รังสิมันต์ เผยก้าวไกลลุยยื่นญัตติให้เสนอชื่อนายกฯ ซ้ำได้ หวังสกัดพวกฉวยโอกาส
นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์เมื่อวันพุธ (16 ส.ค.) ว่าพรรคก้าวไกลจะเดินหน้ายื่นญัตติให้รัฐสภาลงมติทบทวนการลงมติเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ให้เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีซ้ำได้
การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้วินิจฉัยว่าการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีเป็นญัตตินั้นขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญหรือไม่
ย้อนกลับเมื่อวันที่ 13 ก.ค. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถูกเสนอชื่อให้รัฐสภารับรองเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่กลับได้รับเสียงสนับสนุนจากวุฒิสภาไม่เพียงพอ ทำให้เสียงสนับสนุนไม่ถึง 50% ของสมาชิกที่มีอยู่ของทั้ง 2 สภา ทั้งที่รวมรวมเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว
เหตุนี้ทำให้มีการเปิดประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตนายพิธาอีกครั้งเมื่อวันที่ 19 ส.ค. แต่ก่อนจะได้ลงมติ กลับมีผู้ขัดขวางโดยอ้างว่าข้อบังคับการประชุมร่วมของรัฐสภาข้อที่ 41 ระบุว่าห้ามเสนอญัตติซ้ำในสมัยประชุมเดียวกัน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร จึงตัดสินใจให้รัฐสภาลงมติว่าการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีเป็นญัตติหรือไม่ และผลการลงมติสนับสนุนให้การเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีเป็นญัตติ เท่ากับว่าเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีซ้ำไม่ได้
ต่อมามีผู้ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน และส่งเรื่องต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้วินิจฉัยเรื่องนี้ แต่ศาลรัฐธรรมนูญให้เหตุผลที่ไม่รับคำร้องว่าผู้ยื่นคำร้องไม่ใช่ผู้ได้รับความเสียหายโดยตรง
สกัดพวกฉวยโอกาส
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า การเสนอญัตติให้ทบทวนการลงมติเมื่อวันที่ 19 ก.ค. นั้น จะทำให้รัฐสภาได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง และเพื่อยืนยันว่าการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีเป็นกระบวนการตามรัฐธรรมนูญไม่ใช่ญัตติธรรมดา และสถานะของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีก็ยังเป็นไปได้ตลอด ไม่ใช่เสนอแล้วไม่ผ่านสถานะนั้นจะไม่มีอีกต่อไป การคิดแบบนี้เป็นการเล่นการเมือง ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของข้อกฎหมาย
สส. พรรคก้าวไกล รายนี้ อธิบายว่า การเสนอญัตติให้ทบทวนมติเดิมนั้น ไม่ได้เป็นการต้องการทำให้นายพิธามีโอกาสถูกเสนอชื่ออีกครั้ง แต่เป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายที่จะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีในอนาคต ไม่ใช่ว่าพรรคก้าวไกลไม่ผ่านและพรรคการเมืองอื่นไม่ผ่าน ตัวเองจะได้ประโยชน์จากตรงนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การเสนอญัตติให้ทบทวนมตินี้ จะได้รับเสียงสนับสนุนหรือไม่ นายรังสิมันต์เชื่อว่าต้องลอง และถามกลับว่าคนเหล่านั้นต้องการทำแบบนี้ต่อไปเพื่ออะไร และหวังว่าจะเลือกทำสิ่งที่ถูกต้องได้แล้ว
"คงต้องลองดู มองว่ารอบที่แล้วจุดประสงค์ คือต้องการทำลายพรรคก้าวไกล ต้องการที่จะเล่นงานนายพิธา แต่เราจะเผาบ้านเพื่อไล่หนูเหรอ ดังนั้นวันนี้คุณได้ทุกอย่างไปหมดแล้ว คำถามคือคุณจะเผาบ้านต่อไปเพื่ออะไร ดังนั้นการกลับมาสู่หลักการที่ถูกต้องหวังว่าจะทำให้กลับมาได้ ซึ่งตนตอบมาได้ว่าสุดท้ายที่ประชุมจะว่าอย่างไร"