พรทิวา เล็งชงครม.ยุบอคส.ใน 3 เดือน

พรทิวา เล็งชงครม.ยุบอคส.ใน 3 เดือน

พรทิวา เล็งชงครม.ยุบอคส.ใน 3 เดือน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พรทิวา เล็งตั้งคณะกรรมการปรับโครงสร้าง อคส. ระบุหากไม่จำเป็นต้องมีองค์กรอยู่ อาจสั่งยุบเลิก ตามข้อเสนอกระทรวงการคลัง

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อยู่ระหว่างพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการปรับโครงสร้างองค์การคลังสินค้า (อคส.) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอรายงานผลการประเมินการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจปี 2551 ต่อที่ประชุม ครม.เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา โดยหากตั้งได้แล้ว คณะกรรมการชุดนี้จะต้องดำเนินการปรับปรุงโครงสร้าง อคส. ใหม่ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือนตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง แล้วนำผลสรุปเสนอต่อคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (กนร.) พิจารณาก่อนนำเสนอ ครม.ต่อไป

สำหรับรายงานผลประเมินการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจประจำปี 2551 ของกระทรวงการคลัง ระบุว่า อคส.เป็นรัฐวิสาหกิจที่มีคะแนนประเมินผล (ภาพรวม) ต่ำสุด 5 อันดับสุดท้าย มีคะแนน 2.4803 ลดลงจากปี 2550 ที่มีคะแนน 2.7821 โดยมีปัญหาสำคัญคือ ขาดคณะกรรมการหรือผู้บริหารสูงสุดเป็นเวลานาน หรือมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งจนขาดความต่อเนื่องในการดำเนินงาน ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน และขวัญกำลังใจขององค์กร

นอกจากนี้ บทบาท และทิศทางขององค์กรในการดูแลสินค้าเกษตรยังไม่ชัดเจน ขณะเดียวกันยังมีปัญหาในการปิดบัญชีและงบดุล เพราะสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ยังไม่รับรองงบการเงินในปี 2550 แสดงให้เห็นถึงปัญหาของการจัดการ ความน่าเชื่อถือของข้อมูล และการรายงานต่างๆ โดยเฉพาะด้านการเงิน ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการบริหารจัดการ และสนับสนุนการตัดสินใจ ที่สำคัญการปรับปรุงฟื้นฟูฐานะทางการเงินให้แข็งแกร่ง การปรับโครงสร้างต้นทุน ค่าใช้จ่าย และการบริหารสินทรัพย์ ยังไม่มีแนวทางดำเนินการอย่างชัดเจน และเป็นรูปธรรม อีกทั้ง ทรัพย์สินในปี 2551 ยังลดลงถึง 66 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากการที่ อคส.เป็นรัฐวิสาหกิจที่มีผลการประเมินต่ำติดต่อกันมาหลายปี กระทรวงการคลังเสนอให้ควรทบทวนบทบาท และภารกิจ หากมีความจำเป็นที่ต้องคงอยู่ ก็ต้องหาแนวทางในการปรับปรุง แต่หากไม่มีความจำเป็นในการคงอยู่ ก็ควรพิจารณายุบเลิก หรือปรับบทบาทองค์กรให้เหมาะสม เพื่อจะได้ไม่ต้องเป็นภาระกับภาครัฐต่อไป เมื่อกระทรวงพาณิชย์ดำเนินการทบทวนบทบาท ภารกิจ และความจำเป็นในการมีอยู่ของ อคส.เสร็จสิ้นแล้ว ให้นำเสนอต่อ คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (กนร.) พิจารณาใน 3 เดือน พร้อมให้เสนอแผนปรับบทบาท หรือแผนพลิกฟื้นต่อ กนร.เพื่อพิจารณาก่อนนำเสนอ ครม.

"การพิจารณาปรับบทบาท และภารกิจของ อคส.นั้น คงต้องพิจารณายุบเลิกส่วนงานที่ไม่มีความจำเป็น เช่น คลังสินค้าที่ประจำอยู่ในแต่ละจังหวัด หลังจากที่รัฐไม่ได้ทำโครงการรับจำนำสินค้าเกษตร จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องส่งบุคคลเหล่านี้ไปประจำยังคลังสินค้าในจังหวัดต่างๆ อีกต่อไป หากมีการยุบเลิกจริงจะเกลี่ยบุคคลที่มีความสามารถไปประจำยังส่วนต่างๆ ของ อคส. ส่วนที่ไม่มีความสามารถคงต้องให้ออก และจ่ายค่าชดเชยให้ด้วย"

ด้าน นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม กรรมการ คชก.ในฐานะประธานคณะกรรมการกลางตรวจสอบวิธีการปฏิบัติตามโครงการแทรกแซงการรับจำนำสินค้าเกษตรของ อคส. กล่าวว่า ตนได้ส่งผลการตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2551/2552 ให้ อคส.ทราบ โดยพบว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายทุจริตในการเช่าโกดังของห้างหุ้นส่วนจำกัด ชัยสมบูรณ์ ธุรกิจ ตั้งอยู่ที่ จ.ตาก และรับฝากผลผลิตข้าวโพดจากโครงการรับจำนำฯไว้กว่า 1 หมื่นตัน เพราะพบว่าผลผลิตเสียหายถึง 2.6 พันตัน มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ซึ่งตนได้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้แล้ว ส่วนการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นหน้าที่ของ อคส.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook