สลด แม่รมควันในห้องน้ำดับพร้อมลูกน้อย 3 ศพ น้องสาวเล่าทั้งน้ำตา เผยปมชีวิตพี่

สลด แม่รมควันในห้องน้ำดับพร้อมลูกน้อย 3 ศพ น้องสาวเล่าทั้งน้ำตา เผยปมชีวิตพี่

สลด แม่รมควันในห้องน้ำดับพร้อมลูกน้อย 3 ศพ น้องสาวเล่าทั้งน้ำตา เผยปมชีวิตพี่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม่รมควันดับในห้องน้ำพร้อมลูกชายวัย 5 ขวบ และ 3 ขวบ รวม 3 ศพ น้องสาวเผยทั้งน้ำตา พี่สาวโทรกลางดึกให้มาหาที่บ้านวันนี้ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (17 ส.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. ร.ต.ท.กฤษดา มูลวงศ์ ร้อยเวร สภ.บ้านฉาง จ.ระยอง ได้รับแจ้งว่าพบศพผู้เสียชีวิต 3 ศพ ภายในห้องน้ำบ้านหลังหนึ่ง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.กุลชาติ กุลชัย ผกก.สภ.บ้านฉาง ทราบ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.บ้านฉาง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ เดินทางไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น จึงเข้าไปตรวจสอบ ที่ห้องน้ำภายในบ้าน พบกับภาพสุดสะเทือนใจ แม่กับลูกชาย 2 คน นอนเสียชีวิตอยู่กับพื้นห้องน้ำที่ปูด้วยผ้านวม สภาพศพผู้หญิงใส่เสื้อกล้ามสีเทากางเกงขาสั้นสีดำ นอนกอดก่ายกับเด็กผู้ชาย 2 คน

ข้างศพพบเตาอั้งโล่ ตี้งอยู่ภายในเตาพบเศษถ่านที่มอดไหม้จนเหลือแต่ขี้เถ้า ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ เบื้องต้น คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง ก่อนจะนำศพส่ง รพ.บ้านฉาง ชันสูตรต่อไป

จากการสอบสวน น้องสาวผู้เสียชีวิต ที่ให้การทั้งน้ำตาว่า เพิ่งคุยกับพี่สาวเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 17 ส.ค. ให้มาหาที่บ้านวันนี้ โดยพี่สาวที่เสียชีวิตชื่อ น.ส.สาฐิกา อายุ 27 ปี บ้านเดิมอยู่ จ.ตราด ปัจจุบันอาศัยอยู่กับบุตรชาย 2 คน บุตรชายคนโตอายุ 5 ขวบ บุตรชายคนเล็ก อายุ 3 ขวบ ส่วนสามีทำงานที่ จ.ตราด

ที่ผ่านมาพี่สาวมักจะบ่นว่าเหนื่อย และเป็นคนที่ชอบเครียด จนป่วยเป็นซึมเศร้า ก่อนแต่งงานเคยคิดฆ่าตัวตายมาแล้วครั้งหนึ่งแต่รอดมาได้ โดยตนเองพยายามชวนให้ไปอยู่ด้วยกันที่ ต.บ่อวิน จ.ชลบุรี แต่พี่สาวไม่ยอมไป เสียใจมากหลานๆ กำลังอยู่ในวัยน่ารัก แต่ต้องมาจากไปทั้งที่เกิดมาเพียงไม่กี่ปี

ส่วนสาเหตุคาดว่าเครียดหลายเรื่อง ทั้งเรื่องเงิน และปัญหาเกี่ยวกับป่วยซึมเศร้า ขอให้พี่สาวและหลานทั้งสองคนไปสู่สุคติ

ด้าน ร.ต.ท.กฤษดา มูลวงศ์ ร้อยเวร สภ.บ้านฉาง จ.ระยอง กล่าวว่า ตรวจสอบสาเหตุน่าจะมาจากปัญหาส่วนตัวและเรื่องเงิน ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตคาดว่าน่าจะมาจากการรมควัน แต่ต้องรอผลพิสูจน์ ก่อนจึงจะสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook