นิ่ม ยืนยัน คนร้ายขโมยเด็กทารกจาก รพ. ไม่เกี่ยวคดีน้องต่อ บ้านอยู่ตรงข้ามแต่ไม่สนิท

นิ่ม ยืนยัน คนร้ายขโมยเด็กทารกจาก รพ. ไม่เกี่ยวคดีน้องต่อ บ้านอยู่ตรงข้ามแต่ไม่สนิท ตำรวจเร่งสอบเส้นทางการเงิน

จากกรณีมีคนร้ายเข้ามาขโมยเด็กทารกแรกเกิดในโรงพยาบาลบางเลน ช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. วันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งเวลา 11.00 น. ได้เบาะแสจากภาพวงจรปิด มีชาวบ้านให้ข้อมูลว่า พบผู้ต้องสงสัย เช็กข้อมูลแล้วพบว่าบ้านอยู่ ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม อยู่ตรงข้ามกับบ้านน้องต่อ เด็กชายอายุ 8 เดือนที่หายไปเมื่อหลายเดือนก่อน เจ้าหน้าที่จึงบุกเข้าจับกุม นายนันทจักรษ์ อายุ 43 ปี พบคนร้ายอยู่กับเด็กภายในบ้าน จึงจับกุมตัวส่ง ร.ต.อ.อุทิศ เหล่าหา รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางเลน เพื่อสอบสวนขยายผลต่อไป เพราะอาจจะเชื่อมโยงกับคดีน้องต่อ เด็กชายวัย 8 เดือน หายตัวในพื้นที่ อ.บางเลน จ.นครปฐม 

 

ล่าสุด น.ส.นิ่ม แม่ของน้องต่อ เด็กชายวัย 8 เดือนที่หายไปอย่างปริศนา ก่อนที่นิ่มจะยอมรับสารภาพว่าเป็นคนทำลูกหล่นลงพื้นและนำศพไปโยนทิ้งน้ำ ได้ชี้แจงกรณีถูกโยงว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับ นายนันทจักรษ์ อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาขโมยทารกแรกเกิด อายุ 2 วัน จาก รพ.บางเลน จว.นครปฐม เนื่องจากบ้านอยู่ตรงข้ามกัน โดย น.ส.นิ่ม ยืนยันว่ากรณีดังกล่าวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีน้องต่อแน่นอน ซึ่งวันที่น้องต่อหายไปก็ช่วยตามหาปกติ

โดยก่อนหน้านี้ นายนันทจักรษ์ เคยมาซื้อเบียร์และอยู่ในบ้านของเขาไม่เดินมาสุงสิง ส่วนตัวไม่ได้สนิทด้วยและรู้จักผ่านทางครอบครัวของ พุด สามี ซึ่งตอนที่น้องต่อหายไป สามีก็เข้าไปตระโกนถามในบ้านว่าเห็นน้องต่อหรือไม่ และวันนั้นก็ไม่ได้สังเกตอะไรเลย โดยตนเองยังยืนยันเหมือนเดิมว่าเป็นคนทำน้องต่อเสียชีวิตและเอาศพไปโยนทิ้งน้ำ อีกทั้งตนเองไม่ได้สนิทเป็นการส่วนตัวและไม่ได้ยุ่งเกี่ยวทุกคนต่างก็ใช้ชีวิตไม่เกี่ยวข้องกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากตรวจสอบพบเส้นทางการเงินไปเชื่อมโยงกับชายก่อเหตุขโมยทารกจะทำยังไง น.ส.นิ่ม ยืนยันว่าตนเองไม่เคยมีการโอนเงินหรือเกี่ยวข้องกับทางการเงินกับผู้ต้องหา ส่วนบัญชีพุด สามีตนเองไม่ทราบ โดยยืนยันว่าคดีน้องต่ออยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแล้ว ตนเองให้การตำรวจและอัยการไปหมดแล้ว ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาขโมยทารกเด็กแน่นอน    

ทั้งนี้ น.ส.นิ่ม ยอมรับว่าตอนแรกที่ดูข่าวก็ไม่ได้คิดอะไร แต่พอไปดูรูปดีๆ ก็คล้ายกับคนที่อยู่ตรงข้ามบ้าน ก็รู้สึกตกใจและไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนั้น เพราะเหมือนคนปกติทั่วไปและเจอครั้งสุดท้ายก่อนเกิดเรื่องดังกล่าว