สุดซึ้ง ยายจ่อยตัวตึงวัย 81 เลิกเมาถาวร เผยกลับใจเพราะผู้หญิงแปลกหน้าคนเดียว
ยายจ่อยตัวตึงวัย 81 เลิกเมาถาวร กลายเป็นคนขยันทำกิน เผยกลับใจเพราะผู้หญิงคนหนึ่งที่ช่วยให้เห็นคุณค่าในตัวเอง
วันที่ 1 ส.ค. 66 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของยายจ่อย พื้นที่หมู่ 4 ต.ชากบก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ซึ่งเป็นบ้านเช่า อยู่กลางสวนยาง นางค่าย หรือ ยายจ่อย อายุ 81 ปี เช่าบ้านอยู่กับลูกสาวและลูกชาย แต่วันนี้ยายจ่อย ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่เมาพูดไม่รู้เรื่องและไม่เคยอยู่กับบ้าน แต่จะเดินไปตามถนนในสภาพเมาแอ๋ หลายครั้งที่นอนอยู่บนถนน จนชาวบ้านเอือมระอา
วันนี้ยายจ่อย ไม่เมาไม่ไปเดิน ไปนอนอยู่บนถนน แต่ขะมักเขม้นอยู่กับการทำพริกป่น ทำข้าวคั่วส่งขายตามออเดอร์ที่มีเข้ามาทุกวัน พริกป่นที่ยายจ่อยทำขายเป็นพริกแห้งชั้นดี คั่วจากเตาถ่านใส่ใบมะกรูดฉีกรองก้นกระทะ และใส่เกลือป่นกันพริกไหม้เวลาคั่ว พอคั่วพริกสุกได้ที่ก็นำมาเทใส่ครกหิน เลือกใบมะกรูดและเกลือออก จากนั้นก็ตำจนละเอียด พริกป่นจะหอมและเผ็ดได้ใจเพราะเป็นพริกขี้หนูล้วนๆไม่มีส่วนผสมอื่น
ส่วนข้าวคั่วนั้น ยายจ่อยใช้ข้าวหอมมะลิ คั่วกับไฟเตาถ่านแล้วค่อยนำมาตำให้ละเอียด ใส่ถุงขายราคาถุงละ 10 บาท ราคาขายส่งถุงละ 8 บาท บางวันยายจ่อยก็จะออกไปเก็บฝักเสี้ยนป่าที่ขึ้นอยู่ตามแปลงนาของชาวบ้าน เก็บเอาเฉพาะยอดนำมาทำเป็นผักเสี้ยนดอง ใส่ถุงขาย ถุงละ 10 บาท ชาวบ้านต้องจองเพราะทำไม่ทัน ผักเสี้ยนดองยายจ่อยอร่อยจริงเพราะยายดองกับน้ำซาวข้าวและเกลือ ทั้งหอม ทั้งเปรี้ยวกินกับน้ำพริกอร่อยมาก
ยายจ่อยบอกว่า ทุกวันนี้ มีความสุขมากไม่ทุกข์ร้อนจนต้องดื่มเหล้าไร้สติเหมือนเมื่อก่อน สาเหตุที่เปลี่ยนตัวเองได้เพราะเชื่อฟังนายิกา ซึ่งเป็นช่างภาพจิตอาสาของชาวตำบลชากบก ที่คอยติดตามช่วยเหลือทุกครั้งตอนไปเมานอนบนถนน และยังพาไปนอนที่บ้านดูแลจนอดเหล้าได้ พอยายกลับมาอยู่กับลูกๆ นายิกาก็แนะนำให้ ยายทำของขาย พอยายทำข้าวคั่ว พริกป่น ก็ยังช่วยหาลูกค้าขายดิบขายดีทุกวันนี้ ชีวิตจึงมีความสุขเพราะมีคุณค่า ไม่เหงาไม่เครียด ยามว่างก็นั่งฟังวิทยุ อ่านหนังสือธรรมมะ และดูมวย
ด้าน นางสาวนายิกา ศิลารัตน์ ช่างภาพจิตอาสาตำบลชากบก บอกว่า ตนเองมีอาชีพเป็นช่างตัดผม และขายต้นไม้ ยามว่างก็ตระเวนถ่ายภาพให้กับวัด โรงเรียน และชาวชุมชนนำเสนอข่าวสารในพื้นที่ จนเป็นที่รู้จัก พอมาเจอเคสยายจ่อย ซึ่งเป็นคนจากที่อื่นมาอยู่ในตำบลเมื่อเกิดปัญหา ก็มีคนจะขับไล่ให้ยายจ่อยอออกไปจากพื้นที่ ซึ่งตนเองเห็นว่าไม่ถูกต้อง จึงช่วยเหลือนำยายจ่อยมาดูแล จนอดเหล้าได้ ยอมเชื่อฟังไม่ออกไปเดินเมากลางถนน และยังทำตามคำแนะนำต่างๆ จึงปลาบปลื้มและดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งได้ช่วยให้ยายจ่อยเปลี่ยนไปในทางที่ดี ซึ่งการช่วยเหลืออย่างหนึ่งคือความจริงใจให้ความรักทำให้ยายรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า เช่นการทำพริกป่นขาย มีคนช่วยเหลือมีคนสั่งมากมาย ยายก็เกิดความภาคภูมิใจ การช่วยด้วยใจแบบนี้ จึงยั่งยืนกว่าการขอรับบริจาค
ยายจ่อยเป็นที่รู้จักกันในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ เพราะชอบกินเหล้าพอเมาได้ที่ก็จะเดินออกจากบ้านหนีลูกๆ ไปนอนริมถนนบ้าง กลางถนนบ้าง บางครั้งเคยเดินเรื่อยไปถึงจันทบุรี จนลูกๆ และชาวบ้านเอือมระอา ตำรวจเคยพาไปไว้ที่โรงพัก ทางพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เคยรับตัวยายจ่อยไปดูแลหลายครั้ง พอกลับมาบ้านก็เมาออกเดินตามถนนเหมือนเดิม ทำให้มีคนในหมู่บ้านอยากขับยายจ่อยออกจากพื้นที่ แต่นางสาวนายิกา ไม่ยอมจึงนำตัวยายจ่อยไปดูแลที่บ้านและพาเข้าอบรมโครงการผู้สูงอายุทำกิจกรรมต่างๆร่วมกับคนอื่นจนยายจ่อยอดเหล้าได้ และเริ่มนำความรู้ความสามารถที่มีออกมาทำอาชีพต่างๆ เช่นข้าวคั่ว และพริกป่น ซึ่งคนที่ซื้อไปครั้งแรกหวังต้องการช่วยเหลือเท่านั้นแต่พอได้นำไปใช้แล้วก็ติดใจเพราะสะอาดและมีคุณภาพแถมราคาถูก จึงพากันสั่งเพิ่มและบอกต่อ ออเดอร์จึงเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ