รวบ หนุ่มลอบฉีดผิวขาว คาห้างดังยึดของกลางอื้อ
อย.จับมือตำรวจบุกจับหนุ่มตกงาน ใช้เก๋งเป็นคลินิกเคลื่อนที่ ลอบฉีดสารผิวขาวให้ลูกค้า คาลานจอดรถห้างดังย่านเกษตรฯ ยึดของกลางเต็มคันรถ เตรียมขยายผลค้นบ้าน แฉรีดค่าบริการเข็มละเกือบ 2,000 เลขาฯ อย.เตือนฉีดยาผิวขาวสุดอันตราย มีโทษทั้งจำทั้งปรับ
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พล.ต.ต.จตุรงค์ ภุมรินทร์ ผบก.ปคบ. สั่งการให้ พ.ต.อ.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ ผกก.4 บก.ปคบ. นำกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ อย. เข้าจับกุมนายวรุตม์ มะกรูดทอง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/137 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ที่บริเวณลานจอดรถชั้น 2 ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เขตจตุจักร ขณะะผสมกลูต้าไธโอน ซึ่งอ้างสรรพคุณทำให้ผิวขาวใส่หลอดฉีดยา อยู่บริเวณท้ายรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู สีบรอนซ์ ทะเบียน ฐท 2792 กรุงเทพมหานคร เพื่อเตรียมจะฉีดให้ลูกค้ารายหนึ่ง
ตรวจค้นบริเวณเบาะหลัง ละกระโปรงท้ายรถ พบเข็มฉีดยา หลอดฉีดยา น้ำเกลือ ยากลูต้าไธโอนในหลอดแก้วหลายสิบหลอด วิตามินซีแบบน้ำ วิตามินบีรวมแบบน้ำ รกแบบฉีด อาหารเสริมชนิดเม็ดบรรจุกล่องพลาสติก ประเภทแอลคาเนทีน กลูต้าไธโอน และคอลลาซีพลัส รวม 50 กล่อง จึงยึดไว้เป็นของกลาง
การจับกุมดังกล่าวเนื่องจากชุดสืบสวน กก.4 บก.ปคบ. ร่วมกับ อย.สืบทราบว่าจะมีการลักลอบฉีดกลูต้าไธโอน ซึ่งอวดอ้างสรรพคุณทำให้ผิวขาวให้ลูกค้าที่บริเวณดังกล่าว จึงนำกำลังไปดักซุ่มกระทั่งพบผู้ต้องสงสัยขับรถมาจอดที่จุดนัดหมาย โดยลงจากรถมาพบลูกค้าและกำลังผสมกลูต้าไธโอนเพื่อเตรียมฉีดให้ลูกค้า จึงแสดงตัวเข้าจับกุม
สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า เพิ่งจบการศึกษาระดับปริญญาตรีมาได้ปีกว่า ยังไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง แต่เตรียมจะศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ระหว่างนั้นมีเพื่อนแนะนำให้มาทำงานนี้ จึงตัดสินใจทำหารายได้เสริม โดยตระเวนฉีดให้ลูกค้าที่รู้จักกันในราคาเข็มละ 1,200-1,800 บาท ส่วนพวกยาเม็ดนั้นเป็นอาหารเสริมช่วยลดน้ำหนักเท่านั้น เพิ่งทำมาได้เพียงไม่กี่เดือนและมีลูกค้าเพียงแค่ 6 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง โดยวิธีการจะผสมตัวยาที่ท้ายรถเมื่อเตรียมอุปกรณ์เสร็จแล้ว จึงจะพาลูกค้าไปนั่งที่เบาะหลังรถเพื่อฉีดให้
หลังจับกุมได้นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.ดำเนินคดีข้อหาขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต และประกอบกิจการและดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต
ขณะที่ นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ยา ในกรณีไม่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายและขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน และมีความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบโรคศิลปะ ในการลักลอบฉีดยา ซึ่งจะมีโทษทั้งจำทั้งปรับ จากนี้จะขยายผลสอบสวนค้นบ้านผู้ต้องหาต่อไป
"สิ่งที่น่ากลัวคือมีวัยรุ่นจำนวนมากหลงเชื่อ เนื่องจากมีความเชื่อผิดๆ เรื่องผิวขาว ซึ่ง อย.ยังไม่อนุญาตให้รักษาด้วยวิธีดังกล่าว เนื่องจากไม่ใช่ยาที่มีฤทธิ์ในการรักษา แต่เป็นการนำผลข้างเคียงของยามาใช้ ซึ่งสามารถเกิดโอกาสในการแพ้ได้สูง อีกทั้งยังไม่มีการตรวจสอบคุณภาพที่นำมาใช้ว่ามีการปลอมปนหรือมีสารที่เป็นอันตรายหรือไม่" นพ.พิพัฒน์ ระบุ
นพ.พิพัฒน์ เตือนด้วยว่า ขณะนี้พบว่ามีผู้ที่พยายามลักลอบนำยาดังกล่าวเข้ามา และมีการแอบฉีดในสถานเสริมความงาม คลินิกรักษาโรคผิวหนังหลายแห่ง เพราะมีความนิยมมากในกลุ่มวัยรุ่นที่อยากมีผิวขาว ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นยาจริงหรือไม่ อีกทั้งวิธีในการฉีดยังไม่มีการศึกษามาก่อนว่าควรได้รับในปริมาณเท่าใด ระยะเวลาในการฉีดควรห่างหรือบ่อยขนาดไหน ดังนั้นการฉีดในขณะนี้จึงเป็นเพียงการคาดเดาทั้งสิ้น ซึ่งอาจจะเกิดอันตรายอย่างมากต่อผู้ที่รับบริการ โดย อย.จะสุ่มตรวจและจับกุมไปเรื่อยๆ และกรณีที่พบในสถานพยาบาลที่เคยกระทำความผิดและเคยถูกดำเนินคดีไปแล้วจะต้องได้รับโทษสถานหนัก