“สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในความทรงจำ” 25 ปีนี้คนไทยกราบไหว้อะไรไปแล้วบ้าง?

“สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในความทรงจำ” 25 ปีนี้คนไทยกราบไหว้อะไรไปแล้วบ้าง?

“สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในความทรงจำ” 25 ปีนี้คนไทยกราบไหว้อะไรไปแล้วบ้าง?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปฏิเสธไม่ได้ว่าสังคมไทยกับ “สิ่งศักดิ์สิทธิ์และเครื่องรางของขลัง” เป็นของคู่กันมาเนิ่นนานหลายพันปี เรามีสิ่งของให้กราบไหว้ และมีคุณสมบัติที่สามารถช่วยเหลือเรื่องต่าง ๆ ให้เลือกบูชากันอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรัก การงาน สุขภาพ หรือโชคชะตา ทว่า ในขณะที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์และเครื่องรางของขลังโบราณก็ยังได้รับการกราบไหว้บูชา สังคมไทยก็ได้รู้จัก “วัตถุมงคลใหม่ ๆ” ที่เกิดขึ้นตามมาอีกมากมาย 

แล้วในช่วงเวลา 25 ปีที่ผ่านมา สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเครื่องรางของขลังใดที่กลายเป็น Talk of the town กันบ้าง Sanook รวบรวม 10 สิ่งศักดิ์สิทธิ์และเครื่องรางที่ชาวไทยให้การเคารพกราบไหว้ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์และบทเรียนที่ตามมา 

จตุคามรามเทพ

AFP

“จตุคามรามเทพ” คือเครื่องรางของขลังที่เชื่อกันว่าช่วยให้ผู้ครอบครองพ้นภยันอันตราย มีโชคลาภ และมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ซึ่งมีความแตกต่างจากเครื่องรางของขลังชนิดอื่น เพราะไม่ต้องใช้เวลายาวนานในการสร้างชื่อเสียง ไม่ต้องมีบารมีของพระเกจิ และไม่มีจำนวนจำกัดในการเช่าบูชา กระแสความนิยมของจตุคามรามเทพมีมากขึ้น หลังจากข้าราชการตำรวจในจังหวัดนครศรีธรรมราชและหลายจังหวัดได้บูชาองค์จตุคามรามเทพอย่างแพร่หลาย โดยตลาดการค้าจตุคามในปี พ.ศ.​2550 มีมูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.5% ของ GDP ทำให้อุตสาหกรรมจตุคามรามเทพกลายเป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตและได้รับความนิยมจากผู้คนมากมาย 

AFP

ความนิยมจตุคามรามเทพพุ่งแรงสูงสุดอย่างไม่เคยมีสัตถุมงคลใดสามารถทำได้มาก่อน โดยเฉพาะเหตุการณ์วันเปิดจองจตคามรามเทพรุ่น “เงินไหลมา 2” ที่ประชาชนแห่แหนไปที่วิทยาลัยเทคนิคนครศรีธรรมราช เบียดเสียดกันจนเกิดเป็นจลาจล และส่งผลให้มีบผู้เสียชีวิตจากการโดนเหยียบตาย 1 ราย อย่างไรก็ตาม ความนิยมจตุคามรามเทพค่อย ๆ ลดลงจนคล้ายกับจะหายไปจากความทรงจำของคนในสังคมไทยไปแล้ว

ตุ๊กตาลูกเทพ

AFP

ตุ๊กตาลูกเทพเป็นเครื่องรางของขลังชนิดใหม่ เริ่มเป็นที่รู้จักในสังคมไทยอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 และโด่งดังเป็นพลุแตก หลังจากหมอแม็คขั้นเทพ หมอดูชื่อดังในขณะนั้น อ้างว่าได้พบกับตุ๊กตาตัวหนึ่งและได้ยินเสียงร้องว่าอยากไปอยู่ด้วย เขาจึงนำตุ๊กตาไปปลุกเสกกับพระอาจารย์ หลังจากนั้นก็ได้รับมอบโชคลาภ และมีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต ต่อมาก็เริ่มมีผู้คนที่มีชื่อเสียงเริ่มหันมาเลี้ยงบูชา และถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดีย จนทำให้เกิดกระแส “ตุ๊กตาลูกเทพฟีเวอร์” ตั้งราคาตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักแสน เช่นเดียวกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับตุ๊กตาลูกเทพ ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีโปรโมชั่นและบริการแปลก ๆ เกิดขึ้น ทั้งการรับเลี้ยงดูตุ๊กตาลูกเทพ เป็นต้น

AFP

ตุ๊กตาลูกเทพฟีเวอร์ถึงขนาดที่ว่า บริษัทไทยสมายล์แอร์เวย์ ออกแถลงการณ์ว่าจะออกตั๋วบินสำหรับตุ๊กตาลูกเทพ เพิ่มที่นั่งรวมทั้งบริการอาหารเครื่องดื่ม และต้องปฏิบัติตัวเหมือนเป็นผู้โดยสาร พร้อมแนวทางปฏิบัติสำหรับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน นอกจากนี้ ยังมีข้อปฏิบัติการพาตุ๊กตาลูกเทพไปยังสถานที่ต่าง ๆ ทั้งการรับประทานอาหารในร้าน การเดินทาง หรือการนั่งชมภาพยนตร์ อย่างไรก็ตาม กระแสตุ๊กตาลูกเทพก็ค่อย ๆ ลดลง จนคล้ายกับว่าจะหายไปจากสังคมไทยแล้ว

เครื่องรางพะยูนมาเรียม

AFP

พะยูนมาเรียม คือลูกพะยูนตัวน้อยที่มาเกยตื้น ที่อ่าวทึง ต.อ่าวนาง จังหวัดกระบี่ เมื่อตรวจสอบก็พบว่าเป็นพะยูนเพศเมีย อายุเพียง 4 - 5 เดือน และถึงแม้จะมีความพยายามนำมาเรียมไปปล่อยคืนทะเล มันก็ว่ายกลับมาป้วนเปี้ยนอยู่ตรงจุดเดิมเสมอ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามาเรียมน่าจะพลัดหลงกับแม่ในบริเวณนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการประเมินแล้ว ก็เห็นว่าหากปล่อยมาเรียมไปตามธรรมชาติ มันคงไม่สามารถมีชีวิตรอดได้แน่ เจ้าหน้าที่จึงนำมาเรียมมาอนุบาล จนกลายเป็นกระแส “มาเรียมฟีเวอร์” โด่งดังไปทั่วเมืองไทย และกลายเป็นขวัญใจของประชาชนได้ไม่ยาก

Sanook

แต่มาเรียมก็มีชีวิตอยู่ได้ไม่นานนัก หลังจากพบมาเรียมได้ 111 วัน ซึ่งสร้างความเศร้าโศกให้กับคนทั้งประเทศ​ อย่างไรก็ตาม หลังมาเรียมเสียชีวิต ก็มีการทำเครื่องรางของขลังเป็นรูปพะยูนมาเรียม ซึ่งสร้างความฮือฮาให้กับโลกโซเชียลเป็นอย่างมาก โดยเครื่องรางดังกล่าวมีเนื้อเงินทำด้วยเงินแท้ และเนื้อทองผสม มีการตอกรหัสและลงอักขระ ผ่านการปลุกเสกจากเกจิอาจารย์หลายจังหวัด ให้พลังด้านเมตตามหานิยม ใครเห็นก็รักใคร่เอ็นดู ทำมาค้าขึ้น และมีชื่อเสียง แม้จะได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเครื่องรางพะยูนมาเรียมก็ได้รับความนิยม และขายเกลี้ยงแผงในเวลาอันรวดเร็ว 

เทพซิ่ง

หลังจากโย รัชดา นายกสมาคมพระเครื่องพระเกจิคณาจารย์ ได้ประกาศสร้างเหรียญวัตถุมงคลหลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน จังหวัดนครสวรรค์ โดยตั้งชื่อรุ่นว่า “เทพซิ่ง” และด้านหลังก็มีรูปรถสปอร์ตสีแดงคันหรู โดยระบุว่าผู้ครอบครองจะมรบารมีของหลวงพ่อปกปักษ์รักษา เดินทางด้วยยานพาหนะใด ๆ ก็ปลอดภัย และค้าขายดีเจริญรุ่งเรือง ก็ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมในการสร้างจากคนในสังคมอย่างรุนแรง 

แต่เหรียญเทพซิ่งไม่ใช่เหรียญวัตถุมงคลอันแรกที่มี “รถรา” ปรากฏในเหรียญ แต่ยังมีเหรียญเหยียบรถกระดก พระซ้อนรถจักรยานยนต์ และพระขี่มอเตอร์ไซต์บนรถเก๋ง เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว 

ไอ้ไข่

ไอ้ไข่กลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับความศรัทธาจากประชาชนจำนวนมาก หลังจากให้โชคลาภคนที่มากราบไหว้ พอบอกกันปากต่อปาก ก็ทำให้ผู้คนเริ่มแห่มาบูชาไอ้ไข่เพิ่มขึ้น เมื่อกระแสความนิยมมีเพิ่มมากขึ้น ก็ทำให้วัดต่าง ๆ เริ่มจัดสร้างไอ้ไข่จำลองขึ้นเพื่อให้ผู้คนที่ศรัทธาได้เข้าไปกราบไหว้บูชา จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นพุทธพาณิชย์หรือไม่ จนวัดเวดีย์ ซึ่งถือเป็นวัดต้นตำรับของไอ้ไข่ต้องออกมาประกาศว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวัดอื่น ๆ ที่จัดสร้างรูปจำลองของไอ้ไข่ พร้อมจดลิขสิทธิ์ทุกอย่าง ตั้งแต่รูปปั้นไอ้ไข่ หนังสือประวัติความเป็นมา หรือวัตถุมงคล

Sanook

จากคำบอกเล่าว่าขออะไรไอ้ไข่ก็จะสมหวังทุกอย่าง ก็ทำให้มีผู้ศรัทธาเดินทางมากราบไหว้ ขอพร ขอโชคลาภไม่ขาดสาย และเพราะเชื่อกันว่าไอ้ไข่เป็นวิญญาณเด็กอายุประมาณ​ 9 - 10 ขวบ ก็มีการถวายของเล่นเด็กผู้ชาย ชุดทหารตำรวจ เช่นเดียวกับมีการจุดประทัด เพราะเชื่อว่าไอ้ไข่ชอบประทัดนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ทำให้ภายในวัดเจดีย์จะมีเสียงประทัดดังตลอดทั้งวัย โดยเฉพาะก่อนวันหวยออก เนื่องจากผู้คนเชื่อว่ายิ่งจุดประทัดเสียงดังเท่าไร โชคลาภก็จะเพิ่มมากขึ้น 

ท้าวเวสสุวรรณ

Sanook

อีกหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนไทยนิยมไปกราบไหว้เพื่อขอโชคลาภก็คือ “ท้าวเวสสุวรรณ” ที่เชื่อว่าเป็นเทพเจ้าที่ให้คุณด้านโชคลาภ ทรัพย์สมบัติ และการค้าขาย มีความเชื่อว่าคนที่บูชาท้าวเวสสุวรรณจะมีโชค ร่ำรวยเงินทอง มีกินมีใช้ สามารถแก้ปีชงและเสริมปีชงได้ นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันภูติผีปีศาจและเหล่าวิญญาณร้ายได้อีกด้วย โดยท้าวเวสสุวรรณปรากฏอยู่ในหลายสถานที่ แต่ถ้าจะบูชาท้าวเวสสุวรรณ ต้องนึกถึง “วัดจุฬามณี” ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เนื่องจากมีตำนานการสร้างที่แตกต่างจากที่อื่น

Sanook

ตำนานการสร้างท้าวเวสสุวรรณ์แห่งวัดจุฬามณี คือพระอาจารย์อิฏฐ์ เจ้าอาวาสของวัด ได้ฝันเห็นท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งในนิมิตนั้น ท้าวเวสสุวรรณได้พาพระอาจารย์อิฏฐ์ไปเที่ยวชมยมโลก พระอาจารย์อิฏฐ์จึงตั้งอธิษฐานว่าถ้ากลับไปที่โลกมนุษย์ จะทำการตั้งรูปปั้นท้าวเวสสุวรรณไว้กลางวัด เป็นการขอบคุณและให้ความเคารพแก่ท่าน ซึ่งท้าวเวสสุวรรณก็ได้บอกว่า หากจะปั้นตนก็ต้องไปตามช่างปั้นคนหนึ่งในจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งนั่นจึงกลายเป็นตำนวนที่มา ที่ทำให้ท้าวเวสสุวรรณได้รับความศรัทธาจากผู้คนอย่างล้มหลาม 

เครื่องรางแฟชั่น

ร้านไลลา อมูเลตส์ (Leila Amulets) เป็นร้านเครื่องรางของขลังที่ได้รับความนิยมในหมู่คนรุ่นใหม่เป็นอย่างมากในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา และถือเป็นผู้บุกเบิกตลาดเครื่องรางแฟชั่นให้กลับมา “ฮิต” อีกครั้ง โดยถือกำเนิดขึ้นโดยจันทรา จัทร์พิทักษ์ชัย ที่นำกำไลหินมาดัดแปลงเข้ากับตะกรุดจากวัดดัง และเครื่องรางของขลังอื่น ๆ อีกหลายอย่าง โดยมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก การงาน การเรียน หรือการเงิน 

กระแสความนิยมของไลลาเกิดจากการบอกปากต่อปาก และการแชร์ผ่านโลกโซเชียล ส่งผลให้ผู้คนเข้ามาซื้อเครื่องรางของไลลาอย่างถล่มทลาย จนทำให้ร้านไลลาสามารถขยายสาขาไปตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับเกิดร้านค้าเครื่องรางแฟชั่นคล้าย ๆ กันอีกมากมาย ทั้งในห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด และโซเชียลมีเดีย อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้ความนิยมของไลลาและเครื่องรางแฟชั่นเหล่านี้ก็เสื่อมถอยลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน แม้จะยังมีลูกค้าประจำอยู่ แต่ก็ไม่ได้ร้อนแรงเหมือนช่วงที่ผ่านมา 

พ่อปู่อือลือ ณ ถ้ำนาคา

ถ้ำนาคากลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวน้องใหม่ที่โด่งดังในช่วง 1 - 2 ปีที่ผ่านมา หลังจากมีกระแสพญานาคฟีเวอร์ ผู้คนหันมากราบไหว้บูชาพญานาคกันมากขึ้น และถ้ำนาคาก็ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของผู้คนที่ศรัทธาในพญานาค อยากจะมีโอกาสได้ขึ้นไปกราบไหว้ “พ่อปู่อือลือ” ที่เป็นพญานาคปกครองเมืองบาดาล โดยเชื่อกันว่าบริเวณบึงโขงหลงเคยเป็นเมืองบาดาล ที่มี่ทั้งพญานาคและมนุษย์อาศัยอยู่ร่วมกัน แต่พ่อปู่อือลือได้สาปเหล่าบริวารพญานาคให้กลายเป็นหิน เนื่องจากทำผิดจารีต ไปมีสัมพันธ์กับมนุษย์ ซึ่งบริเวญที่โดนสาปให้เป็นหินก็คือถ้ำนาคาแห่งนี้นั่นเอง 

อุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดนครพนม - Phulangka National Park Thailand

ถ้ำนาคาตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ สาเหตุที่ได้ชื่อว่าถ้ำนาคา เป็นเพราะหินและผนังถ้ำดูคล้ายกับพญานาค มีรูปทรงคล้ายพญานาตขนาดใหญ่นอนขดตัวอยู่ มีส่วนสำคัญต่าง ๆ ทั้งส่วนหัว ลำตัว และเกล็ดพญานาค ถ้ำนาคาเริ่มเป็นที่รู้จักหลังมีชาวเน็ตแชร์ภาพถ้ำที่มีพื้นผิวคล้ายเกล็ดพญานาค ซึ่งดูลึกลับ น่าพิศวง พอมีการคลายล็อกดาวน์ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ก็ทำให้ประชาชนหลั่งไหลเข้าไปเที่ยวชมความงามของถ้ำนาคา พร้อมเข้าไปสักการะและกราบไหว้ขอโลคลาภมากมาย จนเคยเกิดปัญหานักท่องเที่ยวติดค้างอยู่บนเขา ไม่สามารถลงจากเขาได้ ซึ่งพอมีคนเยอะ ก็ทำให้เกิดปัญหาตามมา ทั้งการไปจับสัมผัสพื้นผิวของหิน การปักธูป ขูดขีดและโรยแป้งที่หินเพื่อขอเลขเด็ด หรือแม้กระทั่งการขัดเขียนลงบนหิน จนอุทยานต้องปิดไม่ให้เยี่ยมชมถ้ำนาคา

วอลเปเปอร์เสริมดวง

เมื่อความไม่แน่นอนของสถานการณ์โรคโควิด-19 ทำให้คนไทยต้องหันไปพึ่งพาการมูเตลูกันมากขึ้น ก็เป็นช่องทางให้เกิดธุรกิจใหม่ขึ้นมามากมาย และหนึ่งในนั้นคือ “วอลเปเปอร์เสริมดวง” ที่กลายเป็นกระแสมาแรง และมีผู้พัฒนาวอลเปเปอร์เสริมดวงออกมาให้ผู้ใช้ได้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นมูเตเวิร์ล, Magic Wish, ดวงทูเดย์ หรือ a ดวง และแต่ละผู้พัฒนาก็มีศาสตร์การสร้างวอลเปเปอร์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเลขมงคล สัตว์มงคล หรือไพ่ยิปซี 

 

จากการสำรวจเรื่อง “ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความตั้งใจซื้อวอลเปเปอร์มือถือเสริมดวง” ของภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้ว่า กลุ่มเป้าหมายของสินค้าคือกลุ่มผู้หญิง อายุต่ำกว่า 30 ปี และมีความเชื่อเรื่องโชคลาง สิ่งเหนือธรรมชาติ หรือความเรื่องในเรื่องเคราะห์กรรมความโชคร้าย นอกจากนี้ยังเป็นกลุ่มคนที่มารายได้ต่อเดือนต่ำกว่า 30,000 บาท 

ครูกายแก้ว

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างความฮือฮาให้กับคนในสังคมล่าสุด ก็คงหนีไม่พ้น “ครูกายแก้ว” ที่เป็นสาเหตุให้การจราจรบนถนนรัชดาภิเษก ของเช้าวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา เนื่องจากรถพ่วงที่บรรทุกรูปปั้นครูกายแก้วขนาดใหญ่ เกิดติดคานสะพานลอยคนข้าม โดยรูปปั้นของครูกายแก้วมีลักษณธเป็นคนกึ่งนก มีปีก มีเล็บยาวสีแดงและเขี้ยวสีทอง หลังจากนั้นก็มีการถกเถียงบนโลกออนไลน์ถึงความเหมาะสมในการกราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าว จนกลายเป็นดราม่าในโลกโซเชียล

AFP

แม้จะมีดราม่าร้อนในโซเชียลมีเดีย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าความนิยมและความศรัทธาในครูกายแก้วดูเหมือนจะมีเพิ่มมากขึ้น ทั้งในหมู่คนที่นับถือครูกายแก้วมานานหลายปี และคนหน้าใหม่ที่ต้องการที่พึ่งทางใจ หรือเมื่อมีสิ่งใหม่ ๆ ก็จะตามไปขอโชคขอพรให้ตัวเอง 

นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัตถุมงคล และเครื่องรางของขลังที่ปรากฏอยู่ในสังคมในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา แน่นอนว่าสังคมไทยก็คงจะได้เห็นวัตถุมงคลหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นอีกในอนาคต ก็คงต้องรอดูกันต่อไป ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันต่อไปที่ “สายมู” ชาวไทยจะไปกราบไหว้คืออะไรกันแน่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook