ขุดโพสต์ "ชลน่าน" ด่ารัฐบาลประยุทธ์ทำสภาล่ม ชาวเน็ตแซว เพื่อไทยสู้กับอดีตตัวเอง
อุ๊ย!! ย้อนโพสต์ "ชลน่าน" ด่ารัฐบาลประยุทธ์ทำสภาล่ม ชาวเน็ตแซว ศัตรูที่น่ากลัวที่สุดของเพื่อไทย คือเพื่อไทยในอดีต
จากกรณีวานนี้ (31 ส.ค.66) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เปิดการประชุมสภา โดยมีญัตติเรื่องการแก้ไขปัญหาราคากุ้งตกต่ำเข้ามาพิจารณา โดย นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส. จ.ฉะเชิงเทรา เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้เสนอญัตติ ระหว่างที่นายอรรถกรอธิบายถึงเหตุผลที่เสนอญัตตินี้ นายปิยรัฐ จงเทพ สส. กรุงเทพมหานคร เขต 28 พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นเสนอนายวันมูหะมัดนอร์ให้นับองค์ประชุม หลังเห็นว่าฝ่ายรัฐบาลมาประชุมน้อยมาก
ผลคือมีผู้แสดงไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร (สส.จากพรรคก้าวไกลมาเกือบครบคือ 150 คน แต่ไม่กดบัตรแสดงตน) ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ประกาศปิดประชุม นับเป็น "สภาฯ ล่ม" ครั้งแรกในรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน
จากเหตุสภาล่มดังกล่าว สร้างเสียงวิจารณ์จนแฮชแท็ก #สภาล่ม ติดอันดับความนิยมในทวิตเตอร์ (X) ตำหนิพฤติกรรมของ สส. ที่ไม่มาร่วมประชุม ทั้งที่ สส.นั้นได้รับเงินเดือน เป็นเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 71,230 บาท เงินเพิ่มเดือนละ 42,330 บาท รวมเป็นเดือนละ 113,560 บาท แต่กลับไม่ทำงาน
ขณะเดียวกันก็มีคนขุดโพสต์ของ นายชลน่าน ศรีแก้ว อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่เคยทวีตถึงกรณีรัฐบาลชุดเก่าทำสภาล่มไว้เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 ว่า
"การประชุมสภาเป็นหน้าที่ของ สส.ทุกคน แต่หน้าที่รักษาองค์ประชุมเป็นหน้าที่ สส.รัฐบาล !! ถ้า'ประยุทธ์' หน.รัฐบาลคุมเสียงข้างมากในสภาไม่ได้ ก็ไม่มีความชอบธรรมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ครับ #สภาล่มกดดันประยุทธ์ยุบสภา"
ซึ่งชาวเน็ตต่างก็บอกว่า นี่แหละคือ ดิจิทัลฟุตปรินต์ แปลตรงตัวคือ รอยเท้าบนโลกดิจิทัล สื่อความหมายถึงร่องรอย ข้อมูลต่างๆ ที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตหรือผู้ท่องโลกออนไลน์ได้ทิ้งเอาไว้บนโลกดิจิทัล มันจะไม่มีวันหายไป สามารถถูกติดตามและค้นหานำกลับมาเผยแพร่ใหม่ได้แม้ว่าเวลาจะผ่านไปแล้วก็ตาม
ขณะที่หลายคนก็บอกว่า ศัตรูที่น่ากลัวที่สุดของเพื่อไทย คือเพื่อไทยในอดีต เนื่องจากหลายอย่างที่เคยพูดไว้ก่อนเลือกตั้งกลับทำไม่ได้ หลายอย่างที่เคยด่ารัฐบาลชุดเก่าไว้ก็ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองในตอนนี้เพราะทำแบบเดียวกัน