"วิโจน์" เห็นใจ "เศรษฐา" สถานการณ์โคม่า ไม่รู้ 22 ส.ค. รอดหรือตาย หมอดูยังไม่กล้าแทง!

"วิโจน์" เห็นใจ "เศรษฐา" สถานการณ์โคม่า ไม่รู้ 22 ส.ค. รอดหรือตาย หมอดูยังไม่กล้าแทง!

"วิโจน์" เห็นใจ "เศรษฐา" สถานการณ์โคม่า ไม่รู้ 22 ส.ค. รอดหรือตาย หมอดูยังไม่กล้าแทง!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"วิโจน์" ชี้เพื่อไทยจับมือลุงเหมือนหนังมีสปอย ปชช.อ่านออกยันฉากจบแล้ว แต่โหวตนายกฯ 22 ส.ค.ยังต้องติดตามรายชั่วโมง สถานการณ์โคม่า เจรจายังสับสนอลหม่าน เห็นใจ "เศรษฐา" โดนอำนาจเก่าหาเรื่องโจมตีหนัก ตอบยาก "ทักษิณ" ได้กลับไทย 

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงกรณีวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี 22 ส.ค.66 ที่จะถึงนี้ คิดว่าจะได้นายกรัฐมนตรีหรือไม่ ตนคิดว่า ต้องเรียกว่าเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันชั่วโมงต่อชั่วโมง เนื่องจากการเจรจายังอยู่ในช่วงสับสนอลหม่านกันอยู่

เมื่อถามว่า ข้อจำกัดถ้าวิเคราะห์สถานการณ์ ในวันที่ 22 สิงหาคม จะรอดหรือไม่ นายวิโรจน์ ระบุว่า รอดไม่รอดตนไม่รู้เลย เพราะสถานการณ์ตอนนี้คือโคม่า จะรอดก็อาจจะรอดจะตายก็อาจจะตายไม่สามารถตอบได้ ตอนนี้ไม่มีหมอดูคนไหนที่กล้าแทงว่าแม่น ถ้าเป็นคนไข้ก็คงจะเรียกว่าอาการตีทูต ไม่ได้หมายความว่าตาย แต่หมายความว่าอาจจะรอดก็ได้ หรืออาจจะตายก็ได้คาดการณ์ได้ยาก

ในส่วนกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย โดนโจมตีเรื่องคุณสมบัติและยังโดนโจมตีอยู่ต่อเนื่องนั้น มองว่า นายเศรษฐา เป็นปัญหาที่จะทำให้โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีไม่ได้หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า จริงๆ ตนเห็นใจนายเศรษฐาเป็นอย่างมาก เพราะตนก็รู้ว่ากลุ่มอนุรักษ์นิยมหาเรื่องที่จะทำลายแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว เพื่อให้นายกรัฐมนตรีเป็นของคนที่เขาต้องการ

ดังนั้น ถ้านายเศรษฐา เคลียร์ประเด็นนี้ได้ ก็จะเจอประเด็น 2 และประเด็น 3 ต่อให้ไม่ใช่นายเศรษฐา ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามก็จะถูกกลุ่มอนุรักษ์นิยม หรือกลุ่มอำนาจเก่าที่มาจากเผด็จการรัฐประหาร ทำร้ายอยู่เรื่อยไป ด้วยข้ออ้างต่างๆ ตนจึงคิดว่าควรที่จะให้กำลังใจนายเศรษฐา

เมื่อถามถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร จะกลับมาไทย เป็นวันเดียวกันกับวันที่โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เหมือนเป็นการส่งสัญญาณ ว่าสุดท้ายแล้วพรรคเพื่อไทยต้องสู้ให้ได้หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า บางคนอาจจะคิดว่าเกี่ยวแต่ตนมองว่าไม่เกี่ยวกัน ตนก็ยังยืนยันว่าการกลับมาของนายทักษิณ เป็นสิ่งที่ชอบธรรม ควรที่จะกลับมาได้ ไม่มีปัญหาอะไร

เมื่อถามว่าในใจคิดว่านายทักษิณ จะกลับมาหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ไม่สามารถตอบได้ ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ค่อนข้างที่จะชุลมุน สถานการณ์ดินฟ้าอากาศ ในวันนี้อาจจะกลับได้อีก 2 วันอาจจะกลับไม่ได้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างตอบยาก อาจจะต้องดูกันวันต่อวัน

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยจะดันนายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย ตนคงไม่สามารถตอบแทนได้ รวมไปถึงความชัดเจนแถลงจับมือกันกับใครบ้าง ตนมองว่าทุกวันนี้ประชาชนต้องการความชัดเจน ที่มาจากพรรคที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

“แต่ตอนนี้ความชัดเจน กลายเป็นมาจากพรรคร่วมรัฐบาล ก็มองว่ายังไม่มีความชัดเจนแต่เป็นการตกลงกันไว้ว่า อย่าเพิ่งพูด แต่ก็คุมไว้ไม่ได้สุดท้ายก็ต้องออกมาพูด แต่ถ้าถามว่าทำไมถึงต้องออกมาพูด ก็คือเขาต้องการที่จะมัดไว้เลยไง ให้ดิ้นไม่หลุด สลัดไม่ออก”

“ไม่เรียกว่าเหนียมแล้ว ไม่มีเหนียมแล้วยุคนี้ คิดว่า เขาก็พยายามที่จะเดินเกมเล่นเกม แต่ผมว่าต้องเลิก เพราะยุคนี้สมัยนี้ประชาชนเขามองออกกันหมดแล้ว ที่บอกว่าจะไม่มีลุงนะ แต่เขาก็คำนวณกัน คณิตศาสตร์ไม่เคยหลอกใคร ถ้าไม่เอาลุงไม่เอาพรรคประชาธิปัตย์ มันก็ 230 กว่าเสียง ก็ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยไม่ได้ คุณอนุทินก็พูดไว้อยู่แล้วว่า รัฐบาลเสียงข้างน้อยเขาไม่ร่วม คราวนี้บอกว่าจะรวมพรรคประชาธิปัตย์แต่พรรคประชาธิปัตย์บอกว่ายังไม่มีการติดต่อเข้ามา หรือถึงติดต่อเข้ามาก็รวมเสียงได้ 260 เสียงนิดๆ ซึ่งรู้ดีอยู่แล้วว่า 260 กว่าเสียง ไม่มีเสถียรภาพอยู่แล้ว สุดท้ายก็จะต้องรวมพรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐมา เพียงแต่จะใช้เทคนิคกลไกยังไงในการดึงเข้ามา”

เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐสามารถเปิดได้เลยใช่หรือไม่ถ้าเกิดจับมือกับพรรคเพื่อไทย นายวิโรจน์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมากกว่าที่จะเป็นคนเปิด เพราะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยเองก็สามารถเปิดได้เลยใช่หรือไม่ว่าจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ นายวิโรจน์ ระบุว่า แล้วแต่เขาจะคิด เป็นเรื่องของเขา แต่ตนอยากบอกว่าประชาชนอ่านออกหมดแล้ว หรือเรียกว่าหนังเรื่องนี้มีสปอย จนรู้ฉากจบกันหมดแล้ว ว่าพระเอกจะไปจับมือกับใคร พระรองอยู่ที่ไหน นางเอกจะเป็นอย่างไร นางรองจะไปอยู่กับใคร ทุกคนรู้หมดแล้ว เพียงแต่ว่าไม่ยอมเฉลย ทำไมก็ไม่รู้

 

ทั้งนี้ นายวิโรจน์ ยังให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นของ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร อันดับ 1 (หมออ๋อง) ถูกกระแสโจมตีเรื่องเลี้ยงหมูกะทะแม่บ้านสภา ว่า งบรับรองปกตินักข่าวรู้กันหรือไม่ ว่ารับรองใครที่ไหน เลี้ยงญาติใคร เลี้ยงนักการเมืองในมุ้งของตัวเองในกลุ่มคนไหน กินกันที่ไหน นักข่าวไม่เคยรู้ถูกหรือไม่ และหลายครั้งมีการเลี้ยงข้าราชการระดับสูงด้วยเช่นกัน ในเมื่อมีการเลี้ยงข้าราชการระดับสูง แต่เป้าหมายมีไว้ใช้ประชุมเพื่อปรึกษาหารือปรับปรุงงานถูกหรือไม่

“ซึ่งในกรณีนี้ผมคิดว่าคงมีการประชุมกันจริงเพื่อหารือประเด็นมุมมองของแม่บ้านมาปรับปรุงงานในสภา คำถามคือ เพียงเพราะว่าแม่บ้านไม่ใช่ข้าราชการระดับสูง เลยไม่มีสิทธิ์ใช้งบรับรองตรงนี้เหรอ หรือจะต้องจัดเลี้ยงประชุมในสภาและเรียกคนมาจัดบุฟเฟ่ต์หัวละ 500-600 บาท เพราะกินหมูกระทะมันถูกเกินไปเหรอ และที่นักข่าวรู้ นี่คือความโปร่งใส ไปประชุมเรื่องอะไร ประชุมกันที่ไหน

ใช้งบประมาณเท่าไหร่ แล้วผิดเหรอครับ ตนเลยบอกไงว่า ลองรื้อดูไหม ว่างบรับรองของประธานวุฒิที่สภา และรองวุฒิประธานสภาเก่าๆ ไปเลี้ยงข้าราชการคนไหนหรือเลี้ยงญาติตัวเองหรือไม่ รวมทั้งเลี้ยงนักการเมืองในเครือข่ายตัวเองหรือไม่ หรือเลี้ยงข้าราชการระดับสูงคนไหนหรือเปล่า ซึ่งตนกลับมองว่าไม่ได้งานอะไรเลย แต่ประเด็นดังกล่าวต้นยืนยันว่าเขามีการประชุมกัน และมีการระดมความคิดเห็นเพื่อนำมาปรับปรุงงานในสภา”

ทั้งนี้ นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า คนที่เป็นแม่บ้านเขาไม่มีศักดิ์ศรีพอที่จะเป็นแขกรองประธานสภา และแขกจะต้องเป็นนักการเมืองใหญ่โต เป็นผู้มีอิทธิพล เป็นบ้านผู้ใหญ่และเป็นข้าราชการระดับสูงเท่านั้นเหรอ และการจัดประชุมที่รับฟังความคิดเห็นจากแม่บ้านคนที่ปฏิบัติงาน รากหญ้าที่สุดเรารับฟังเสียงเขาไม่ได้เลยเหรอ หรือต้องจัดเลี้ยงในสภา “หัวละหนึ่ง อู้หู้! อื้ยยยย! ” และมีการส่งเงินทอนกัน ชอบแบบนั้นหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า อะไรที่ผิดระเบียบ ข้าราชการฯ เขาไม่แนะนำอยู่แล้ว และตนเข้าใจว่าในฐานะที่ตนเคยทำงานในกรรมาธิการมาก่อน งบอะไรเบิกได้งบอะไรเบิกไม่ได้ข้าราชการเขาตรวจสอบระเบียบ

เมื่อถามต่อว่า กรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เตรียมไปร้อง นายวิโรจน์ กล่าวว่า “แปลกเหรอ!” หากนายศรีสุวรรณประกาศเลิกร้องนี่สิแปลก แล้วอยากให้ นายศรีสุวรรณ ร้องและเปิดเผยข้อมูลการใช้งบรับรองของประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภา รวมถึงประธานสภาคนก่อนด้วย รวมทั้งในยุค สนช. และงบรับรองของนายกรัฐมนตรีรวมถึงงบรับรองของรัฐมนตรีต่างๆ ก็จะดีมากและรบกวนเก็บให้ครบ จะได้ร้องทีเดียวให้ครบ ซึ่งจะได้ไม่ร้องเฉพาะบางคน

อัลบั้มภาพ 51 ภาพ

อัลบั้มภาพ 51 ภาพ ของ "วิโจน์" เห็นใจ "เศรษฐา" สถานการณ์โคม่า ไม่รู้ 22 ส.ค. รอดหรือตาย หมอดูยังไม่กล้าแทง!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook