ผัวอึ้ง เมียเป็นอัมพาตมา 16 ปี ดึกๆ ลุกเดินเอง เช้ามาจำไม่ได้ พาไปหาหมอถึงรู้สาเหตุ
เมียเป็นอัมพาตติดเตียงมา 16 ปี ผัวออกจากบ้านวันเดียว ลุกขึ้นเดินเองได้ หลานเห็นดึกๆ แทบไม่เชื่อสายตา รีบโทรตามลุงกลับมาดู
นางหวัง (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นอัมพาตหลังจากประสบอุบัติเหตุ ไม่สามารถเดินหรือใช้ชีวิตด้วยตัวเองได้ นอนติดเตียงมานานถึง 16 ปี ทำให้สามีต้องเป็นคนดูแลภรรยา และหาเงินมาจุนเจือครอบครัวเพียงคนเดียว ทำให้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ลำบากและยากจนมาก
กระทั่งในปี พ.ศ.2553 หลังจากรายได้ไม่พอรายได้มานาน ในที่สึดเขาก็ต้องตัดสินใจออกไปทำงานไกลบ้านเพื่อหาเลี้ยงชีพ โดยขอให้หลานสาวมาช่วยดูแลภรรยาในช่วงเวลานี้ โดยฝ่ายหลานสาวก็เต็มใจจะช่วยอย่างทุ่มเท
อย่างไรก็ตาม คืนหนึ่งเมื่อไฟฟ้าในหมู่บ้านดับ เธอจึงไปหาไฟฉายเพื่อจะเช็ดตัวให้ป้า แต่เธอกลับไม่พบป้านอนอยู่บนเตียง เธอตกใจมากรีบเดินหาจนทั่ว กระทั่งเห็นภาพที่ช็อกกว่าเดิม เมื่อป้าที่เป็นอัมพาตกำลังเดินโซเซลงมาที่ชั้นล่าง
ภาพที่เห็นทำเอาเธอแทบไม่เชื่อสายตา รีบวิ่งไปพยุงป้าด้วยความตื่นเต้นและประหลาดใจ และถามทันทีว่า "ป้า ป้าเดินได้?" แต่อีกฝ่ายไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เพียงแค่พยายามเดินออกไปจากบ้าน แต่หลังจากนั้นไม่นานก็หมดสติไป และเช้าวันรุ่งขึ้นก็บอกว่าจำอะไรไม่ได้
สิ่งนี้ทำให้หลานสาวรู้สึกแปลกใจมาก ป้าที่เป็นอัมพาตมานานถึง 16 ปี จู่ๆ ก็ลุกขึ้นเดินได้เหมือนคนปกติ อาจมีอะไรซ่อนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ เธอคาดเดาโดยพุ่งเป้าไปที่ลุงของตัวเอง เพราะก่อนที่จะเป็นอัมพาต ความสัมพันธ์ของสามีภรรยาไม่ค่อยดีนัก ทั้งสองมักทะเลาะเบาะแว้งกันหลายเรื่อง
อีกทั้งก่อนที่ลุงจะเดินทางไปทำงาน ยังย้ำอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษว่า "ต้องให้ป้ากินยาตรงเวลา" โดยบอกว่าเป็นยาที่สั่งโดยแพทย์ เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคโปลิโอ ตอนนั้นเธอเชื่ออย่างไม่คิดอะไร แต่ตอนนี้เริ่มสงสัยจนต้องแอบไปถามคนรู้จัก แต่ก็ได้รับการยืนยันว่าเป็นยาแผนโบราณ ช่วยการไหลเวียนโลหิต ไม่มีอันตรายใดๆ
หลานสาวยังคงต้องการหาคำตอบในเรื่องปริศนานี้ เธอตัดสินใจพาป้าไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพอย่างละเอียด ซึ่งแพทย์ก็กล่าวว่าไม่มีปัญหาทางร่างกายใดๆ อีกทั้งยังไม่พบสาเหตุของการเป็นอัมพาตของเธอด้วย ทำให้หลายสาวยิ่งไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น สุดท้ายจึงตัดสินใจโทรหาลุงเพื่อถามเรื่องนี้
หลังจากทราบข่าวภรรยา เขาก็รีบกลับบ้านในทันที แต่เมื่อกลับมาแล้วก็เห็นยังคงนอนอยู่บนเตียง แม้เขาจะลองพยายามดึงภรรยาให้ลุกขึ้นนั่ง แต่ก็ไม่เป็นผลใดๆ เขาและหลานสาวจึงตัดสินใจรอต่อไปเรื่อยๆ กระทั่้ง 4 วัน ในที่สุดก็ได้เห็นฉากเดิมในตอนกลางคืน คือลุกขึ้นและเดินได้เหมือนคนปกติ แต่เช้าวันต่อมาก็บอกว่าจำอะไรไม่ได้
หลานสาวยังคงไม่ตัดประเด็นเดิมทิ้ง เขาถามลุงตรงๆ เรื่องการวางยาพิษทำให้ภรรยาเดินไม่ได้ เพราะเพียงแค่ลุงออกจากบ้านไป และอาจจะหยุดให้ยาในช่วงนั้น ป้าก็ลุสามารถเคลื่อนไหวได้ทันที อย่างไรก็ตาม ลุงยืนยันว่าเขาไม่ได้ทำร้ายภรรยา ไม่มีเหตุผลที่จะทำเช่นนั้น อีกทั้งเขาเองก็ทำงานอย่างหนัก ทุ่มเทแรงกายแรงใจ และเงินมหาศาล เพื่อดูแลและเลี้ยงดูภรรยาของเขาตลอด 16 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เมื่อนึกย้อนไปถึงเมื่อ 16 ปีที่แล้ว วันนั้นฝนตกหนัก เขาและภรรยาทะเลาะกันครั้งใหญ่ เธอโกรธจัดจึงกางร่มออกจากบ้าน แต่เมื่อนนแล้วยังไม่กลับมา เขารู้สึกเป็นห่วงจึงวิ่งไปตามหาภรรยา กระทั่งพบนอนอยู่ข้างถนนไม่สามารถลุกขึ้นได้ ตั้งแต่นั้นมาเธอก็เป็นอัมพาต ดังนั้น เขาจึงคิดอยู่เสมอว่าภรรยาของเขาประสบอุบัติเหตุ
เมื่อตระหนักว่าลุงดูเหมือนจะไม่ได้โกหก หลานสาวจึงตัดสินใจพาป้าไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพจิต ในที่สุดเมื่อหมอสะกดจิตความจริงอันน่าประหลาดใจก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าเธอไม่เคยเป็นอัมพาต ทั้งนี้ เมื่อนึกย้อนไปถึงเมื่อ 16 ปีที่แล้ว วันนั้นฝนตกหนัก เขาและภรรยาทะเลาะกันครั้งใหญ่ เธอโกรธจัดจึงกางร่มออกจากบ้าน แต่พลาดหกล้มเพราะถนนลื่น
ในตอนนั้นเองสามีที่เป็นห่วงได้ออกมาตามหาเธอ และเห็นภาพที่เธอนอนอยู่ข้างถนนไม่สามารถลุกขึ้นได้ ด้วยความเป็นห่วงเขาจึงรีบเข้าช่วยอุ้มเธอกลับบ้าน และตั้งแต่นั้นมาเธอก็เป็นอัมพาตไม่สามารถ ดังนั้นจึงคิดมาตลอดว่าเธอประสบอุบัติเหตุก่อนที่เขาจะไปถึง
แต่ความจริงแล้วเพียงเพราะภรรยาเห็นว่าสามีดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี จึงจงใจแสร้งเป็นอัมพาตเพื่อไม่ให้ทั้งคู่ทะเลาะกันเหมือนที่ผ่านๆ มา ยอมที่จะนอนนิ่งไม่ขยับเป็นเวลาหลายปี ส่งผลให้ร่างกายของอ่อนแอลงเรื่อยๆ เช่นเดียวกับสภาพจิตใจที่เริ่มไม่ปกติ ดังนั้นแม้แต่ตัวเธอเองก็ยังคิดว่าตัวเองเป็นอัมพาตจริงๆ ไปเสียแล้ว อย่างไรก็ดี ล่าสุดเมื่อเห็นว่าสามีไม่อยู่บ้าน เธอก็ตื่นตระหนกและรีบลุกจากเตียงไปดู
เมื่อทราบข้อเท็จจริงนี้ สามีก็ตกใจเป็นอย่างมาก เขาขอโทษภรรยาซ้ำๆ เพราะไม่คาดคิดว่าการกระทำของเขา จะทำให้เธอตัดสินใจทำเรื่องแบบนี้ ในที่สุดปมในใจของทั้งคู่ก็ถูกคลายออก สามีพาภรรยาของเขากลับบ้าน และช่วยเธอออกกำลังกายเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาเป็นปกติในเร็ววัน
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ