เปิดใจ ผอ.รร.อนุบาลศรีธาตุ เผยที่มาไอเดียสุดปัง งดจัดกิจกรรมวันแม่ ห่วงความรู้สึกเด็ก
เปิดใจ ผอ.โรงเรียนอนุบาลศรีธาตุ งดจัดกิจกรรมวันแม่ แต่ให้นักเรียนเขียนการ์ด-เรียงความ-แต่งกลอน เผยเหตุผลบีบหัวใจหวั่นเด็กไม่มีแม่โดนบูลลี่
จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก โรงเรียนอนุบาลศรีธาตุ ได้โพสต์รูปภาพและข้อความว่า “โรงเรียนอนุบาลศรีธาตุ พิจารณา งดจัดกิจกรรมวันแม่ในปีนี้ จากการออกเยี่ยมบ้านนักเรียน ทำให้ทางโรงเรียนมีข้อมูลนักเรียนที่อยู่กับแม่ประมาณ 30% ทางโรงเรียนได้คำนึงถึงความแตกต่างของแต่ละครอบครัว ที่อยู่กับคุณแม่และไม่ได้อยู่ ตลอดจนห่วงใยความรู้สึกของลูกๆนักเรียน ที่คุณแม่มาร่วมกิจกรรมไม่ได้ โดยปรับรูปแบบเป็นการทำการ์ดอวยพรให้คุณแม่ และประกวดแต่งกลอนและเขียนเรียงความวันแม่ครับ”
โดยมีชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความเห็นแสดงความชื่นชม และแชร์กันออกไปจำนวนมาก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (10 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังโรงเรียนอนุบาลศรีธาตุ ต.ศรีธาตุ อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่มีนักเรียนระดับชั้น อนุบาล 2-ป.6 มีนักเรียนทั้งหมด 805 คน ข้าราชการครูและบุคลากรทั้งหมด 58 คน
โดยพบนายเสกสรรค์ โสภารัตน์ ผอ.โรงเรียนอนุบาลศรีธาตุ และนางสาวอุทุมพร ขุนทุม อายุ 31 ปี ครูประจำชั้น 3/1 ที่กำลังทำกิจกรรมสอนเด็กนักเรียนเขียนเรียงความ และระบายสีลงในการ์ดวันแม่แห่งชาติ
ซึ่งเด็กนักเรียนได้ให้ความสนใจ นั่งเขียนเรียงความลงในการ์ดอย่างตั้งอกตั้งใจ และมีหน้าตายิ้มแย้มแสดงถึงความกตัญญูรู้พระคุณของแม่ที่ให้กำเนิดมา ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2566 และจะรวบรวมตรวจหาผู้ชนะเลิศในระดับชั้น ในวันที่ 15 สิงหาคม 2566 และจะประกาศผลรางวัลการประกวดในวันที่ 17 สิงหาคม นี้
โดยผู้อำนวยการโรงเรียนฯ จะเป็นผู้ตรวจผลงานและตัดสินรางวัลการประกวดนักเรียนด้วยตัวเอง โดยชั้นอนุบาลให้ระบายศรีรูปภาพ ชั้น ป.1-ป.3 ให้เขียนเรียงความและระบายสี อวยพรแม่ลงในการ์ด ส่วนชั้น ป.4-ป.6 ให้เขียนบทกลอนอวยพรให้แม่
นางสาวอุทุมพร ขุนทุม ครูภาษาไทยประจำชั้น ป. 3/1 เปิดเผยว่า หลังท่านผู้อำนวยการได้มอบหมายให้ครูประจำชั้นทุกคน ออกไปเยี่ยมบ้านเด็กนักเรียน ทำให้ทราบปัญหาเด็กนักเรียนที่ส่วนมากไม่ได้อยู่กับพ่อแม่
เช่น เด็กนักเรียนชั้น ป3/1 มีทั้งหมด 31 คน แต่มีเด็ก 20 คน ไม่มีพ่อแม่อยู่ด้วย แต่จะอยู่กับคุณตาคุณยาย คุณแม่หรือคุณป้า บางคนพ่อแม่ไปทำงานที่กรุงเทพ หรือต่างจังหวัด ซึ่งวันนี้ให้เด็กนักเรียน ระบายสีและเขียนคำอวยพรลงในการ์ดวันแม่ เพื่อนำไปมอบให้คุณแม่
"เนื่องจากทางโรงเรียนไม่ได้จัดกิจกรรมวันแม่ เหมือนปีที่ผ่านมา ซึ่งปีที่แล้วได้จัดกิจกรรมวันแม่ ผู้ปกครองส่วนมากไม่ได้มาร่วม ทำให้เด็กนักเรียนบางคนแม่ไม่มาร่วมกิจกรรม บางคนถึงกับน้ำตาไหล ทางโรงเรียนจึงได้เล็งเห็นความสำคัญด้านจิตใจและความรู้สึกของเด็ก จึงปรับเปลี่ยนกิจกรรมวันแม่ในปีนี้ขึ้นเป็นครั้งแรก"
ด้าน นายเสกสรรค์ โสภารัตน์ ผอ.โรงเรียนอนุบาลศรีธาตุ เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนฯ เราไม่ได้งดจัดกิจกรรมวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม แต่เป็นการปรับรูปแบบจากการไหว้แม่ ที่ต้องเชิญแม่มานั่งรับพวงมาลัยดอกมะลิที่โรงเรียน
จึงปรับกิจกรรมไปเป็นรูปแบบให้เด็กๆ เขียนเรียงความ วาดภาพระบายสี ลงในการ์ด และแต่งกลอนอวยพรให้แม่แทน สาเหตุหลักทางเราคำนึงถึงความรู้สึกของเด็กเป็นอันดับแรก หลังคณะครูเดินทางไปเยี่ยมบ้านของเด็กนักเรียนทั้งหมด 805 คน พบว่าส่วนใหญ่ 70 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีแม่อยู่ด้วย
"บางรายพ่อแม่แยกทางกัน แม่ไปทำงานต่างจังหวัด และแม่เสียชีวิต ซึ่งครอบครัวเด็กนักเรียนมีแม่อยู่ด้วยประมาณ 30% ครูไปเห็นสภาพของเด็กนักเรียนบางคนแทบจะร้องไห้ เพราะบางคนอยู่กับปู่ย่าตายา ลุงป้าน้าอา บางรายอยู่กับยายเพียง 2 คน ประกอบกับทุกปีที่เคยจัดงาน ตนเองเห็นเด็กที่ไม่มีแม่ บางคนร้องไห้ที่ไม่มีแม่มาร่วมกิจกรรมวันแม่เหมือนเพื่อนคนอื่น"
อย่างไรก็ตาม หลังปรับเปลี่ยนการจัดงานวันแม่ พบว่านักเรียนทุกคนต่างเข้าใจ เพราะเขารักเพื่อน รู้ว่าเพื่อนส่วนใหญ่ไม่มีแม่ หรือไม่สามารถมาร่วมกิจกรรมได้ บางคนร้องให้ด้วยความปราบปลื้มใจที่มีแม่มาร่วมกิจกรรม บางคนร้องไห้ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจที่ไม่มีแม่มาร่วมงาน และไม่อยากให้มีการบูลลี่กันในกลุ่มนักเรียน
นายเสกสรรค์ เปิดเผยต่อว่า พอเรื่องนี้เป็นกระแสในโซเซียล บรรดาครูและแอดมินไม่คิดว่าจะมีคนแชร์มากมายขนาดนี้ ทางเราไม่ได้สร้างภาพ แต่เราทำในสิ่งเห็นจริงๆ สภาพครอบครัวเด็กเป็นอย่างนั้นจริงๆ ทางครูเสนอมายัง ผอ. แบบนี้ดีไหมครับเรามองว่า เป็นเรื่องดีก็เลย
เราเป็นโรงเรียนเล็กๆ ในต่างอำเภอ เมื่อทำอะไรก็ปรึกษาและพูดคุยกัน นี่คือความภูมิใจของความเป็นครูทุกคน และบุคลากรรวมทั้งหมด 58 คน ขอบคุณชาวโซเซียลที่ให้กำลังใจและชื่นชมโรงเรียนอนุบาลศรีธาตุให้เป็นที่รู้จัก
"อยากฝากถึงเด็กนักเรียนที่ไม่มีแม่อยู่ด้วย แต่อยู่กับปู่ย่าตายา และญาติ ให้คำนึงอยู่เสมอว่าเขาก็เป็นผู้มีพระคุณที่เลี้ยงดูเรามาตั้งแต่กำเนิด เพราะเป็นสายเลือดเดียวกัน ไม่ต่างกับพ่อแม่แท้ๆของเรา รวมทั้งครูที่โรงเรียนก็เป็นพ่อแม่คนที่สองของเราก็ว่าได้
เนื่องจากครูทุกคนก็รักเด็กนักเรียนเหมือนลูก ที่หมั่นอบรมสั่งสอนให้วิชาความรู้ เพื่อให้ลูกๆ ทุกคนมีความรู้และมีวิชาไปประกอบสัมมาอาชีพ และเป็นคนดีของสังคมต่อไปในอนาคต และจงทำหน้าที่ของลูกให้ดีที่สุด เท่านี้ครูทุกคนก็ภูมิใจแล้ว"
นอกจากนี้ ทางโรงเรียนเราได้คำนึงถึงความปลอดภัยทั้งร่างกายและจิตใจ ของเด็กนักเรียน เพราะเป็นโรงเรียนคุ้มครองเด็ก จะไม่ทำร้ายเด็กหรือตีเด็ก ไม่ลงโทษเด็กด้วยความรุนแรง มีกฎห้ามเด็กบูลลี่กัน ซึ่งเราเป็นต้นแบบของหลักสูตรของการห้ามบูลลี่กันทางโลกออนไลน์ ร่วมกับมหาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ ที่ยกโรงเรียนของเราให้เป็นต้นแบบ
อัลบั้มภาพ 9 ภาพ