หนุ่มวัย 29 หัวใจวายเกือบตาย แพทย์ชี้นิสัยการกินเป็นเหตุ เตือนมื้อเช้าสำคัญมาก
ชายวัย 29 ปี หัวใจวายเกือบเสียชีวิต แพทย์นิสัยการกินเป็นเหตุ เตือนมื้อเช้าสำคัญมาก อย่าอดมื้อ ไปกินหนักอีกมื้อ
Huang Jianlong แพทย์หทัยวิทยาชาวไต้หวัน แชร์เคสหนุ่มวัย 29 ปี ถูกส่งไปที่แผนกฉุกเฉินด้วยอาการกล้ามเนื้อหัวใจตายกะทันหัน ตรวจพบว่าหลอดเลือด 3 เส้นอุดตันรุนแรง และ 1 ใน 3 อุดตันโดยสิ้นเชิง ซึ่งถือได้ว่าอันตรายมาก
แพทย์ชี้ว่า โรคหัวใจและหลอดเลือดที่เดิมพบเฉพาะในวัยกลางคนและผู้สูงอายุ จึงเกิดขึ้นในคนหนุ่มสาวได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น การพบเคสกล้ามเนื้อหัวใจตายตั้งแต่อายุยังน้อยจึงทำให้ประหลาดใจ แม้ว่าพ่อของผู้ป่วยจะเป็นโรคความดันโลหิตสูง และแม่เป็นเบาหวาน แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ไม่น่าจะเริ่มมีอาการเร็วขนาดนี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากทราบนิสัยการใช้ชีวิตของผู้ป่วยชายรายนี้ แพทย์ก็รู้เหตุผลว่าทำไมเขาถึงป่วยเป็นโรคหัวใจตั้งแต่อายุยังน้อย โดยชี้ให้เห็นว่า เนื่องจากครอบครัวของเขายากจน ชายคนนี้จึงต้องทำงาน 2 งานเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว ได้แก่ พนักงานขายในตอนเช้า และ รปภ.ช่วงเย็น ทำให้เขาไม่มีเวลากินข้าวเช้า และบางครั้งเขาก็ไม่ได้กินแม้แต่ข้าวกลางวัน และค่อยมากินข้าวเย็นให้มากขึ้นแทน ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพ
นอกจากจะมีนิสัยการกินที่ไม่ดี และมักจะงดอาหารเช้าแล้ว อีกทั้งเมื่อทำงานเป็น รปภ.เฝ้ายามตอนกลางคืน ก็ต้องกินของว่างยามดึกเพื่อไม่ให้หลับ ภายใต้นิสัยการกินที่วุ่นวายของเขา จึงเป็นที่มาของการถูกความดันโลหิตสูง, น้ำตาลในเลือดสูง และไขมันในเลือดสูง โจมตีแต่เนิ่นๆ ซึ่งนำไปสู่ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจในที่สุด
แพทย์เน้นย้ำว่าอาหารเช้ามีความสำคัญมาก และหากรับประทานอาหารไม่ดี โรคเรื้อรังที่มักเกิดในผู้สูงอายุก็อาจพบได้เร็วกว่าในคนหนุ่มสาวด้วย นอกจากนี้ยังอ้างถึงงานวิจัยจากต่างประเทศ ที่สำรวจจากการติดตามผู้คนหลายพันคนมานานกว่า 10 ปี พบว่าเทียบกับคนที่เคยกินอาหารเช้าแล้ว ผู้ที่งดอาหารเช้ามีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจสูงกว่า 87% และความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองสูงกว่าประมาณ 3 เท่า เห็นว่าสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดมีความสัมพันธ์กันอย่างมาก