เปิดงบค่าอาหาร สส. วันละ 5 แสนบาท ของเหลือทุกวัน เจ้าหน้าที่สภาวอนช่วยห่อกลับ
เปิดงบค่าอาหาร สส. 1,000 บาท/คน/วัน ถ้า สส.มาไม่ครบ ก็มีของเหลือทุกวัน เจ้าหน้าที่สภาวอนช่วยห่อกลับ
จากกรณี สิริลภัส กองตระการ หรือ หมิว สส. เขตบางกะปิ พรรคก้าวไกล ถูก สส.ต่างพรรค แอบถ่ายภาพลงอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า "พบเห็นอดีตดาราสาว ลักลอบนำอาหารสภากลับบ้าน"
โดย สส.หมิว ได้ชี้แจงกรณีนี้ว่า "น่าแปลกใจนะคะ เป็น สส.มา 2 สมัย ก็ไม่ทราบว่าได้เข้ามาห้องอาหารตอน “เลิกประชุมสภา” กี่ครั้ง ตั้งแต่มีประชุมสภามา หมิวกล้ายืนยันว่าหมิวอยู่จนจบประชุมสภา “ทุกครั้ง” พร้อมเพื่อนสส.ก้าวไกลอีกหลายคน หลังจบประชุม ที่ห้องอาหารก็จะมีอาหารที่เขาเตรียมไว้ให้ ตามจำนวน สส.
คำถามคือ แล้วทำไมตอนเลิกประชุม อาหารถึงได้เหลือมากขนาดที่เขาต้องห่อใส่ถุงให้เอากลับบ้าน?? ถ้าจำนวน สส. ที่เหลืออยู่จนปิดประชุมมีมากพอ ก็ไม่มีอาหารที่เหลือแบบนี้หรอกมั้งคะ อาหารที่เหลือเหล่านี้ ถ้าไม่ห่อกลับ เจ้าหน้าที่ก็จะแจกจ่ายอยู่แล้ว และวันนี้ หมิวก็ใช้สิทธ์ตามที่มี ไม่ได้นั่งทานที่ห้องอาหาร แต่ห่อกลับมากินที่บ้าน การใช้คำว่า “ลักลอบ” นี่ไม่รู้ว่า อ่อนภาษาไทยหรือจงใจใส่ร้ายกันแน่
เข้ามาทำงานที่มีเกียรติแล้ว ก็ช่วย …ภูมิใจ… ที่ประชาชนคน…ไทย…. เขาเลือกมาของตัวเองหน่อยค่ะ มีหน้าที่ทำงานการเมืองก็ทำไป จะอภิปราย จะขับเคลื่อนประเด็นอะไรก็ว่าไป มัวแต่มานั่งถ่ายรูปจับผิดคนอื่น เอาเขาไปแขวน อย่าคิดว่าเจ้าตัวเค้าจะไม่เห็นนะคะ มีสื่ออยู่ในมือก็หัดใช้ให้มันเป็น ถ้าใช้สื่อไม่เป็น เดินเข้ามาถามได้ ยินดีให้คำแนะนำ ถ้าอยากได้ยอดติดตามที่มากกว่าที่มีอยู่ 4000 กว่าคน ถ้าเจอกันครั้งหน้า ไม่มีเพื่อน สส.พรรคเดียวกันนั่งกินข้าวด้วยเพราะอยู่ไม่ถึงเลิกประชุม ก็มานั่งทานด้วยกันได้นะคะ จะได้มาคุยกันหน่อยว่าจุดประสงค์ที่ถ่ายรูป+แคปชั่นแบบนี้ จะสื่อว่าอะไร พร้อมจะรับฟังค่ะ"
งานนี้ ทั้งชาวด้อมส้ม ชาวเน็ต ต่างก็มาให้กำลังใจ สส.หมิว โดยบอกว่าทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ที่ไม่ปล่อยให้อาหารดีๆ ต้องเหลือทิ้ง ซึ่งขณะนี้ทั่วโลกต่างก็รณรงค์เรื่องขยะอาหาร (Food waste) กันอยู่
ขณะที่ วรรณวิภา ไม้สน หรือ มด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้เสริมประเด็นอาหารเหลือว่า "เคยถามเจ้าหน้าที่เหมือนกันว่าตอนเย็นคนอยู่น้อย ทำไมทำอาหารเยอะ เขาตอบว่างบประมาณแต่ละมื้อคือคูณจำนวน สส. 500 คน ก็ต้องทำให้ครบ แต่บางวันคนอยู่ร้อยกว่าสองร้อย ต้องคอยมาบอก สส.ที่อยู่ว่าให้นำกลับให้ด้วยห่อให้เสร็จสรรพ เพราะมันเหลือเยอะมากๆจริงๆ"
พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่สอง ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ เมื่อ 7 ก.ย. กรณี สส. นำอาหารกลับบ้านว่า “ทำได้ เพราะไม่มีกฎหมายห้าม อีกทั้งบ่อยครั้งที่ข้าวของสภาฯ ที่เลี้ยงรับรอง สส. ในวันประชุมเหลือ ต้องขอไปแจก ไปบริจาค แต่ก็ทำไม่ทันจนเน่า หลังๆ จึงปันให้ ข้าราชการ แม่บ้าน รวมถึง ให้ สส. นำไปให้ทีมงานได้รับประทาน”
สำหรับงบค่าอาหาร สส. 1,000 บาท/คน/วัน ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวครอบคลุมถึงค่าอาหารว่าง และเครื่องดื่มตลอดทั้งวัน ค่าอาหารกลางวัน ค่าอาหารเย็น ตลอดจนภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าบริการต่างๆ แล้ว
โดยการจัดสรรงบประมาณเป็นค่าอาหารเพื่อรับรอง สส.ในวันประชุม ย้อนหลัง พบว่า
- ปีงบประมาณ 2566 จัดสรรงบค่าอาหาร รวม 72,031,000 บาท
- ปีงบประมาณ 2565 และปี 2564 จัดสรรงบ ที่มียอดเท่ากัน คือ 87,880,000 บาท
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อเดือน พ.ย.65 เคยมีประเด็นวิพากษ์วิจารณ์เรื่องงบประมาณค่าอาหารของ สส. โดย นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ แฉมีการล็อบบี้และจ่ายเงินประมูลร้านอาหารจัดเลี้ยง สส. ทำให้ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี สส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะกรรมการคัดเลือกผู้ประกอบการร้านอาหารจัดเลี้ยง สส.และ สว. กล่าวว่า อยากให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ และมีการจ่ายเงินกันจริงหรือไม่ หากเกิดขึ้นจริง ต้องทำโทษ เพราะทำให้สภาเสียหาย และหากมีจริงก็ต้องประมูลใหม่ แต่ตนไม่เห็นด้วย อยากให้ยกเลิกไปเลย เพราะงบประมาณแผ่นดินสูญเสียกับค่าอาหารมาก
“ส่วนตัว ไม่ทราบว่ามี สส. ถูกล็อบบี้กี่คน เพราะเขาคงไม่กล้ามาล็อบบี้ดิฉัน ซึ่งในขั้นตอนคัดเลือก เราก็จะชิมว่าร้านนี้รสชาติเป็นอย่างไร คุณภาพอย่างไร สะอาดหรือไม่ แต่หากมีเรื่องอย่างนี้ ก็ไม่ควรมีผลการคัดเลือกออกมา เพราะถือว่าไม่โปร่งใส ควรยกเลิกวิธีการเก่าๆ นี้ไปเลย ไม่ต้องประมูลใหม่ โดยอยากให้เปลี่ยนวิธีการไปใช้บัตรเติมเงินเหมือนศูนย์อาหาร เพื่อให้ สส.มีโอกาสได้เลือกร้านที่อยากรับประทาน และไม่ต้องเกิดปัญหาการผูกขาดร้านใดร้านหนึ่ง ดังนั้นจึงอยากให้ใช้วิธีแตะบัตรเติมเงิน เมื่อ สส.หิวตรงไหน ก็เลือกทานตรงนั้น จะทำให้เงินงบประมาณเหลืออีกมาก เพราะหากใช้เงินในบัตรทานอาหารไม่หมด หรือไม่ได้ใช้ เงินก็เหลือคืนคลังได้”
น.ส.รังสิมา กล่าวถึงค่าอาหารของ สส.ว่า ปกติแล้ว 1 วันประชุมจะได้คนละ 1,000 บาท รวม สส. 500 คน เป็นวันละ 500,000 บาท คิดเป็นงบประมาณต่อปีประมาณ 100 ล้านบาท ไม่ว่า สส.จะมาครบหรือไม่ ค่าอาหารก็ต้องจ่าย 500,000 บาท หรือสภาฯ ล่ม อาหารมื้อเย็นก็ต้องเอาไปบริจาค ส่วนตัวมองว่า 1,000 บาท สำหรับ ส.ส. 1 คน ไม่ถือว่าแพงเกินไป เพราะทำงานให้กับประชาชน ไม่สามารถออกไปกินข้างนอกได้ ต้องประชุมสภาฯทั้งวัน แต่ถ้าใช้วิธีแตะบัตรเติมเงิน น่าจะใช้งบประมาณแค่ 50 ล้านบาทเท่านั้น