พล.ต.อ.วสิษฐ เผยโยกย้ายในตำรวจภูธรภาค 2 มีซื้อขายตำแหน่ง
"พล.ต.อ.วสิษฐ" เข้ารายงานผลการสอบสวนการซื้อขายตำแหน่งในตำรวจภูธรภาค 2 ต่อนายกรัฐมนตรี ยืนยันการโยกย้ายไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีการซื้อขายตำแหน่งแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ แฉเชื่อมโยง ส.ส.และนักการเมืองในพื้นที่ ไม่เชื่อมโยงนักการเมืองระดับชาติ
เมื่อเวลา 17.00 น. พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร ประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อร้องเรียน เรื่องการซื้อขายตำแหน่งในการจัดทำรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับรองผู้บังคับการ และสารวัตร ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้นำผลสรุป กรณีการซื้อขายตำแหน่งในส่วนของตำรวจภูธรภาค2 ส่งมอบให้กับนายกรัฐมนตรี
พล.ต.อ.วสิษฐ เปิดเผยภายหลังเข้าพบนายกรัฐมนตรี ว่า คณะกรรมการเชื่อว่าการแต่งตั้งนายตำรวจในส่วนของตำรวจภูธรภาค 2 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ ก.ตร. และมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ แต่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อนักการเมืองได้ ซึ่งทางคณะกรรมการมีข้อเสนอแนะให้บำบัดเรื่องนี้ ให้ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งอยู่ที่นายกรัฐมนตรีจะมีดุลพินิจ และกรณีการเรียกรับผลประโยชน์ ถือมีความผิดทางวินัย ให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกชุดหนึ่งตรวจสอบตำรวจที่ถูกกล่าวหา โดยให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่างองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)เข้ามาตรวจสอบ
พล.ต.อ.วิสิษฐ กล่าวว่า ในรายงานมีความเชื่อมโยงถึง ส.ส.และนักการเมืองในพื้นที่ แต่ไม่เชื่อมโยงถึงนักการเมืองระดับชาติ และไม่มีใบเสร็จที่จะชี้ชัด ทั้งนี้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 2 ซึ่งรับผิดชอบโดยตรงต่อการจัดทำโผ จะต้องถูกตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ แต่ในส่วนของ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีจะมีดุลพินิจอย่างไร ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่ามีตำแหน่งที่มีการแต่งตั้งโยกย้ายโดยไม่ชอบมากกว่า 10 ตำแหน่งขึ้นไป และมีเงินซื้อขายถึงหลักล้าน
ต่อข้อถามว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องรับผิดชอบด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.วสิษฐ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแต่ละคน ต่อข้อถามว่า พล.ต.อ.ปทีป มีคำสั่งให้รื้อโผการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจในภาค 2 ใหม่ และให้ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาจัดทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายใหม่ จะต้องรอผลการตรวจสอบให้เสร็จก่อนหรือไม่ พล.ต.อ.วสิษฐ กล่าวว่า การดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ต้องดำเนินการต่อไป คณะกรรมการจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง หากคณะกรรมการพบว่ามีการซื้อขายตำแหน่งโดยมิชอบ ก็สามารถสอบสวนต่อได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีพอใจผลการสอบสวน.-