ปปช.ชงอัยการสูงสุดดำเนินคดี เสนาะ ฮุบที่ดินวัด
ป.ป.ช.ฟัน เสนาะ เทียนทอง กับพวก ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ สมัยเป็นรมช.มท.ปี2533 ฮุบที่ดินอัลไพน์ ส่งอัยการสูงสุดดำเนินคดี
เมื่อเวลา 17.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป.ป.ช. นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการป.ป.ช.แถลงผลการประชุมป.ป.ช.ว่า ที่ประชุมป.ป.ช.ได้พิจารณากรณีการกล่าวหานายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กับพวก ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีการจดทะเบียนโอนมรดก และโอนสิทธิขายที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมามิการามวรวิหาร จ.ปทุมธานี จำนวน 732 ไร่ โดยมิชอบ และละเว้นไม่ดำเนินการเพิกถอนการจดทะเบียนการโอนที่ดินโดยมิชอบดังกล่าว สมัยเป็นรมช.มหาดไทย เมื่อปี 2533 โดยจากการไต่สวนข้อเท็จจริง มีประเด็นต้องพิจารณาว่า ที่ดินตามพินัยกรรมดังกล่าว เป็นที่ธรณีสงฆ์หรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาและเห็นว่า ที่ดินของนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ตกเป็นของวัดและเป็นที่ธรณีสงฆ์แล้ว
แฉตระกูลเทียนทองถือหุ้นอัลไพน์
นายกล้านรงค์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายเสนาะมีคำสั่งไม่อนุญาตให้วัดรับมรดกที่ดินดังกล่าว เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2533 นั้น ต่อมาวัดได้ขายที่ดินดังกล่าวให้กับ 2 บริษัท ซึ่งการขายที่ดินดังกล่าว จากการตรวจสอบปรากฏว่า บริษัททั้ง2แห่งมีนางอุไรวรรณ เทียนทอง ถือหุ้นอยู่ 3 แสนหุ้น มูลค่า 30 ล้านบาท นายวิทยา เทียนทอง ถือหุ้นอยู่ 1.5 แสนหุ้น มูลค่า 15 ล้านบาท นายชูชีพ หาญสวัสดิ์ ถือหุ้น 1.5 แสนหุ้น มาตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค. 2533 ซึ่งเป็นเวลาก่อนที่นายเสนาะจะไม่อนุญาตให้วัดรับที่ดินที่ได้มาตามพินัยกรรม
ดังนั้นคณะกรรมการป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า พฤติการณ์ดำเนินการดังกล่าวของนายเสนาะ เป็นการกระทำในฐานะเป็นเจ้าพนักงานที่ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจ หรือฝืนใจผู้อื่น ให้หามาให้ซึ่งประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหาย แต่เนื่องจากความผิดตามมาตรา 157 ได้ขาดอายุความไปแล้วตั้งแต่เดือนส.ค. 2548 จึงให้ส่งเรื่องต่ออัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาตามมาตรา 148 ต่อไป