เครียดสูญเงินก้อนใหญ่ ซี รับเป็นอุทาหรณ์

ซี - ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ ปล่อยกฎหมายจัดการคู่กรณี หลังโดนโกงเงิน รับเป็นบทเรียนสอนใจ ให้ใครยืมเงินควรทำเป็นลายลักษณ์อักษร

หลังจากที่มีข่าวว่าคุณแม่ของ ซี ศิวัฒน์ ออกโรงนำทีมฟ้องร้องอดีตผู้จัดการแบงก์ ด้วยข้อหาโกงเงิน เจอหน้า ซี เลยต้องถามถึงความคืบหน้า ว่าตอนนี้คดีฟ้องร้องไปถึงไหนกันแล้ว พระเอกหนุ่มวิกหมอชิตเผย

"เรื่องคนที่โกง ตอนแรกเขาขอยืมเงินเราไปลงทุน แล้วก็ให้ดอกเบี้ย ซึ่งเขาก็มีการให้ดอกจริง แต่เขาไม่ได้ยืมผมคนเดียว เขายืมคนอื่นไปทั่ว คนคนนี้เขามีเครดิตดี ถึงขั้นเป็นผู้จัดการแบงก์ คือเรารู้จักกันมานานแล้ว ไม่ใช่รู้จักกันแค่ปีสองปีแล้วให้ยืมกัน เพราะจำนวนเงินที่ยืมมันไม่ใช่บาทสองบาท มันเยอะมาก คนในหาดใหญ่ นักธุรกิจทุกคนก็รู้จักเขา แล้วเราก็รู้จักกันมา 30 ปีแล้ว แต่เขาคงไปลงทุนแล้วมันคงเจ๊ง เขาก็ไปเอาเงินลูกค้ามา เขาก็เลยโดนสอบสวน ทีนี้เขาเลยหนี ก็ไม่มีการส่งดอกให้เราอีก เลยมีการตามจับ ตอนนี้เขาก็อยู่ในคุก กำลังดำเนินคดีกับเขาอยู่ ก็จะมีการฟ้องร้องเขาอยู่หลายคดีเลย นอกเหนือจากที่บ้านผมจะฟ้องเขาแล้ว ก็ยังมีคนอื่นๆ ที่จะฟ้องเขาด้วย หลายคดี ก็คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ ผมอยู่ตรงนี้ ก็ทำงานของผมไป คุณแม่ก็บอกว่า ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวทางเขาจัดการกันเอง แล้วแต่ทางกฎหมายว่าเขาจะจัดการยังไง" ซี แจกแจง

อย่างไรก็ดี ซี ยอมรับว่า การที่ให้คู่กรณียืมเงินไปครั้งนั้น ถือว่าเป็นความผิดพลาดครั้งรุนแรง เนื่องจากไม่ได้ทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ใช้ความเชื่อใจเป็นหลัก

"ถือเป็นอุทาหรณ์ให้หลายๆ ท่าน และตัวผมเองด้วย ว่าทีหลังอย่าใช้ความสนิท เพราะเรื่องเงินไม่เข้าใครออกใครจริงๆ ยอมรับว่าเครียด เสียเงินไปพอสมควร เสียเงินไปเยอะขนาดนี้ ถามว่าขนหน้าแข้งร่วงไหม ร่วงอยู่แล้ว ใครบ้างจะไม่ร่วง แต่เราก็ต้องว่าไปตามเรื่อง อย่างที่บอกว่าธุรกิจเราก็ยังมี เรายังไม่ตาย แขนขาก็ยังมีอยู่ ก็ยังต้องเดินต่อไป โทษใครไม่ได้ ส่วนหนึ่งก็ต้องโทษตัวเอง เรายังทำงานได้อยู่ พี่น้องทุกคนก็ยังมี เราไม่จำเป็นต้องมานั่งเสียใจกับสิ่งที่เราเสียไปแล้ว ตอนนี้ก็ปล่อยให้เป็นตามกฎหมาย"