“จตุพร” ไม่เชื่อ “ทักษิณ” กลับไทย คาดเป็นเกมหวังผล สุดท้ายตำแหน่งเป็นของ “บิ้กป้อม”
![“จตุพร” ไม่เชื่อ “ทักษิณ” กลับไทย คาดเป็นเกมหวังผล สุดท้ายตำแหน่งเป็นของ “บิ้กป้อม”](http://s.isanook.com/ns/0/ud/1797/8985886/jatupon.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/jpg)
“จตุพร” ไม่เชื่อ “ทักษิณ” กลับไทย 22 ส.ค. บอกยังไม่เห็นตัวเป็นๆ อย่าเพิ่งเชื่อว่าจะกลับ วิเคราะห์อาจเป็นเกมหวังผลโหวตนายกฯ เผย “เศรษฐา” ไม่ได้เป็นนายกฯ อาจเป็น “แพทองธาร” ก่อนตำแหน่งนายกฯ กลายเป็นของ “บิ้กป้อม”
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ระบุว่า กล่าวถึงการกลับไทยของนายทักษิณ ชินวัตร ในวัน 22 สิงหาคม ว่า หากยังไม่เห็นตัวจริงอย่างเพิ่งด่วนสรุปว่าจะกลับไทย 100 เปอร์เซน เพราะห้วงนี้ก่อนโหวตยังอยู่ระหว่างการแบ่งกระทรวงของพรรคร่วมตั้งรัฐบาล ก่อนที่จะมีการแถลงของ 11 พรรคในวันจันทร์หน้า 21 สิงหาคม ซึ่งพร้อมกับการแถลงของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ขณะเดียวกันในวันที่ 22 สิงหาคมยังมีการตัดสินคดีทุจริตโรงพัก ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณอีก
โดยมองว่าการตัดสินใจกลับของนายทักษิณนั้น สามารถเลือกวันอื่นกลับได้ แต่ความเขี้ยวลากดินที่คิดว่าการประกาศกลับบ้านไม่มีอะไรเสียเพราะประกาศมาแล้วกว่า 20 ครั้ง คงเห็นแล้วว่าไม่ส่งผลอะไร หลายคนอาจเชื่อว่านางสาวแพทองธารเป็นคนประกาศเอง แต่ยังอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก หรือติดลบ เพราะเป็นแคนดิเดตนายกฯด้วย ประกาศปิดสวิตส์ สว. -ปิดสวิตส์ 3ป. -ไม่จับมือพรรค2ลุง จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ขณะนี้
“ถ้าคุณเศรษฐา ทวีสิน ยังไม่ถูกเปลี่ยนตัว ไปโหวตในวันที่ 22 สิงหาคมจะไม่ผ่านเสียง สว. จะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี หลายคนตั้งคำถามว่าจะไปเจรจาแบ่งกระทรวงกันทำไม มองว่าเป็นการตกลงกระทรวงให้เรียบร้อยเวลาเปลี่ยนเปลี่ยนเฉพาะหัวเท่านั้น ดังนั้นขณะนี้สิ่งที่ได้ประเมินค้างเอาไว้ จะมีการเปลี่ยนตัวกันหรือไม่ เช่น การเปลี่ยนจากเศรษฐามาเป็นคนอุ๊งอิ๊งค์หรือไม่ เพราะเกมสถานการณ์ขณะนี้ เพื่อความสมบูรณ์ที่สุดของการทรยศหลักหลังทั้งปวง และเป็นการปิดฉากตระกูลชินวัตรและพรรคเพื่อไทย ต้องให้คุณอุ๊งอิ๊งค์เข้าไปสู่การโหวตนายกฯ แม้ถูกวิจารณ์แต่ก็ผ่าน” นายจตุพรกล่าว
นายจตุพรยังหยิบยกเรื่องประเด็นความน่าเชื่อถือหรือข้อครหาของ นางสาวแพรทองธารไม่ต่างจากกรณีนายเศรษฐาเรื่องการทำธุรกรรม อาจถูกชำแหละวันโหวตและก็ผ่านโหวตได้ แต่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะก่อนจะถึงกระบวนการโปรดเกล้าฯ นำ ครม.ถวายสัตย์ และแถลงนโยบายรัฐสภา ยังมีเวลาร่วม 1 เดือนที่ต้องติดตาม อาจได้เป็นนายกฯคนที่ 30 นาน 1 เดือน จากนั้น อาจมีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯคนที่ 31 เว้นถูกล้มกระดานโดยการรัฐประหารเสียก่อน
พร้อมกันนี้ยังอ้างข้อมูลที่มีคนการเมืองไปเจรจากับนสยทักษินที่ฮ่องกงว่า นายทักษิณยืนยันการกลับบ้าน และการตั้งรัฐบาลไม่มีพรรค รทสช.และ พปชร. จนมีกระแสในข่าวประเทศ แต่ก็ไม่ได้กลับไทยตามที่ประกาศไว้ 10 สิงหาคม จนต้องตระบัดสัตย์ด้วยการจับมือกับ 2 พรรคนั้น
“เห็นว่าการประกาศรอบนี้เพื่อหวังในการโหวตนายกรัฐมนตรี อาจมีการเปลี่ยนเทคนิคเพราะคนระดับนายกฯทักษิณ ปฏิเสธกลับบ้านเข้ากระบวนการยุติธรรมตลอด 15 ปี อยู่ดีๆตัดสินใจกลับมา คนไทยต้องอดทนและต้องดูวันที่ 22 ตอน 9 โมงว่าเห็นตัวเป็นๆ ของนายกทักษิณที่ดอนเมืองหรือไม่ ต้องไม่ลืมการประกาศกลับที่ผ่านมาเกิน 20 ครั้งมาแล้ว เพราะฉะนั้นท่านไม่มีอะไรเสียเรื่องตระบัดสัตย์เรื่องนี้ แต่ลูกและพรรคเพื่อไทยต้นทุนไม่มีอะไรเหลือแล้ว” นายจตุพรกล่าว
นายจตุพร บอกยึดสาระของนายทักษิณที่ประกาศกลับบ้านไม่ได้ เพราะประกาศมา 20 ครั้ง ส่วนตัวหวังให้ได้กลับมาเพราะจะได้ยุติในประเด็นของนายทักษิณ จึงไม่เชื่อว่าจะกลับมา 22 สิงหาคมนี้ และยังมีคดีความผิด 3 คดี รวมติดคุก 10 ปี ยังไม่เห็นคำแนบท้ายคำสั่งศาลว่ามีการนับโทษต่อหรือไม่ เพราะต้องรับโทษติดคุกไม่น้อยกว่า 4 ปี และหากสั่งนับรวมติด 3 ปีเศษ ส่วนการขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะรายในช่วง 5 ปีของการติดคุกของตัวเองนั้นเจออดีตรองนายกและอดีตรัฐมนตรี อดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ หลายคนขอพระราชทานอภัยโทษเรื่องการทุจริตแต่ไม่เคยได้รับการอภัยโทษเลยแม้แต่กรณีเดียว
โดยนายจตุพรเชื่อว่านายทักษิณกลับไทยไม่ต้องการที่จะติดคุก ส่วนการแบ่งกระทรวงยังไม่เรียบร้อยยังมีเวลาเจรจา แต่เชื่อว่ายังไงนายเศรษฐาจะไม่ได้เป็นนายกฯ และนายจตุพรยังวิเคราะห์ว่าหากนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ต้องลาออกเพื่อรับผิดชอบการผิดคำมั่นสัญญาที่เคยประกาศไว้ในการหาเสียงไม่จับมือกับพรรค2 ลุงนั้นอาจจะได้รับเป็นผลกระทบเป็นโดมิโน่ ถึงคนในพรรค ทั้งนายเศรษฐา ทวีสิน รวมถึงนางสาวแพรทองธาร และคนอื่นๆที่เป็นทีมปราศรัยว่าจะต้องรับผิดชอบตามนายแพทย์ชลน่านอย่างไร ซึ่งหากจะต้องรับผิดชอบต้องไม่น้อยกว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะที่เคยปฏิบัติไว้