ก้าวไกล ค้านปรับระเบียบเบี้ยผู้สูงอายุ ย้อนสู่ระบบสงเคราะห์ จ่อยื่น พ.ร.บ.บำนาญถ้วนหน้า
ก้าวไกล ค้านปรับระเบียบการรับเบี้ยผู้สูงอายุ ชี้เป็นการหมุนกงล้อ ย้อนกลับไปสู่ระบบสงเคราะห์ จ่อยื่น พ.ร.บ. บำนาญถ้วนหน้า เดินหน้าสู่รัฐสวัสดิการ
วันนี้ (17 ส.ค. 66) ที่รัฐสภา นายเซียร์ จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยสส.ของพรรคก้าวไกล แถลงคัดค้านระเบียบมหาดไทย ลดบำนาญประชาชน พร้อมสนับสนุนพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) บำนาญถ้วนหน้า
ประเด็นที่ 1 คือการประกาศระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2566 ที่ออกมาเมื่อวันที่ 11 ส.ค. และบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา เป็นของขวัญวันแม่ ที่มอบให้กับผู้สูงอายุทั้งประเทศนั้น พรรคก้าวไกลเห็นว่าประกาศดังกล่าวเป็นการหมุนกงล้อระบบสวัสดิการย้อนกลับ จากที่ไทยควรก้าวไปสู่การมีระบบสวัสดิการถ้วนหน้ากลับไปสู่ระบบสงเคราะห์ ที่ต้องพิสูจน์ความจนเพื่อได้รับการช่วยเหลือ เป็นการลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างไม่น่าให้อภัย และไม่น่าเกิดขึ้นในยุคโลกาภิวัตน์ที่ให้คุณค่ากับสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียม
ทั้งนี้ ปัญหาที่ทางเรากังวลว่าจะมีเพิ่มตามมาคือเรื่องกฎเกณฑ์ที่จะต้องออกตามมาจากประกาศฉบับนี้ ซึ่งถ้าหากมีการใช้ฐานข้อมูลจากบัตรคนจน ก็มีการประเมินกันว่าจะมีผู้สูงอายุที่หลุดออกจากระบบไม่ได้รับเบี้ยผู้สูงอายุประมาณอีก 6 ล้านคน นอกจากนี้ ฐานข้อมูลของบัตรคนจนเองก็มีความไม่เที่ยงตรงอยู่พอสมควร เพราะมีการสำรวจว่ามีคนจนประมาณ 46% ที่ไม่ได้บัตร แปลว่าข้อมูลตกหล่นจากฐานข้อมูลไปเยอะมาก ฉะนั้น ทางพรรคก้าวไกลเลยเห็นว่าเราจึงต้องมีการให้สวัสดิการแบบถ้วนหน้า เพื่อไม่ต้องมาเสียเวลาพิสูจน์ความจนเพื่อจะรับเงิน 600 บาทหรือแค่ประมาณ 20 บาทต่อวัน
พรรคก้าวไกลขอคัดค้านการออกระเบียบดังกล่าว ตามเหตุผลที่กล่าวมา และเราขอยืนยันในสิ่งที่เราได้หาเสียงไว้ คือการสร้างสวัสดิการถ้วนหน้าซึ่งได้มีการพิสูจน์มาแล้วหลายที่ในโลกว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ พรรคก้าวไกลเชื่อว่าสวัสดิการถ้วนหน้าไม่ได้มีราคาแพง ไม่เป็นภาระด้านงบประมาณ เมื่อเทียบกับผลประโยชน์ที่ประชาชนจะได้โดยตรง เพราะเราเชื่อว่าสวัสดิการถ้วนหน้าคือสิ่งที่ประชาชนทุกคนควรได้รับ
ประเด็นที่ 2 คือการเตรียมยื่นร่าง พ.ร.บ.บำนาญถ้วนหน้า เพื่อเป็นก้าวแรกที่จะทำให้ระบบสวัสดิการของเราก้าวไปข้างหน้า โดยมีสาระสำคัญดังนี้
- มาตรา 5 ของพ.ร.บ.ของเรา เรายืนยันว่าบุคคลทุกคนที่มีอายุหกสิบปีขึ้นไปต้องได้รับบำนาญแห่งชาติโดยไม่ตัดสิทธิประโยชน์ของผู้สูงอายุที่ได้รับบำนาญตามกฎหมายอื่นหรือตามมติคณะรัฐมนตร
- จะต้องมีการกำหนดอัตราบำนาญแห่งชาติใหม่ทุกสามปี
- ทุกคนต้องได้รับบำนาญต่อเดือนไม่ต่ำกว่า เส้นความยากจนของสำนักงานสภาพัฒน์ ตามที่เราเคยหาเสียงไว้คือประมาณ 3,000 บาท และ ถ้าหากมีการปรับเส้นความยากจน ตัวเงินบำนาญตัวนี้ก็ต้องปรับขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
พรรคก้าวไกลเห็นว่าการยื่น พ.ร.บ.ฉบับนี้ จะเป็นก้าวแรกสู่สวัสดิการถ้วนหน้า และประเทศไทยจะเดินหน้าสู่รัฐสวัสดิการด้วยการมี Universal basic income ให้ทุกคนอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่ต้องพิสูจน์ความจนกันอีกต่อไป