อสร้างความมั่นใจก่อนรับบริการ โดยให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และโรงพยาบาลจะต้องมีเครื่องแพทย์ อุปกรณ์ช่วยหายใจ เตรียมไว้ช่วยเหลือผู้ป่วยทันทีกรณีหายใจติดขัด ต้องมีการตรวจสุขภาพก่อนรับวัคซีนอย่างละเอียด ต้องจัดให้ผู้ป่วยพักหลังได้รับวัคซีน 30 นาที และมีระบบติดตามผลหลังได้รับวัคซีน ทั้งนี้ให้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ได้รับวัคซีนสูงสุด

ด้าน พ.ญ.สุจิตรา นิมมานนิตย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีน ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีหญิงตั้งครรภ์ได้รับวัคซีนฯ กล่าวว่า ภาวะการแท้งบุตรสามารถเกิดขึ้นได้ตามปกติ ในแต่ละปีมีการแท้งบุตรประมาณร้อยละ 0.5-0.8 ของทารกเกิดใหม่ประมาณ 800,000 คน ทั้งนี้ เตรียมรายงานผลการตรวจสอบทั้งหมดให้กับสำนักระบาดวิทยา และอาจมีการรายงานข้อมูลไปยังองค์การอนามัยโลก โดยขณะนี้มีหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับวัคซีนไปแล้ว 12,000 คน ได้รับวัคซีนมากที่สุดคือจังหวัดเชียงราย.- สำนักข่าวไทย