แฉ!บินไทยเครื่องไหม้หวิดร่วง

แฉ!บินไทยเครื่องไหม้หวิดร่วง

แฉ!บินไทยเครื่องไหม้หวิดร่วง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โสภณ แจงไฟไหม้บินไทยขณะอยู่บนฟ้าสุดระทึกหวิดตายยกลำ

วันนี้ (5 ก.พ.) ที่กระทรวงคมนาคม นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากฝ่ายบริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่า เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมา เครื่องบินโบอิ้ง 747-400 ของการบินไทย เที่ยวบินทีจี 116 สุวรรณภูมิ-เชียงใหม่ บรรทุกผู้โดยสาร 313 คน ซึ่งมีกำหนดเดินทางไปลงที่เชียงใหม่เวลา 17.15 น. แต่พอเครื่องขึ้นไปได้ประมาณ 20 นาที ก็เกิดไฟไหม้ที่ห้องเครื่องยนต์ที่ 1 ทำให้นักบินตัดสินใจ นำเครื่องบินกลับมาลงจอด ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ได้อย่างปลอดภัย โดยไม่มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากนั้นได้เปลี่ยนเครื่องบินลำใหม่ และทำการบินอีกครั้ง เมื่อเวลา 18.08 น. อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางคณะกรรมการสอบสวนอากาศยานอุบัติเหตุในราชอาณาจักร ของกรมการบินพลเรือน (บพ.) กำลังสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัด คงต้องใช้เวลาสักระยะ

ด้านนายสุรพล อิศรางกูร ณ อยูธยา ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการภาวะวิกฤตการบินไทย กล่าวว่า ขณะนี้การบินไทยได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ที่มีกัปตันมนตรี จำเรียง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายช่าง การบินไทยเป็นประธาน และกรรมการประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายการบิน ฝ่ายช่างและกรมการบินพลเรือน เข้ามาร่วมเป็นกรรมการ เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีสาเหตุจากอะไร แต่ในเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ภายในลุกไหม้ และเมื่อเกิดเหตุที่เครื่องยนต์ 1 กัปตันได้สั่งการไปยังระบบดับเพลิงอัตโนมัติที่เครื่องยนต์ให้ดับไฟ จึงสามารถดับเครื่องยนต์ทันที ก่อนเครื่องจะลงพื้นได้อย่างปลอดภัย

ขณะที่ นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ สังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้รับรายงานจากนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) การบินไทยตั้งแต่วันที่เกิดเหตุแล้ว ว่า หลังจากเครื่องบินขึ้นไปในระดับความสูง 6,000 ฟิต ปรากฏว่า นักบินพบสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติของน้ำมันหล่อลื่นที่เครื่องยนต์ 1 จึงดับเครื่องยนต์ที่มีปัญหา แล้วดับไฟ ถึงวนกลับมาลงที่สุวรรณภูมิอีกครั้งเท่านั้น หลังเกิดเหตุกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ได้สั่งให้ฝ่ายปฏิบัติการดำเนินการตรวจสอบหาสาเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว แต่เท่าที่ทราบก่อนการนำเครื่องบินทำการบิน ได้มีการตรวจสอบเครื่องยนต์ตามระเบียบการเรื่องความปลอดภัยเป็นไปตามปกติอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องขอชมเชยนักบิน ที่ดำเนินการเกี่ยวกับความปลอดภัยตามกระบวนการ ครบ 100% ทำให้ไม่มีใครเป็นอะไร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook