แม่บ้านให้การหมดเปลือก "กำนันนก" สั่งล้างคราบเลือด-เก็บปลอกกระสุน ทำลายหลักฐาน

แม่บ้านให้การหมดเปลือก "กำนันนก" สั่งล้างคราบเลือด-เก็บปลอกกระสุน ทำลายหลักฐาน

แม่บ้านให้การหมดเปลือก "กำนันนก" สั่งล้างคราบเลือด-เก็บปลอกกระสุน ทำลายหลักฐาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์​ หักพาล รองผบ.ตร. เผยความคืบหน้า คดียิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว ตำรวจทางหลวง ในบ้านของ “กำนันนก” ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม ระบุว่า

จากการสอบปากคำแม่บ้านของกำนันนก ให้การว่า กำนันนกเป็นคนสั่งให้ทำลายพยานหลักฐาน ทั้งแกะกล้องวงจรปิด ล้างคราบเลือด เก็บปลอกกระสุนไปทำลาย แต่อย่างไรก็ตามหากศาลยังไม่พิพากษาถึงที่สุด ตามกฎหมายไทยก็ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ ตำรวจจึงต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่นหนา

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า คดีนี้ไม่มีความซับซ้อน เพียงต้องไล่สืบหาข้อมูลที่ถูกทำลายพยานหลักฐานไปว่าตำรวจเกี่ยวข้องหรือไม่ มีใครที่เกี่ยวข้องและอำนวยความสะดวกให้ เบื้องต้นได้เก็บดีเอ็นเอลายมือผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดรวมถึงข้อมูลทางโทรศัพท์เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถกู้คืนภาพจากกล้องวงจรปิดที่ถูกลบไปได้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์​ เผยอีกว่า ขณะนี้คดีแยกออกเป็น 3 ส่วน ส่วนที่ 1 คดีหลักจะเป็นความรับผิดชอบของกองปราบฯ ผู้รับผิดชอบคือ พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ส่วนคดีวิสามัญจะเป็นในส่วนของตำรวจภูธรท้องที่รับผิดชอบและประเด็นตำรวจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ 157 จะเป็นสภ.เมืองนครปฐมรับผิดชอบ แต่อย่างไรก็ตามใน 2 ประเด็นหลังตนจะเป็นผู้รับผิดชอบกำกับดูแลด้วยตัวเอง

ล่าสุดได้มีการสอบปากคำแม่บ้าน เจ้าของร้านโต๊ะจีน และพรุ่งนี้จะสอบปากคำตำรวจ 21-25 นายที่อยู่ขณะเกิดเหตุ และตำรวจที่อยู่ภายนอกงานอีก 6-7 นายเพื่อสืบหาว่าใครเป็นผู้สั่งการให้ยิง ก่อนแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา นอกจากนี้ ตำรวจกำลังขอหมายค้นเพื่อสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกิจของกำนันนก เบื้องต้นยังไม่พบเรื่องยาเสพติดและการพนัน แต่คาดว่าน่าจะมีความเชื่อมโยงกับธุรกิจรถบรรทุก เพราะตำรวจหลายนายนอกพื้นที่ แม้กระทั่ง ผกก.สน.พญาไท ที่เคยสังกัดตำรวจทางหลวง ก็เข้าไปร่วมงานเลี้ยงด้วย

ขณะที่วานนี้ได้ซักถามตำรวจบางนายแล้ว พบว่ายังให้การไม่ตรงกัน ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมชาติที่มนุษย์จะโกหกเมื่อทำผิด หากจับได้ว่าทำผิดก็ต้องดำเนินคดี เหตุการณ์ในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าเป็นเสียใจ แต่หากเรื่องนี้ตำรวจไม่มีส่วนรู้เห็นและไปเกี่ยวข้อง ก็จะไม่เกิดขึ้นแต่แรก ส่วนตัวมองว่าตำรวจหลายนายจบมาจากโรงเรียน แต่ต้องมาเดินตามหลังผู้ไม่มีความรู้ ที่คนร้ายฮึกเฮิมเพราะมีคนให้ท้าย

ส่วนกรณีที่สังคมจับตาว่าเป็นการวิสามัญเพื่อตัดตอน ยืนยันเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย เพราะคนร้ายมีอาวุธปืน และเมื่อวิสามัญตำรวจก็ต้องแจ้งข้อหาและสั่งเป็นคดีวิสามัญ โดยจะเป็นความรับผิดชอบของ ภ.จว.กาญจนบุรี ขณะนี้มี พ.ร.บ.อุ้มหายบังคับใช้แล้ว บ้านเมืองมีกล้องวงจรปิด และมีขั้นตอนการตรวจสอบเยอะ ตำรวจคงไม่กล้าทำอะไรผิด ย้ำว่ากำนันนกไม่มีทางหลุดรอดคดีแน่นอน พร้อมสั่งคัดค้านการประกันตัว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook