ตกเครื่องละ 2-4 ล้าน! เอกชนหน้าแหกโชว์รุ่นใหม่อภิสิทธิ์ปัดเกาเหลากองทัพ

ตกเครื่องละ 2-4 ล้าน! เอกชนหน้าแหกโชว์รุ่นใหม่อภิสิทธิ์ปัดเกาเหลากองทัพ

ตกเครื่องละ 2-4 ล้าน! เอกชนหน้าแหกโชว์รุ่นใหม่อภิสิทธิ์ปัดเกาเหลากองทัพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จีที 200 วุ่นไม่เลิก"เทือก"จ่อเลิกใช้ เตรียมชง"เครื่องฟีโด้-เซเบอร์ 4000"ราคา 2-4 ล้าน ทดแทน บอกไม่มีอำนาจตัดสินใจใช้จีที 200 ต่อหรือไม่“มาร์ค” ออกโรง ปัดเกาเหลากองทัพ ย้ำเลิกใช้จีทีด่วน สวน “ฟีโด้” ใช้ในพื้นที่จำกัด “บิ๊กป๊อก” เริ่มคล้อยตาม เตรียมประสาน กระทรวงวิทย์ แจงทหารใต้ถึงเหตุเลิกใช้ มท.3 ยันไม่เหมาะใช้หมาตรวจในแดนใต้ “บิ๊กจิ๋ว” เตือนของไม่ดี ไม่ใช้ก็เสี่ยงน้อย ด้านบริษัทเมืองเบียร์ คว้าโอกาส เปิดตัวเครื่องตรวจรุ่นล่าทันควัน เชิญสื่อร่วมลอง หน้าแหกตรวจเจอแค่ 2 ที แถมนักวิชาการลองของ งัดกล่องประทัดโชว์ถาม ทำไมตรวจไม่เจอ แขวะไม่ต่างจากจีที 200
    
เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่ท่าอากาศยานกรมการขนส่งทหารบก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปตรวจเยี่ยม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถึงปัญหาเรื่องประสิทธิภาพเครื่อง จีที 200 ที่จะเป็นการ เปิดช่องว่างให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบก่อเหตุมากขึ้นหรือไม่ นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ก็เป็นปัญหา เมื่อก่อนเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในพื้นที่ จะขอเครื่องมือดังกล่าวเพราะเชื่อว่า จะใช้ค้นหาวัตถุระเบิดได้ แต่เมื่อวันนี้มีปัญหาก็รู้สึกหนักใจว่าคนทำงานในพื้นที่ จะเอาเครื่องมืออะไรมาใช้แทน แต่เราต้องหนักแน่น และให้คิดว่า เมื่อก่อนไม่มีเครื่องมือชนิดนี้เราก็ยังทำงานกันได้ โดยใช้ความสามารถของคนที่ฝึกฝนอย่างเข้มงวด
   
ส่วนการที่หน่วยปฏิบัติยังระบุว่ายังต้องการใช้เครื่องนี้ต่อไป ทั้งที่ผลการทดสอบ ออกมาว่าไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร จะทำให้เกิดปัญหาหรือไม่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ที่จริงตนไม่ควรจะตอบปัญหานี้ เพราะเป็นเรื่องของการปฏิบัติ แต่ถ้าพูดในฐานะคนธรรมดา ต้องถือว่าอะไรก็ตามที่ผู้ปฏิบัติยังคิดว่า เขาสามารถพึ่งพาอาศัยได้ในการทำงานและไม่ทำให้ต้องใช้จ่ายงบประมาณเพิ่มขึ้น เราก็ให้เขาดำเนินการไป แต่ตนไม่ได้มีหน้าที่ตัดสินใจ ส่วนหากยังใช้เครื่องดังกล่าวจะเป็นการให้กำลังพลไปเสี่ยงหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องย้อนถามกลับว่าแล้วถ้าไม่มีเครื่องดังกล่าวกำลังพลจะเสี่ยงหรือไม่ มันก็เหมือนกัน ปัญหามีอยู่เรื่อย เราก็ต้องพยายามแก้ไข  
   
ส่วนรัฐบาลจะทำอย่างไรกับงบที่เสียไปในการจัดซื้อเครื่องจีที 200 นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ปัญหาเรื่องนี้มีบ่อย ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย เวลาตัดสินใจซื้อเครื่องมือเครื่องใช้อะไร หากพบว่ามีความผิดก็ต้องว่ากันไปตามระเบียบและดูว่ามีสาเหตุมาจากอะไร
   
ต่อมาที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี นายสุเทพ ได้แถลงถึงการหารือปัญหาเครื่องจีที 200 กับผู้ปฏิบัติในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ว่า    ได้หารือกันว่า จะต้องวางมาตรการรองรับ โดยให้ปรับแผนการทำงานใหม่ เช่น การเพิ่มงบด้านการข่าว พร้อมกันนี้ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ยังเสนอจัดซื้อเครื่องฟีโด้ และเครื่องเซเบอร์ 4000 ซึ่งเคยใช้งานอยู่แล้วมาใช้งานในพื้นที่แทน แม้เครื่องฟีโด้จะมีราคาสูง แต่ก็ต้องเตรียมการรองรับ เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่รัฐ และประชาชน จึงมอบให้ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ และทหารไปดูว่า ถ้าจะจัดซื้อต้องใช้กี่เครื่อง บริเวณใดบ้าง
   
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ. ทบ. กล่าวว่า เนื่องจากผลสอบเครื่อง จีที 200 ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ยืนยันว่า เครื่องจีที 200 ใช้การได้ไม่ดี นายกฯ จึงบอกว่า ยังไม่ได้ให้เลิกใช้ แต่ในอนาคตคงต้องเป็นแบบนั้น ทั้งนี้จะให้กระทรวง วิทยาศาสตร์ฯ ส่งเจ้าหน้าที่มาชี้แจงกับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ว่า เครื่องดังกล่าวสามารถใช้งานได้หรือไม่ กองทัพจำเป็นต้องชี้แจงเรื่องนี้ให้กำลังพลรับทราบ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดอันตรายได้ในกรณีที่เครื่องจีที 200 ไม่มีประสิทธิภาพ เมื่อได้รับการประสานงานจากกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กองทัพจะ  นัดหมายกำลังพลทั้งหมดมารับฟังคำชี้แจง หลังได้ข้อยุติเราก็อาจจะไม่ใช้ อย่างไรก็  ตามทหารจำเป็นต้องมีมาตรการอื่นควบคุมสถานการณ์ ไม่ใช่รออย่างเดียว หากมีความ จำเป็นก็อาจต้องซื้อเครื่องมือใหม่ ส่วนจะเร็วช้าอย่างไร ขึ้นอยู่กับการจัดหางบประมาณ อีกทั้งต้องมาฝึกอบรมคนเพื่อใช้เครื่องมือใหม่
    
ส่วนจะต้องตรวจสอบประสิทธิภาพของเครื่องฟีโด้ ก่อนที่จะจัดซื้อมาใช้งานในพื้นที่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวแย้งว่า ถ้าจะมีการจัดซื้อเครื่องลักษณะนี้ อาจมีปัญหาอีก เพราะปกติการจัดซื้อพื้นฐานของ กองทัพ จะมีการกำหนดสเปก และตรวจสอบมาตร ฐานให้เป็นตามนั้น แต่ที่ผ่านมา กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ไม่ได้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบก็คงต้องดูเรื่องนี้ต่อไป ด้าน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า เครื่องฟีโด้ได้รับการ การันตี โดยหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์ของสหรัฐแล้ว
    
วันเดียวกัน นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย กล่าวถึงเครื่องตรวจสารระเบิด จีที 200 ว่า จากประสบการณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ ที่ใช้เครื่องดังกล่าวมาเป็นเวลานาน เขายังมีความมั่นใจ ดังนั้นต้องเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้ใช้จากประสบการณ์เขา เราจะดึงกลับ เราต้องมีสิ่งอย่างอื่นมาทดแทน ถึงแม้ว่าการทดสอบพบว่าไม่มีประสิทธิภาพก็ตาม แต่ถ้าเราไม่มีอะไรเสียเลย ดีกว่าที่เราไม่มีอะไรในทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในขณะนี้ ตนคิดว่า เขาใช้เอง คงรู้ในประสบ การณ์ เขาคงจะใช้ควบคู่กับเครื่องมืออย่าง อื่น จึงไม่น่าที่จะทำให้เกิดปัญหา สิ่งที่เป็นปัญหาคือเราจะหาอะไรที่ดีกว่านี้มาให้เขาใช้มากกว่า ส่วนการนำสุนัขมาใช้ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้นั้น สุนัขเป็นสิ่งต้องห้ามของชาวไทยมุสลิม ไม่ให้เข้าบ้านหรือสถานที่ที่เขาอยู่อาศัย หรือสถานที่ประกอบพิธีการต่าง ๆ เพราะฉะนั้น สุนัขดมกลิ่นใช้ไม่ได้กับพี่น้องชาวไทยอิสลาม ในทางปฏิบัติวิธี การอย่างอื่น ยังมีอยู่อีกหลายวิธี
    
ขณะที่ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายซูการ์โน มะทา ส.ส.ยะลา พรรคเพื่อไทย พาดพิงว่าพรรคประชาธิปัตย์ รู้เห็นในการซื้อขาย เครื่องตรวจจับระเบิดจีที 200 เพราะมีอดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ เกี่ยวข้องกับบริษัทผู้ขายเครื่องตรวจจับระเบิดจีที 200 ว่า ไม่เป็นความจริง พรรคไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อเครื่องตรวจจับระเบิด  ดังกล่าว
   
ที่พรรคเพื่อไทย พล.อ.ชวลิต ยงใจ ยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ผบ.ทบ.ออกมาระบุว่าจะใช้เครื่องจีที 200 ต่อไปทั้งที่นายกฯ ออกมาระบุว่าการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าคุณภาพต่ำ ว่า ถ้ามันไม่ดีแล้วไม่ใช้ ก็เท่ากับว่าเสี่ยงน้อยลง แต่หากว่ายังฝืนใช้อยู่ทั้งที่มันไม่ดี และผลการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ออกมาแล้ว ก็เป็นเรื่องอันตราย ตนจึงเป็นห่วงลูกหลานน้องนุ่งทหารของพวกเรา ไม่ได้คิดอะไรอย่างอื่น
   
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กองทัพแถลงว่าเครื่องตรวจหาวัตถุระเบิด จีที 200 ใช้งานได้ผล และยืนยันว่าจะใช้เครื่องดังกล่าวต่อไปว่า เป็นการชี้แจงประสบการณ์ของผู้ใช้และที่มาที่ไป รวมถึงมีการยืนยันว่าไม่เคยมีการใช้เครื่องนี้ในการจับกุมใครโดยลำพัง และอยู่ช่วงที่กำลังทำความเข้าใจกับกำลังพล รวมถึงกำลังทำแผนรองรับต่อไปในอนาคต จึงถือว่าไม่ได้มีอะไรที่ขัดแย้งกัน และไม่ได้มีปัญหาอะไร ที่จริง ตนทราบว่าทางกองทัพจะขอโอกาสในการชี้แจงต่าง ๆ ซึ่งรัฐบาลไม่ได้ มีข้อขัดข้องอะไร และจากนั้น พล.อ.อนุพงษ์ ได้ย้ำกับตนว่าไม่ได้มีลักษณะที่จะสวนทางหรือปฏิเสธผลการทดสอบ แต่อยู่ในช่วงการทำแผนรองรับ อย่างไรก็ตาม โดยในชั้นนี้ต้องมีเวลาปรับตัว ทั้งนี้ ในใจตนอยากให้ลดและเลิกการใช้เครื่องนี้โดยเร็ว
   
เมื่อถามถึงกรณีที่จะมีการศึกษาการใช้เครื่องฟีโด้มาทดแทน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงใช้ทดแทนกันไม่ได้ เพราะเครื่องฟีโด้จะไม่สามารถช่วยจำกัดพื้นที่หรือใช้ในพื้นที่กว้างได้ แต่อาจต้องคิดวิธีใช้เครื่องมือนี้กับอุปกรณ์ตัวอื่น ต่อข้อถามว่าปัญหาดังกล่าวจะทำให้เกิดช่องว่างในการดูแลความมั่นคงในช่วงหัว เลี้ยวหัวต่อหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราตระหนักว่ามันมีผลกระทบในช่วงนี้ จึงต้องหาความพอดีให้กำลังพลมีขวัญกำลังใจในการทำงานไปพร้อม ๆ กับการปรับเปลี่ยนต่อไป
   
เมื่อถามถึงการสอบสวนเรื่องการจัดซื้อเครื่องมือดังกล่าว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องรอรับรายงานจากแต่ละหน่วยงานที่ซื้อเครื่องมือนี้เพื่อดูว่าซื้อมาเมื่อ ไหร่ ราคาเท่าไหร่ และมีที่มาที่ไปในการจัดซื้อเป็นอย่างไร แล้วจึงตรวจสอบดู ส่วนจะสาวไปถึงระดับผู้นำเหล่าทัพหรือไม่นั้น ต้องดูข้อเท็จจริงว่าการจัดซื้อจัดจ้างเป็นอย่างไร ทั้งนี้ขอให้ทุกคนเข้าใจว่าเวลาที่เราสอบ มันเป็นเรื่องของข้อเท็จจริง แต่ไม่ใช่มาตั้งโจทย์ตั้งแต่ ต้นโดยไม่มีข้อมูลว่าจะต้องถึงคนนั้นคนนี้หรือไม่ ถ้าจากข้อเท็จจริงมันไปถึง ก็ถึง แต่ถ้าข้อเท็จจริงไม่ถึง มันก็ไม่ถึง
   
ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ในวันที่ 23 ก.พ.นี้ ตนเดินทางไปยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.ขอให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตจัด ซื้อเครื่องจีที 200 นอกจากนี้ฝ่ายค้านจะทำหน้าที่ตรวจสอบการพิจารณางบประมาณในการจัดซื้ออาวุธ ยุทโธปกรณ์และงบลับของกองทัพให้มากขึ้น โดยเฉพาะการจัดซื้อเรือเหาะขอให้นายกฯ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนโดยเร่งด่วน
   
ส่วนที่ห้องบอลรูม โรงแรมดิ เอม   เมอรัลด์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีตัวแทนจาก บริษัทเอกชนรายหนึ่ง ของประเทศเยอรมนี แถลงข่าวเปิดตัว เครื่องตรวจจับระเบิดชนิดมือถือ จากประเทศเยอรมนี โดยมีตัวแทน  จากกลุ่มงานเก็บกู้วัตถุระเบิด จากหลายหน่วยงานเข้าร่วมสังเกตการณ์ ในการสาธิตในครั้งนี้ด้วย จากการทดสอบเครื่องตรวจจับระเบิดชนิดมือถือ รุ่นดังกล่าว ด้วยการหาวัตถุระเบิด พบว่าหาเจอแค่ 2 ครั้ง หลังทดสอบ เสร็จยังโดนนักวิชาการงัดกล่องประทัดโชว์ทำไมเครื่องไม่ชี้ เชื่อไม่ต่างจีที 200
   
สำหรับเครื่องตรวจสอบร่องรอยสสารแบบพกพา (FIDO) ใช้หลักการระเหยของสารระเบิดหรือสารต้องสงสัย โดยที่ปลายของเครื่องมือจะมี Tip ซึ่งให้เกิดความร้อนและภายในเครื่องจะมีหลอดแก้ว ซึ่งเคลือบสาร AFP (Amplifying Fluorescent Polymer) โดยจะเรืองแสงสีม่วง ดังนั้นในการใช้งานเมื่อสารระเบิดได้รับความร้อนจากปลาย Tip ไอของสารระเบิดจะทำปฏิกิริยากับ AFP ทำให้การเรืองแสงสีม่วงลดลง จากนั้นจะแสดงเป็นกราฟที่หน้าจอ ซึ่งต้องใช้ในระยะประชิด ราคาตกเครื่องละ 4 ล้านบาท
   
ส่วนเครื่องตรวจสอบร่องรอยสสารแบบพกพา รุ่น Sabre 4000 เป็นเครื่องมือที่มีความแม่นยำสูง ใช้งานง่าย สามารถพกพาเข้าพื้นที่ได้สะดวก สามารถระบุชนิดของสารประกอบวัตถุระเบิดและสารเสพติดชนิด   ต่าง ๆ ได้ โดยเครื่องจะตรวจจับไอระเหยของสสาร แล้วนำมาผ่านความร้อนสูง จนสสารจะแตกตัวเป็นไอออน ซึ่งไอออนแต่ละชนิดจะมีมวลและประจุที่จำเพาะ ตัวเซ็นเซอร์ในเครื่องก็จะแยกประเภทของสารประเภทของสารประกอบวัตถุระเบิด หรือสารเสพติดให้ผู้ใช้ทราบได้ ราคาตกเครื่องละ 2 ล้านบาท.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook