"อภิสิทธิ์" อยากเห็น "เศรษฐา" ตอบกระทู้ในสภาฯ ห่วงเงินแจก 1 หมื่น ตอนเปลี่ยนกลับเงินบาท
“อภิสิทธิ์” ไม่ห่วงที่มาเงินแจก 1 หมื่น แต่ห่วงการเปลี่ยนกลับมาเป็นเงินบาทปกติว่าจะเกิดในช่วงไหน วิธีการไหน ไม่กังวลทุจริต
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคิดเห็นต่อร่างคำแถลงนโยบายของรัฐบาลเศรษฐา โดยนายอภิสิทธิ์ ระบุว่า ได้เห็นแล้วพบว่าการเขียนนโยบายค่อนข้างกระชับตนมองว่าสะท้อนสภาพปัญหาหรือความท้าทายได้ดีพอสมควร แม้อาจไม่ครอบคลุมทั้งหมด และหลักการของการตอบถึงเป้าหมายของนโยบายส่วนใหญ่ก็ตรง เพียงแต่ในหลายเรื่องยังไม่ค่อยชัดเจนว่า
ส่วนที่ปริมาณเงินของโครงการสูงถึง 500,000 ล้านบาท จะไปซ้ำรอยนโยบายที่ใช้เงินเยอะในอดีต เช่น จำนำข้าว อีกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่น่าจะมีประเด็นทุจริต แต่ความคุ้มค่าในการใช้เงินจำนวน 500,000 ล้านบาทในลักษณะนี้ เพื่อแลกกับความหวังว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจมันเป็นวิธีการที่ดีที่สุดหรือไม่ แม้ในเชิงเศรษฐศาสตร์จะสามารถทำได้ แต่ผลพวงที่ตามมากับทางเลือก ที่ถูกจำกัดไปเพราะใช้ทรัพยากรแบบนี้ กลไกการทำงาน ข้อกฎหมายเกี่ยวกับการกลับมาเป็นเงินบาท ยังไม่ชัดเจน
ส่วนกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประเด็นการให้ความสำคัญต่อสภา การมาตอบกระทู้ถามสดของสภาอย่างสม่ำเสมอนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากให้นายกรัฐมนตรีในระบบรัฐสภาให้ความสำคัญกับระบบรัฐสภาจริงๆ หลายคนที่ไม่คุ้นเคยอาจมีความรู้สึกว่าวุ่นวายหรือเสียเวลา แต่ความจริงแล้ว นี่คือวิธีการที่ดีที่สุดในการรักษาธรรมาภิบาลในเรื่องหลักความรับผิดชอบ หากใส่ใจจะได้ประโยชน์จากการทำงานของผู้แทนฯ สภาจะเรียบร้อยขึ้นเมื่อรัฐบาลให้ความสำคัญต่อสภา
อยากเห็นภาพนายเศรษฐามาตอบกระทู้ถามสดในสภาสัปดาห์ละครั้ง เหมือนที่ตนทำมาแล้ว และเป็นประโยชน์ในการบริหารงานในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะมีการเตรียมความพร้อมอย่างไร ในเรื่องการแถลงนโยบายของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า เรื่องนี้ต้องไปถาม สส.เพราะตนเป็นเพียงสมาชิกธรรมดาไม่ได้เกี่ยวข้อง เข้าใจว่าหัวหน้าพรรคแถลงข่าววันนี้ น่าจะมีการประชุมกันในการแบ่งบทบาทในการอภิปราย
สำหรับเรื่องเอกภาพในกลุ่ม สส.พรรคประชาธิปัตย์ และความชัดเจนเรื่อง กก.บห.พรรคชุดใหม่ จุดยืนการเป็นฝ่ายค้าน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สมาชิกเป็นห่วงกันทั้งนั้นส่วนตนไม่ค่อยได้พูดเรื่องนี้เลย เคยให้สัมภาษณ์ไปครั้งเดียว ก็เน้นย้ำว่าพรรคจะเดินได้จากการสร้างเอกภาพให้ได้ และคิดถึงจุดยืนทางการเมือง เมื่อวันนี้ทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านแล้วก็ต้องทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ และสร้างพื้นที่ทางการเมืองที่จะเป็นคำตอบให้กับสังคม อย่างเป็นเอกภาพ ถึงจะเป็นแนวทางที่จะไปได้
ขณะเดียวกัน การเป็นฝ่ายค้านของประชาธิปัตย์ครั้งนี้แตกต่างจากที่ผ่านมา เพราะ สส.ประชาธิปัตย์ไปโหวตเห็นชอบนายกรัฐมนตรีด้วย มองเป็นพรรคอะไหล่หรือไม่นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเมื่อเป็นฝ่ายค้านแล้วก็ต้องเป็นฝ่ายค้านเต็มตัว และในช่วงที่ผ่านมาจะมีความคิดอย่างไรก็แล้วแต่ ตนมองว่าการเดินไปข้างหน้าของพรรค ต้องมาทำควาวเข้าใจตรงนี้ เพื่อให้มีเอกภาพ ประสิทธิภาพ และพลังในการทำหน้าที่
ส่วนการเมืองภายในของพรรคประชาธิปัตย์ มองว่าจะหาข้อสรุปเรื่องเก้าอี้หัวหน้าพรรคได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้มีระบบ ขั้นตอนของมันอยู่ ซึ่งทางกรรมการบริหารที่รักษาการต้องพิจารณาว่าจะคลี่คลายแก้ปัญหากันอย่างไร อย่างไรก็ตาม การมีกระแสข่าวว่าจะมีการเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ก็เป็นกระแสข่าว” พร้อมหัวเราะเบาๆ
อัลบั้มภาพ 7 ภาพ