สส.โรม ชี้ชัด สว.หมดอำนาจเลือกนายกฯ พ.ค.67 ตีความบิดพลิ้ว ถือเป็น "รัฐประหาร"

สส.โรม ชี้ชัด สว.หมดอำนาจเลือกนายกฯ พ.ค.67 ตีความบิดพลิ้ว ถือเป็น "รัฐประหาร"

สส.โรม ชี้ชัด สว.หมดอำนาจเลือกนายกฯ พ.ค.67 ตีความบิดพลิ้ว ถือเป็น "รัฐประหาร"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สส.โรม อธิบายชัด สว.หมดอำนาจเลือกนายกฯ พ.ค.2567 หากยังตีความบิดพลิ้ว ถือเป็น "รัฐประหาร" และย้ำอีกครั้ง ก้าวไกลยังจับมืออีก 7 พรรคแน่น

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ @RangsimanRome ประเด็นทางออกในการจัดตั้งรัฐบาลที่ยืดเยื้อหลังการเลือกตั้ง ระบุว่า "ทางออกหมายเลข 272: จะต้องรออีก 10 เดือนหรือไม่ ส.ว. มีหน้าที่ต้องตัดสินใจ"

ผมเห็นข้อถกเถียงในสังคมต่อสถานการณ์การเลือกนายกรัฐมนตรีในขณะนี้ ที่ตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญกำหนดให้ ส.ว. มีส่วนร่วมลงมติเลือกด้วย ซึ่งยังเหลือเวลาอีกประมาณ 10 เดือนที่ ส.ว. จะมีอำนาจนี้ ว่าตกลงแล้วเราควรจะ "รอ" ไปจนกว่าจะสิ้นสุดระยะเวลาแล้วค่อยเลือกนายกฯ โดย ส.ส. เท่านั้น หรือจะ "ยอม" ให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุดไม่ว่ารัฐบาลนั้นจะประกอบด้วยพรรคใดบ้างก็ตาม

ก่อนอื่นผมขอทำความเข้าใจให้เป็นที่ชัดเจนก่อนว่าแม้ว่า ส.ว. 250 คน เมื่ออยู่ครบ 5 ปีแล้วจะยังต้องอยู่รักษาการต่อไปจนกว่าจะมี ส.ว. ชุดใหม่ก็ตาม แต่ไม่ได้หมายความว่า ส.ว. จะยังคงมีอำนาจเลือกนายกฯ ติดอยู่กับตัวด้วย เพราะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เขียนไว้ชัดยิ่งกว่าชัดว่าอำนาจ ส.ว. เลือกนายกฯ มีแค่ "ในระหว่าง 5 ปีแรกนับแต่วันที่มีรัฐสภาชุดแรกตามรัฐธรรมนูญนี้" เท่านั้น ซึ่ง ส.ว. ถูกแต่งตั้งขึ้นมาเมื่อ 11 พฤษภาคม 2562 และมีการเรียกประชุมรัฐสภาครั้งแรกสุดเมื่อ 22 พฤษภาคม 2562 ดังนั้นอำนาจเลือกนายกฯ ของ ส.ว. ไม่มีทางเกินไปกว่าเดือนพฤษภาคม 2567 แน่ๆ (และหากยังมีความพยายามตีความบิดพลิ้วให้มีอำนาจนานไปกว่านั้นอีก ก็ต้องถือเสมือนว่าเป็นการทำรัฐประหารแล้ว)

อย่างไรก็ตาม ผมขอย้ำอย่างหนักแน่นว่าประชาชนไม่มีความจำเป็นต้อง "รอ" จนถึง 10 เดือนกว่าจะได้รัฐบาลเลย และไม่จำเป็นต้อง "ยอม" เพื่อให้ได้รัฐบาลที่เรารู้ดีอยู่แก่ใจลึกๆ ว่ามีสิ่งไม่พึงปรารถนาแฝงอยู่มาปกครองประเทศโดยเร็วด้วย

ผมและพรรคก้าวไกลขอยืนยันอีกครั้งว่าการรวมตัวของ 8 พรรคการเมือง 312 เสียง (ซึ่งมีพรรคก้าวไกลรวมอยู่ด้วย) เป็นเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรนั้นมีความชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตยครบถ้วนแล้วทุกประการที่จะจัดตั้งเป็นรัฐบาลของประชาชนได้ และยืนยันที่จะอยู่ร่วมกับ 8 พรรคร่วมเพื่อจัดตั้งรัฐบาลต่อไป ตราบเท่าที่

1. "มีลุงไม่มีเรา" ไม่ดึงพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติเข้ามาเป็นรัฐบาลด้วย

2. พรรคก้าวไกลจะเดินหน้านโยบายแก้มาตรา 112 ต่อไป

ซึ่งทั้ง 2 ข้อสงวนของเรานี้มิได้ทำให้ 8 พรรคร่วมเสียความชอบธรรมทางประชาธิปไตยเลยแม้แต่น้อย

และเมื่อทั้ง 8 พรรคยืนอยู่บนจุดที่ถูกต้องในอ้อมกอดของประชาชน นั่นเท่ากับว่าพวกเราได้ทำหน้าที่ในส่วนของพวกเราอย่างเต็มกำลังแล้วที่จะไม่ให้ประชาชนต้องรอต่อไปอีก 10 เดือน ส่วนที่เหลือจึงเป็นหน้าที่ของ ส.ว. แล้วว่าจะตัดสินใจอย่างไรต่อ

การที่ ส.ว. ที่มาจากการเลือกของคณะรัฐประหารมีอำนาจเลือกนายกฯ ด้วยนั้น ไม่ใช่สิ่งปรกติในระบอบประชาธิปไตยอย่างแน่นอน แต่ ส.ว. แต่ละท่านต่างเลือกได้ที่จะไม่หลงอยู่กับอำนาจนั้น เลือกได้ว่าจะใช้อำนาจนั้นเพื่อพาประเทศออกจากความผิดปรกติเสียตั้งแต่ตอนนี้ หาใช่ยื้อมันต่อไปอีก 10 เดือน เลือกได้แม้กระทั่งจะ "ปิดสวิตช์" ตัวเองอย่างแท้จริงด้วยการร่วมแก้รัฐธรรมนูญยกเลิกมาตรา 272 นี่ไม่ใช่ทางเลือกที่เหลือบ่ากว่าแรงเลยสำหรับ ส.ว. ที่ยังมีศักดิ์ศรีเหลืออยู่ในตัวเอง

ผมและพรรคก้าวไกลขอยืนหลังตรงและจับมืออีก 7 พรรคร่วมไว้อย่างแนบแน่น รอฟังการตัดสินใจของ ส.ว. ทุกท่าน หวังว่าจะไม่ทำให้ประชาชนต้องรอนานถึง 10 เดือนนะครับ

อัลบั้มภาพ 30 ภาพ

อัลบั้มภาพ 30 ภาพ ของ สส.โรม ชี้ชัด สว.หมดอำนาจเลือกนายกฯ พ.ค.67 ตีความบิดพลิ้ว ถือเป็น "รัฐประหาร"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook