"ไอซ์ ปรีชญา" ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร! เล่าละเอียดมรสุมชีวิต สู่ภาวะเครียดสะสม

พร้อมกลับมาลุยงานเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว สำหรับ ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร นางเอกซุปตาร์ร้อยล้าน หลังจากที่ต้องเผชิญกับมรสุมชีวิตลูกใหญ่จนวูบหมดสติ และต้องเข้ารับการรักษาโดยด่วนภายใต้การดูแลอย่างใช้ชิดของแพทย์

ซึ่งล่าสุด! นอกจาก ไอซ์ ปรีชญา จะได้ออกมาเผยถึงสภาพจิตใจของตนเอง และอาการป่วยในช่วงที่ผ่านมาให้เราได้อัปเดตกันแบบละเอียดยิบกลางงาน Grand Opening New Product เปิดตัวสินค้าใหม่ในเครือ บริษัท HAEWON แล้ว เจ้าตัวยังถือโอกาสนี้กล่าวขอบคุณแฟนๆ และคนรอบข้าง ที่ส่งกำลังใจให้อย่างล้นหลามในช่วงที่ผ่านมาอีกด้วย

สุขภาพตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ?
ถ้าเป็นจิตใจก็ถือว่าดีขึ้นในระดับหนึ่งค่ะ ซึ่งน่าจะเป็นเพราะได้กำลังใจจากหลายๆ ฝ่าย ทั้งครอบครัว ทั้งคุณพ่อคุณแม่ ไปจนถึงแฟนคลับ ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ไอซ์รู้สึกใจฟูขึ้นเยอะ

ได้มีโอกาสปรึกษาแพทย์บ้างหรือเปล่า ?
ปรึกษาค่ะ ปรึกษาคุณหมอ และก็ยังคงมีการดูแลกันอยู่ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรมากนะคะ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของระบบภายในมากกว่า อย่างเช่น การพักผ่อน การทานอาหาร รวมไปถึงความเครียด เพราะถ้าไอซ์เครียดมากๆ ไอซ์ก็จะนอนไม่หลับ ทานไม่ได้ ทุกอย่างมันจะผิดเวลาไปหมด

ตอนที่วูบไปในครั้งนั้น ถือว่าเป็นครั้งที่วิกฤตที่สุดเลยไหม ?
คิดว่านะคะ เพราะการที่วูบไปมันก็น่าจะวิกฤตแล้วแหละ

อาการนอนไม่หลับของเรานานสุดคือกี่วัน ?
ไม่น่าจะนับเป็นวันได้ค่ะ แต่มันจะเป็นในลักษณะอาการแบบว่าสะสมมากกว่า

ย้อนเล่าให้ฟังได้ไหมว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้น ?
เอ่อ... จริงๆ วันนั้นไอซ์ก็ใช้ชีวิตปกตินะคะ แต่พอดีว่ามันเหมือนมีเรื่องต่างๆ เข้ามาเยอะมากด้วยมั้ง มันเลยทำให้ไอซ์เกิดอาการเครียด บวกกับก่อนหน้านี้ไอซ์เองก็เครียดสะสมมาหลายอาทิตย์แล้วด้วย มันเลยกลายเป็นว่าไอซ์ทั้งขาดสารอาหาร ทั้งไม่ได้นอน สุดท้ายก็เลยวูบไปค่ะ

ตอนที่ตื่นขึ้นมาแล้วรู้ว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล ตอนนั้นเป็นยังไง ?
งงค่ะ ยังมีอาการงงอยู่ และก็สงสัยด้วยว่าเราเป็นอะไร ซึ่งคำตอบของคุณหมอก็คือน่าจะมีสาเหตุมาจากความอ่อนเพลีย บวกกับภาวะความดันต่ำที่เป็นอยู่ก่อนหน้านั้น

ในวันเดียวกันกับที่เราวูบ ก่อนจะถึงจุดนั้นก็มีภาพเรากับขวดยา เลยทำให้คนคิดว่าเรากินยามากไป ?
ไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ หลักๆ เป็นเพราะความเครียดมากกว่า ส่วนเรื่องการทานยาไอซ์ทานของไอซ์เป็นปกติอยู่แล้ว

เราเคยมีช่วงที่คิดจะทำร้ายตัวเองบ้างไหม ?
มันก็มีแว่บๆ บ้างอยู่แล้วค่ะ แต่ก็ไม่ได้ไปถึงขั้นนั้น

ในวันนั้นมีคนส่งกำลังใจให้เราและครอบครัวเยอะมาก ?
ต้องขอบคุณมากเลยค่ะ ต้องขอบคุณจริงๆ สำหรับหลายๆ คนที่เข้ามาให้กำลังใจ ไอซ์อ่านทุกคอมเมนต์เลยนะ (ยิ้ม)

ถือว่าเป็นช่วงที่ดาวน์ที่สุดในชีวิตเลยไหม ?
เอ่อ... ดิ่งที่สุดแล้วค่ะตอนนี้

ส่วนตัวเราเองมีเรื่องอะไรบ้างที่ทำให้เครียด ?
จริงๆ ไอซ์เครียดตั้งแต่มีข่าวแล้วค่ะ แล้วหลังจากนั้นก็มีเรื่องของคดีความ ซึ่งมันไม่ได้มีอะไรเลย และมันก็จบไปแล้วด้วย แต่ว่ามันก็ยังคงทำให้ไอซ์เครียดอย่างต่อเนื่อง แล้วไหนจะเรื่องงานอีก รวมถึงเรื่องที่คุณแม่ไม่สบาย คือมันบวกๆ กันหลายเรื่องอ่ะค่ะ

เงินเก็บของเราเองในช่วงที่ผ่านมาก็ต้องดึงออกมาใช้ ?
ใช่ค่ะ ใช้เงินเก็บ คือช่วงที่คุณพ่อต้องผ่าตัด ไอซ์ก็ต้องดึงเงินทั้งหมดออกมาช่วยรักษาคุณพ่อ ดังนั้นตอนนี้ไอซ์ต้องทำตัวเองให้แข็งแรงค่ะ เพื่อที่ไอซ์จะได้สามารถกลับมาทำงานได้

พอจะบอกได้ไหมว่าเงินตอนนี้เหลือติดบัญชีเท่าไหร่ ?
ไม่กล้านับเลยค่ะ (ยิ้ม) แต่อย่างที่บอกคือเงินก้อนนี้ที่ดึงไปใช้ ไอซ์เอาไปใช้สำหรับจ่ายรักษาคุณพ่อ ดังนั้นก็ไม่เป็นไรเลยค่ะ ต่อให้ไม่เหลือสักบาทก็ไม่เป็นไร

ช่วงที่เครียดมากๆ เราได้เล่าหรือระบายให้ใครฟังบ้างไหม ?
ไอซ์เป็นคนไม่ค่อยพูดอ่ะค่ะ ไอซ์เป็นคนที่พูดน้อย คือถ้ามันไม่สุดจริงๆ ไอซ์ก็จะไม่พูดเลย

ภาระค่าใช้จ่ายตอนนี้เราดูแลอะไรเป็นหลัก ?
ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของค่ารักษาพยาบาลค่ะ ทั้งของคุณพ่อ ของคุณแม่ และก็ของตัวไอซ์เอง

พร้อมกลับมาทำงานเต็มที่ ?
พร้อมค่ะ ถ้าใครมีงานนะคะ สามารถจ้างไอซ์ได้เลย (ยิ้ม) ร้อง เต้น เล่น ไอซ์ทำได้หมดเลยค่ะ

ความสุขของเราตอนนี้คืออะไร ?
คือการทำงานค่ะ ไอซ์อยากทำงาน อย่างน้อยการทำงานก็ทำให้ไอซ์ได้แอคทีฟตัวเอง

อย่างล่าสุดแฟนๆ ก็ชื่นชมลุคนี้ของเราว่าสวยลงตัวแล้ว ?
ขอบคุณมากค่ะ จริงๆ ก็น่าจะเพราะได้หยุดงานได้พักผ่อนนี่แหละค่ะ ได้นอนเยอะ ได้ทานอาหารเยอะ