สกอ.สั่งปิดหลักสูตรพยาบาลวิทยาลัยนครราชสีมา
รองเลขาธิการ สกอ. ตรวจสอบวิทยาลัยนครราชสีมา สั่งปิดหลักสูตรคณะพยาบาลศาสตร์ พร้อมเยียวยานักศึกษากว่า 290 คน ให้เทียบโอนไปศึกษาต่อที่สถาบันอื่น ด้าน รมว.ศธ.ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเอาผิดกับวิทยาลัยฯ แล้ว
นายกำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) และคณะ เดินทางตรวจสอบวิทยาลัยนครราชสีมา ภายหลังนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์เข้าร้องเรียนต่อกองปราบปราม และแจ้งความไว้ที่ สภ.โพธิ์กลาง จ.นครราชสีมา ข้อหาฉ้อโกงหลอกลวง เนื่องจากหลักสูตรคณะพยาบาลศาสตร์ไม่ได้รับการรับรองจากสภาการพยาบาล
นายกำจร กล่าวภายหลังรับฟังข้อมูลจากทางวิทยาลัยฯ ว่า ทางวิทยาลัยฯ พร้อมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ในกรณีนักศึกษาที่อยู่ในระบบ จำนวน 232 คน คือ นักศึกษาจากปี 1-4 ยินดีจะโอนย้ายไปศึกษาต่อที่สถาบันอื่น รวมถึงนักศึกษารุ่นที่ 1 ที่จบการศึกษาออกไปแล้ว 63 คน จะต้องกลับเข้าไปเรียนในสถาบันอื่นให้ครบตามหลักสูตร สามารถเทียบโอนหน่วยกิตได้แค่ช่วงที่เรียนใน 2 ปีแรก ที่ทางวิทยาลัยฯ ได้รับการรับรองสถาบันจากสภาการพยาบาลเท่านั้น คือ ปี 2548-2549 ส่วนนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ที่เข้าเรียนในปีการศึกษา 2550 เป็นต้นไป ต้องเริ่มต้นเรียนใหม่ทั้งหมด สำหรับสถาบันหรือสถานศึกษาที่จะรับโอนนักศึกษาไปนั้น สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จะเป็นผู้ประสานงานให้
เรื่องนี้ทางกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยรัฐมนตรีว่าการทั้ง 2 กระทรวง มีความเป็นห่วงนักศึกษาเหล่านี้มาก และได้ให้นโยบายไว้อย่างชัดเจนว่า จะต้องให้นักศึกษาได้รับการเยียวยาอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ สกอ.จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีการศึกษา 2552 นอกจากนี้ ยังสั่งการให้วิทยาลัยฯ ตรวจสอบหลักสูตรและการรับรองจากสภาวิชาชีพในคณะเทคนิคการแพทย์ของวิทยาลัยฯ ที่เปิดสอนด้วย พร้อมกำชับอย่าให้มีปัญหาเหมือนคณะพยาบาลศาสตร์อีก
นายกำจร กล่าวอีกว่า กรณีของวิทยาลัยนครราชสีมา จะทำให้เป็นตัวอย่างของสถาบันการศึกษาอื่น ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบกรณีเช่นนี้อยู่อีก 2-3 แห่ง ซึ่งจะทำการตรวจสอบและดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตาม ฝากผู้ปกครองและนักศึกษา หากจะเข้าศึกษาในสถาบันใด โดยเฉพาะคณะพยาบาลศาสตร์ หรือคณะอื่นที่จะต้องมีสถาบันวิชาชีพเข้ามารับรอง ขอให้ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนสมัครเข้าเรียนว่าได้รับรองอย่างถูกต้องหรือไม่ ส่วนการเอาผิดทางวิทยาลัยฯ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้มอบหมายให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแล้ว คาดว่าจะลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเร็ว ๆ นี้ ส่วนคดีอาญาที่นักศึกษาไปแจ้งความไว้นั้น ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ.