พ่อคิดหนัก ลูกสาวเล่าเจอคน "หน้าเหมือนพ่อเป๊ะ" ลองนัดไปตรวจ DNA อึ้งผลชี้เป็นฝาแฝด

พ่อคิดหนัก ลูกสาวเล่าเจอคน "หน้าเหมือนพ่อเป๊ะ" ลองนัดไปตรวจ DNA อึ้งผลชี้เป็นฝาแฝด

พ่อคิดหนัก ลูกสาวเล่าเจอคน "หน้าเหมือนพ่อเป๊ะ" ลองนัดไปตรวจ DNA อึ้งผลชี้เป็นฝาแฝด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ลูกสาวกลับมาเล่า เจอคนขายปลา "หน้าเหมือนพ่อเป๊ะ" พ่อไปเจอตัวจริงยิ่งอึ้ง เหมือนจนนึกว่าส่องกระจก พากันไปตรวจดีเอ็นเอผลไม่พลิก ที่แท้เป็นฝาแฝดที่พลัดพราก

นายโจว (นามสมมุติ) อาศัยอยู่ในเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ตอนยังเด็กเคยได้ยินเพื่อนร่วมงานของพ่อแม่ว่าพูดว่าเขาถูกพามาจากเซี่ยงไฮ้ แต่เนื่องจากอายุยังน้อยเขาจึงไม่ใส่ใจเรื่องนี้มากนัก เวลาผ่านไปก็ยิ่งหลงลืมเรื่องนี้สนิท เขากลายเป็นชายวัยกลางคน แต่งงานและมีลูกที่น่ารัก

กระทั่งวันหนึ่งได้ข่าวว่า นายหวู่ (นามสมมุติ) เพื่อนบ้านอายุกว่า 70 ปี ป่วยหนักจึงไปเยี่ยมด้วยความเป็นห่วง สิ่งนี้ทำให้ชายชราตื่นตันใจจึงตัดสินใจเปิดเผยความลับที่ปิดซ่อนมานานถึง 47 ปี ว่านายโจวไม่ใช่ลูกชายแท้ๆ ของตระกูลโจว แต่ถูกเพื่อนร่วมงานของนายหวู่เองรับมาจากเซี่ยงไฮ้ เพื่อเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรมตั้งแต่อายุเพียง 3 เดือน แต่หลังจากเลี้ยงได้ 8 เดือน เขาก็ตัดสินใจจะยกเด็กให้คนอื่น

ในตอนนั้นนายหวู่เห็นว่าเด็กน่าสงสารมาก และจำได้ว่าตระกูลโจวต้องการลูกชายมาโดยตลอด ดังนั้น จึงนำเรื่องนี้ไปแจ้งจนทำให้เด็กถูกรับเลี้ยงโดยตระกูลโจวในฐานะลูกแท้ๆ ทันทีที่นายโจวทราบข้อเท็จจริงนี้ก็ร้องไห้ทันที โผกอดนายหวู่เพื่อขอบคุณที่ช่วยให้เขามีครอบครัวที่มีความสุข

แต่น่าเสียดายที่เวลาผ่านไปหลายปีแล้ว นายโจวก็ยังไม่สามารถหาครอบครัวทางสายเลือดของเขาพบ เพราะเขาไม่มีข้อมูลใดๆ เลย กระทั่งวันหนึ่งในปี พ.ศ.2545 ที่เขาไปเดินตลาด จู่ๆ คนขายปลาก็เรียกเขาว่า "พี่ชายหลี่" เขาหันกลับไปตามเสียงเรียกนั้น ก่อนที่จะปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่ชายแซ่หลี และคาดว่าเขาคงจำผิดคน แต่แทนที่เรืองจะจบเพียงเท่านั้น ชายอีกคนกลับขอเบอร์ติดต่อ โดยอ้างว่าอยากแนะนำ "พี่ชายหลี่" ให้รู้จักกับเขา เพราะเราสองคนเหมือนกันมากๆ

ต่อมาในปี พ.ศ.2547 ลูกสาวของนายโจวกลับมาจากโรงเรียน และจู่ๆ ก็บอกกับพ่อของเธอว่าเธอเพิ่งพบกับคนขายปลาที่ดูเหมือนพ่อของเธอมาก จนทำให้เธอเข้าใจผิดว่าเป็นพ่อของตัวเอง แต่นายโจวยังคงคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่จะสร้างเกิดความสับสนเมื่อเจอคนหน้าคล้ายกัน ดังนั้นเขาจึงไม่ถามอะไรเพิ่มเติมอีก แต่ไม่กี่วันต่อมา เขากลับได้รับโทรศัพท์จากชายแซ่หลี่ บอกว่าตัวเองก็ถูกนำตัวจากเซี่ยงไฮ้มายังเจิ้งโจว และถูกครอบครัวหนึ่งรับเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรมเช่นกัน

วันต่อมาทั้งสองคนนัดพบกัน ทันทีที่พวกเขาเห็นหน้ากันก็ต่างตกตะลึงทันที เพราะพวกเขาเหมือนกันราวกับว่าแกะสลักมาจากแม่พิมพ์เดียวกัน อีกทั้งยงมีอายุเท่ากัน ส่วนสูงและรูปร่างเท่ากัน เสียงเหมือนกัน สายตาสั้นเท่ากัน แม้แต่มีหูดข้างซ้ายที่หูข้างเดียวกัน ยิ่งใบหน้าของพวกเขานั้นดูเหมือนส่องกระจกเลยทีเดียว

นายหลี่ เล่าว่าตั้งแต่อายุยังน้อยเขารู้ว่าตัวเองถูกรับเลี้ยง แต่ไม่รู้ว่ารากเหง้าของเขาอยู่ที่ไหนในเซี่ยงไฮ้ โตมาก็ทำงานในโรงงานไม้ ก่อยมาขายปลากับเพื่อน และเพื่อนคนนี้เคยเล่าให้ฟังว่าเจอคนที่หน้าเหมือนเขาเป๊ะแต่ในตอนนั้นเขาไม่ได้สนใจอะไรมาก จนกระทั่งวันที่เขาขายปลาที่หน้าประตูโรงเรียน และได้พบกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เข้าใจผิดว่าเขาเป็นพ่อของเธอ เขาจึงเริ่มสงสัยและนำเรื่องนี้มาคิดอย่างจริงจังอีกครั้ง

ต่อมาตำรวจพบข้อมูลการเข้าเมืองของนายหลี่ ซึ่งชี้ว่าเขาย้ายจากเซี่ยงไฮ้มายังเจิ้งโจวในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2500 เมื่อมองย้อนกลับไปที่ภาพถ่ายในวัยเด็ก ก็ยังพบว่าทั้งคู่มีความคล้ายคลึงกันอย่างไม่น่าเชื่อ ชายทั้งสองจึงตัดสินใจไปตรวจดีเอ็นเอ ที่ศูนย์พิสูจน์ตัวตนของฝ่ายตุลาการแห่งมหาวิทยาลัยเจิ้งโจว ผู้อำนวยการศูนย์ทำการสุ่มตัวอย่างและทดสอบเป็นการส่วนตัว

เมื่อผลการวิจัยออกมาพบว่าทั้งคู่มีรหัสพันธุกรรมเดียวกัน ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าทั้งสองคนเป็นฝาแฝดกัน พวกเขาก็ทั้งประหลาดใจและมีความสุขมาก แม้ว่าตอนนี้จะไม่สามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดได้ แต่อย่างน้อยก็พบพี่น้องแท้ๆ แล้ว

 

 

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ ของ พ่อคิดหนัก ลูกสาวเล่าเจอคน "หน้าเหมือนพ่อเป๊ะ" ลองนัดไปตรวจ DNA อึ้งผลชี้เป็นฝาแฝด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook