แรงทุกคำ! วิโรจน์โต้ สส.รัฐบาล อย่าเล่นละครใส่ใจเกษตรกร ทั้งที่หนีกลับบ้านหมด
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นำทีม สส. พรรคก้าวไกล แถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ (31 ส.ค.) ตอบโต้พรรคเพื่อไทย ที่แถลงข่าวก่อนหน้านั้นไม่นาน หลังจากมี สส. เข้าประชุมไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวน สส. ทั้งหมดจนสภาฯ ล่ม เมื่อช่วงก่อนหน้าของวันเดียวกัน
สส. พรรคก้าวไกลรายนี้ แถลงว่า พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญกับความเดือดร้อนของเกษตรกร แต่บรรดา สส. ว่าที่ฝ่ายรัฐบาลกลับไม่มาร่วมประชุมเอง แต่กลับเสแสร้งเป็นสนใจปัญหาของเกษตรกร ทั้งที่ควรเรียกเพื่อนร่วมพรรคของตนให้มาร่วมประชุม
นายวิโรจน์ยังท้าให้ผู้สื่อข่าวไปสังเกตที่ลานจอดรถของ สส. ได้เลยว่ามี สส. จำนวนมากกลับบ้านกันตั้งแต่ช่วงเที่ยงวัน ขณะที่ สส. พรรคก้าวไกลนั้นร่วมประชุมตลอด
"จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่นั่งประชุมคือตัวสะท้อนที่ชัดเจนว่าให้ความสำคัญกับญัตติของพี่น้องเกษตรกรหรือไม่ ไม่ใช่ว่าพูด acting (แอกติง) ในสภาฯ ร้องห่มร้องไห้ว่าฉันเห็นความสำคัญแล้วไม่มาประชุม แล้วอย่ามาอ้างครับว่าอยู่ในห้องบ้าง อยู่ที่อื่นบ้าง กรรมาธิการสามัญยังไม่มี ผมเชิญนักข่าวไปดูที่ชั้น B2 ที่จอดรถได้เลย หลังเที่ยงก็กลับบ้านกันไปแล้ว มาพูดดรามาว่าพี่น้องเกษตรกรสำคัญ แล้วทำไมไม่ตามกันมาประชุม ทำไมกลับบ้านก่อน หรือทั้งหมดทั้งมวลเป็นภาพการรณรงค์เพื่อให้ได้มาเพื่อคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชนเท่านั้น อีกหน่อยฝ่ายรัฐบาลจะอภิปรายอะไร สภาฯ ต้องขึ้นไหมว่านี่เป็นเพียงการโฆษณาเท่านั้น ตกลงนี่เป็นการแสดงหรือการให้ความสำคัญจริงๆ" นายวิโรจน์ กล่าว
นายวิโรจน์ย้ำว่า แม้พรรคก้าวไกลจะร่วมแสดงตนเป็นองค์ประชุมให้เกือบ 150 คน แต่ก็ไม่ได้ทำให้จำนวนสมาชิกในที่ประชุมเกินครึ่งหนึ่งพอที่จะเปิดประชุมต่อไปได้
"แปลกไหมครับพี่น้องประชาชน แปลกไหมครับพี่น้องสื่อมวลชน ให้ความสำคัญ ยกไม้ยกมือจะประท้งประท้วง ขอพ่งขอพูด ไม่ต้องพูด! โทรศัพท์ตามเพื่อนให้มาประชุมครับ แล้วสุดท้ายก็ไม่มากัน เพราะกลับบ้านกันไปแล้ว ขับรถออกไปกันหมดแล้ว สุดท้ายเป็นไงครับนับองค์ประชุม 96 พรรคก้าวไกล 150 บวกกันเข้าไป ต่อให้เราทุกคนช่วยเป็นองค์ประชุมให้ก็ไม่ถึง 250 ดังนั้นครับพวกเราเห็นความสำคัญของพี่น้องเกษตรกร และเรายืนยันด้วยจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ร่วมประชุมในญัตตินี้ ไม่ได้ร้องห่มร้องไห้ประท้งประท้วง แต่ สส. ของพรรคตัวเองไม่มา ดังนั้นพี่น้องประชาชนขอให้เข้าใจกันให้ถูกต้องว่าใครกันแน่ที่ใส่ใจจริงๆ ใครกันแน่ที่ใส่ใจเพื่อการโฆษณาเท่านั้น ก็ขอบพระคุณครับ"