นายกฯบอกฮุนเซนมาพระวิหารยังปกติดี
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เดินทางมาที่บริเวณพื้นที่ทับซ้อนชายแดนไทย - กัมพูชา ประสาทเขาพระวิหารว่า เจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 ประเทศ มีการประสานงานกันตลอดเวลา สามารถพูดคุยกันได้รู้เรื่อง ซึ่งจากการได้รับรายงานล่าสุดทั้งจากรัฐมนตรีฯกลาโหมและจากแม่ทัพภาคที่ 2 ทราบว่า ขณะนี้ สถานการณ์ยังเรียบร้อยดี ทั้งนี้ยืนยันว่า หาก สมเด็จฮุนเซน เดินทางเข้ามาในพื้นที่ ที่เป็นของประเทศไทย ก็จะมีเจ้าหน้าที่ของประเทศไทย เข้าไปต้อนรับดูแลด้วย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลทราบดีว่าการให้สัมภาษณ์ของสมเด็จฮุนเซน ที่มาก้าวล่วงการเมืองในประเทศไทยโดยตลอดกับความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความสอดคล้องกัน แต่รัฐบาลก็มั่นใจว่า จะสามารถจัดการได้ไม่มีปัญหา
ทั้งนี้ในส่วนของข่าวที่ออกมา ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับสัญชาติกัมพูชาแล้วนั้น นายกฯ กล่าวว่าขณะนี้ยังไม่ได้มีการตรวจสอบแต่อย่างใด ทราบจากข่าวที่ออกมาเพียงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม นายกฯ ยังกล่าวถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โดยย้ำว่า หากมีการเคลื่อนไหวแบบใต้ดิน รัฐบาลคงยอมอยู่เฉยไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ได้ให้ฝ่ายกฎหมายของรัฐบาล จับตาความเคลื่อนไหวของ นปช. อยู่ตลอดเวลา
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวขอบคุณ พล.อ.อ.กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี ที่แสดงความห่วงใยรัฐบาล กรณีการแก้ไข
ปัญหาการพาดพิงของสถาบันของกลุ่มต่างๆ พร้อมยืนยัน รัฐบาลไม่ได้เพิกเฉย ซึ่งรัฐบาล ก็มีกลไกการทำงานทุกด้านที่จะแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้น ขณะเดียวกัน เห็นว่า รัฐบาล ควรต้องปรับปรุงให้มีความชัดเจนมากขึ้นในส่วนของกรรมการ ที่จะมาช่วยดูและการบังคับกฎหมาย ไม่ให้ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่ง ปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้รายงานให้ตนทราบมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวที่กระทำผิดในเรื่องดังกล่าวนั้น ก็มีมาเป็นระยะ ๆ แต่รัฐบาล ก็ได้ติดตามอยู่เสมอและบางส่วน ก็ได้มีการดำเนินการไปบ้างแล้ว
นอกจากนี้ นายกฯ ยังกล่าวถึงเรื่องการซื้อขายตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วยว่า ขณะนี้ ตนได้ลงนามแต่งตั้งกรรมการ เพื่อตรวจสอบข้อร้องเรียนกรณีดังกล่าวในส่วนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ไปแล้ว ซึ่งสามารถดำเนินการตรวจสอบคำร้องเรียนได้ทันที เนื่องจาก พื้นที่ดังกล่าว มีการร้องเรียนกันมากที่สุด ส่วนกรณีพื้นที่อื่นนั้นก็จะส่งเรื่องให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส. พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า มีคนใกล้ตัวของตนเอง เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยนั้น นายกฯ กล่าวว่า หากใครมีข้อมูลหลักฐานก็ขอให้ส่งมารัฐบาล จะดำเนินการตรวจสอบทุกคน โดยไม่เลือกปฏิบัติ หากมีข้อมูลเพียงพอ ก็จะดำเนินการทันที
ทั้งนี้ในส่วนของข่าวที่ออกมา ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับสัญชาติกัมพูชาแล้วนั้น นายกฯ กล่าวว่าขณะนี้ยังไม่ได้มีการตรวจสอบแต่อย่างใด ทราบจากข่าวที่ออกมาเพียงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม นายกฯ ยังกล่าวถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โดยย้ำว่า หากมีการเคลื่อนไหวแบบใต้ดิน รัฐบาลคงยอมอยู่เฉยไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ได้ให้ฝ่ายกฎหมายของรัฐบาล จับตาความเคลื่อนไหวของ นปช. อยู่ตลอดเวลา
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวขอบคุณ พล.อ.อ.กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี ที่แสดงความห่วงใยรัฐบาล กรณีการแก้ไข
ปัญหาการพาดพิงของสถาบันของกลุ่มต่างๆ พร้อมยืนยัน รัฐบาลไม่ได้เพิกเฉย ซึ่งรัฐบาล ก็มีกลไกการทำงานทุกด้านที่จะแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้น ขณะเดียวกัน เห็นว่า รัฐบาล ควรต้องปรับปรุงให้มีความชัดเจนมากขึ้นในส่วนของกรรมการ ที่จะมาช่วยดูและการบังคับกฎหมาย ไม่ให้ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่ง ปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้รายงานให้ตนทราบมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวที่กระทำผิดในเรื่องดังกล่าวนั้น ก็มีมาเป็นระยะ ๆ แต่รัฐบาล ก็ได้ติดตามอยู่เสมอและบางส่วน ก็ได้มีการดำเนินการไปบ้างแล้ว
นอกจากนี้ นายกฯ ยังกล่าวถึงเรื่องการซื้อขายตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วยว่า ขณะนี้ ตนได้ลงนามแต่งตั้งกรรมการ เพื่อตรวจสอบข้อร้องเรียนกรณีดังกล่าวในส่วนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ไปแล้ว ซึ่งสามารถดำเนินการตรวจสอบคำร้องเรียนได้ทันที เนื่องจาก พื้นที่ดังกล่าว มีการร้องเรียนกันมากที่สุด ส่วนกรณีพื้นที่อื่นนั้นก็จะส่งเรื่องให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส. พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า มีคนใกล้ตัวของตนเอง เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยนั้น นายกฯ กล่าวว่า หากใครมีข้อมูลหลักฐานก็ขอให้ส่งมารัฐบาล จะดำเนินการตรวจสอบทุกคน โดยไม่เลือกปฏิบัติ หากมีข้อมูลเพียงพอ ก็จะดำเนินการทันที