“บิ๊กโจ๊ก” ร่วม ตร.กัมพูชา รวบ 4 คนไทยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โยงคดีดัง พ่อปาดคอเมีย-ลูก หนีหนี้ 2 ล้าน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จับมือ ตร.กัมพูชา รวบ 4 คนไทยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โยงคดีดัง! พ่อปาดคอเมีย-ลูก สภ.บางแก้ว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย ร่วมกับ รองผู้อำนวยการ กองบัญชาการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติกัมพูชาและผู้บังคับการต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติกัมพูชา และเจ้าหน้าที่ตํารวจกัมพูชา ร่วมกันติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดีแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ที่หลบหนีอยู่ในประเทศกัมพูชาเพิ่มจำนวน 4 ราย กระทําความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ,มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ”
โดยการจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากคดีที่นายสาณิช ผู้เป็นพ่อใช้อาวุธมีดปาดคอภรรยาและลูกอีก 2 คน จนเสียชีวิตก่อนปาดคอตัวเอง เนื่องจากความเครียดเรื่องภาระหนี้สินประกอบกับภรรยาถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าวหลอกโอนเงินไปอีกกว่า 1.7 ล้านบาท จนกระทั่งเมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นําทีมเดินทางไปยังประเทศกัมพูชาเพื่อประสานขอความร่วมมือกับ ผบ.ตร.กัมพูชา ในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่ยังหลบหนีอยู่ในประเทศกัมพูชา ก่อนตกลงและวางแผนร่วมกันเพื่อปราบปรามแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ดังกล่าว
จากการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้สามารถตรวจยึดของกลางรวมทั้งสิ้นกว่า 100 รายการ และเงินสดจำนวนกว่า 240,000 บาท โดยคดีนี้ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้วทั้งสิ้น 30 หมายจับ สามารถจับกุมได้แล้วจํานวน 16 ราย ที่เหลืออยู่ระหว่างติดตามจับกุมมาดําเนินคดี
ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนขยายผลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งขบวนการที่เกี่ยวข้องกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ดังกล่าวทั้งหมด ตั้งแต่บัญชีม้าจนถึงหัวหน้าขบวนการชาวจีน ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่ากลุ่มคนร้ายเหล่านี้ตั้งสำนักงานอยู่ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา จึงได้ประสานงานกับ พล.ต.อ.ซอ เทต ผบ.ตร.กัมพูชา เพื่อทลายจุดคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าว โดยจะนำตัวกลับไทยเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังจากนี้จะได้ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ทางการกัมพูชา เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ทั้งหมด เพื่อนำกลับมาดำเนินคดีที่ไทยจนถึงที่สุดต่อไป