สาวปวดใจสามีห่างเหิน จู่ๆ ลูกถามย้ำ "รู้ไหมทำไมพ่อไม่จูบ?" ช็อก ลูกเห็นจู๋จี๋ชู้ทุกวัน
อย่าคิดว่าเด็กไม่รู้เรื่อง สาวปวดใจสามีไม่ยอมจู๋จี๋ จู่ๆ ลูกสาวถามย้ำ "รู้ไหมทำไมพ่อไม่จูบ?" ที่แท้เป็นผู้กุมความลับ เล่าหมดเห็นจูบชู้ทุกวัน
คุณจีน (นามสมมุติ) ปัจจุบันเธออายุ 30 กว่าปี และแต่งงานกับสามีในหมู่บ้านเดียวกันมา 8 ปีแล้ว ทั้งสองมีลูกสาวด้วยกัน มีชีวิตที่มีความสุขและสงบสุขมาก อย่างไรก็ดี เธอเป็นพนักงานออฟฟิศที่ทำงานด้วยชั่วโมงที่แน่นอน แต่ในทางกลับกัน สามีของเธอทำงานไม่เป็นเวลา และความแตกต่างของงานทำให้ชีวิตครอบครัวเริ่มวุ่นวาย
ตัวอย่างเช่น ทุกเย็นเธอต้องการให้ทั้งคู่มีเวลาเล่นกับลูกสาวพร้อมกัน แต่สามีกลับต้องออกไปทำงาน หรือมีบางครั้งที่เธอต้องการใกล้ชิดกับสามีในตอนกลางคืน แต่เขามักจะปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่าเหนื่อย และย้ำว่าเขาไม่ต้องการทำอะไรทั้งนั้น แค่อยากนอนเฉยๆ เพื่อไม่ให้รู้สึกเหนื่อยเท่านั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นหลายครั้ง เธอจึงเริ่มรู้สึกเศร้าและอดไม่ได้ที่จะโกรธสามี
จนกระทั่งในวันเกิดครบรอบ 5 ขวบของลูกสาว ทั้งคู่พยายามฉลองวันเกิดให้ลูกสาวด้วยกันอย่างมีความสุข เธอจึงวางแผนถ่ายรูปครอบครัวทั้ง 3 คน ตอนเป่าเทียนตัดเค้กวันเกิด โดยบอกให้สามีหอมแก้มเธอเป็นการเยียวยาหลังจากทั้งคู่ไม่ได้ใกล้ชิดกันเป็นเวลานาน ซึ่งสามีมีท่าทีลังเลในตอนแรก แต่ภายหลังก็จูบแก้มภรรยาเพื่อถ่ายรูป
อย่างไรก็ดี ขณะที่กำลังกินเค้กกันอยู่นั้น สามีพบว่าน้ำดื่มในบ้านหมด จึงลงไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นล่าง ในตอนนั้นเองจู่ๆ ลูกสาววัย 5 ขวบ ก็ถามขึ้นมาว่า “แม่คะ รู้ไหมทำไมตอนนี้พ่อไม่จูบแม่แล้ว? เพราะตอนนี้หนูเห็นพ่อจูบสาวสวยทุกบ่าย พ่อและพี่คนนั้นไปรับหนูที่โรงเรียน ออกไปข้างนอกด้วยกัน แล้วก็กลับบ้าน พ่อบอกหนูว่าอย่าบอกแม่ เป็นความลับระหว่างพ่อกับหนู งั้นนี่ก็เหมือนกัน เป็นความลับระหว่างเราสองคน แม่กับหนู"
เมื่อได้ยินสิ่งเหล่านี้จากปากของลูกสาว เธอก็น้ำตาไหลและเข้าใจเหตุผลทั้งหมดว่าทำไมสามีถึงปฏิเสธเธอมาตลอด สุดท้ายในงานเลี้ยงวันเกิดของลูกสาว เธอและสามีก็โต้เถียงกันเสียงดังต่อหน้าลูกสาว ทำให้ลูกกลัวมาก อีกทั้งเมื่อเธอขอหย่า แบ่งทรัพย์สิน และขออำนาจปกครองบุตร ลูกสาวก็เข้าใจว่าความผิดพลาดมาจากตัวเอง จึงเอาแต่พูดว่า “พ่อคะ แม่คะ อย่าทะเลาะกันเลย หนูขอโทษ เป็นเพราะหนูทำให้พ่อแม่ทะเลาะและเลิกกัน หนูขอโทษ”
เมื่อได้ยินลูกสาวพูดเช่นนั้น เธอก็รีบเข้าไปปลอบใจว่าไม่ใช่ความผิดของเด็ก แต่เป็นความผิดของพ่อแม่เอง จนถึงตอนนี้การหย่าร้างดำเนินมาหลายเดือนแล้ว แต่บางครั้งลูกก็ยังร้องไห้และบอกกับเธอว่า เสียใจที่บอกความจริงกับแม่ เพราะหากไม่บอก ครอบครัวของเราคงไม่ต้องห่างกัน และยังคงโทษว่าตัวเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้พ่อแม่ทะเลาะกัน
อันที่จริง เมื่อสามีและภรรยาไม่มีความรู้สึกต่อกันแล้ว การเลือกที่จะยุติการแต่งงานถือเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล อย่างไรก็ตาม เด็กที่ยังไม่เข้าใจเรื่องราวอันซับซ้อน อาจต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมากจากความผิดพลาดของผู้ใหญ่ ดังนั้นก่อนตัดสินใจเรื่องสำคัญในครอบครัว พ่อแม่ต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ บอกเล่าให้ลูกเข้าใจ ให้เวลาได้ปรับตัวด้วย