สาว 27 แชร์ประสบการณ์ "ก้นตาย" ปวดจนเกินทน ต้นเหตุคือนิสัยแย่ๆ ที่คนยุคใหม่ชอบทำ
สาว 27 แชร์ประสบการณ์ "ก้นตาย" ปวดจนเกินทน หมอเตือนคนยุคใหม่ อย่าติดนิสัยนังแช่
"เสี่ยวจิน" หญิงสาววัย 27 ปี จากเมืองหลินไห่ มณฑลไท่โจว ประเทศจีน ถือเป็นอีกหนึ่งแม่ค้าคนดังบนแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ ล่าสุดได้ออกมาเปิดเผยว่าเธอประสบภาวะ "ก้นตาย" หรือ Dead Butt Syndrome (DBS) ซึ่งได้รับความสนใจจากโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างมาก
โดยเธอเล่าว่า เมื่อไม่นานมานี้ จู่ๆ ก็มีความรู้สึกไม่สบายบริเวณเอวและสะโพกอย่างไม่มีสาเหตุ แค่นั่งนานๆ ก็ปวดจนทนไม่ไหว ในตอนแรกเธอไม่ได้สนใจมันมากนัก เพราะคิดว่าเป็นอาการจากการทำงานเป็นเวลานาน และขาดการออกกำลังกาย
อย่างไรก็ตาม ความเจ็บปวดเริ่มแย่ลงในเวลาหนึ่งเดือน เธอจึงตัดสินใจไปโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษา เมื่อ นพ.เย่ หลิงเชา รองหัวหน้าภาควิชาเวชศาสตร์การกีฬาออร์โธปิดิกส์ สอบถามแล้วรู้ว่าเธอทำงานมากกว่า 10 ชั่วโมงต่อวัน และใช้เวลานั่งบนเก้าอี้มากกว่านอน ก็สันนิฐานว่าเป็นอาการของภาวะ "ก้นตาย"
- “ก้นตาย” คืออะไร?
เมื่อคนเรานั่งเป็นเวลานาน กล้ามเนื้อบั้นท้ายมักจะอยู่ในสถานะเป็นอัมพาต เมื่อเวลาผ่านไปกล้ามเนื้อเหล่านี้จะ "สูญเสียความทรงจำ" โดยลืมหน้าที่พื้นฐานของการรองรับกระดูกเชิงกราน และทำให้ร่างกายตั้งตรง ส่งผลให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย เกิดความอ่อนแอในการทำงาน และแม้แต่อาการตามส่วนต่างๆ เช่น หลังส่วนล่าง และข้อเข่า
นพ.เย่ กล่าวว่า ภาวะก้นตายสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โอกาสที่จะเกิดอาการนั้นขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมในการทำงาน นิสัยการใช้ชีวิต และนิสัยการออกกำลังกายของแต่ละคน โรคนี้การป้องกันมีความสำคัญมากกว่าการรักษา ในการทำงานในแต่ละวัน ทางที่ดีควรลุกขึ้นเดินไปรอบๆ ทุกครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง ยืดเส้นยืดสาย และหลีกเลี่ยงการนั่งเป็นเวลานาน
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะก้นตาย วิธีที่ดีที่สุดคือออกกำลังกายอยู่เสมอ หลังเลิกงานควรออกไปทำกิจกรรมต่างๆ ให้มากขึ้น อาบแดด ออกกำลังกาย และพัฒนาความแข็งแรงทางร่างกาย ทั้งนี้ แน่นอนว่าหากมีอาการปวดหลังและปวดสะโพก ควรไปสถานพยาบาลทันทีเพื่อรับการวินิจฉัยที่แม่นยำและการรักษาที่เกี่ยวข้อง ด้วยวิธีนี้เท่านั้นจึงจะสามารถแก้ไขภาวะก้นตายได้อย่างมีประสิทธิภาพ