จับตา "หมออ๋อง ปดิพัทธ์" รั้งเก้าอี้รองประธานสภา คนหนุนให้ก้าวไกลขับออกจากพรรค

จับตา "หมออ๋อง ปดิพัทธ์" รั้งเก้าอี้รองประธานสภา คนหนุนให้ก้าวไกลขับออกจากพรรค

จับตา "หมออ๋อง ปดิพัทธ์" รั้งเก้าอี้รองประธานสภา คนหนุนให้ก้าวไกลขับออกจากพรรค
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จับตาทิศทาง "หมออ๋อง ปดิพัทธ์" รั้งเก้าอี้รองประธานสภา หลังก้าวไกลเตรียมเป็นผู้นำฝ่ายค้าน คนหนุนให้ก้าวไกลขับหมออ๋องออกจากพรรค  

ภายหลังจาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคก้าวไกล (15 ก.ย.66) เพื่อเปิดทางให้ สส. ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน เนื่องจากปัจจุบันนายพิธา ยังอยู่ภายใต้คำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. จึงยังไม่สามารถเข้าไปทำงานในสภาผู้แทนราษ และไม่สามารถจะดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านได้ในระยะเวลาอันใกล้

จึงเป็นที่ชัดเจนว่า พรรคก้าวไกลจะรับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน แต่เนื่องจากรัฐธรรมนูญระบุห้ามไม่ให้ ส.ส.ในพรรคการเมืองที่มีสมาชิกเป็นรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรดำรงตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งจะมีผลต่อตำแหน่งรองประธานสภาฯ ของ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ซึ่งเป็น สส.พรรคก้าวไกล

ขณะที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ได้โพสต์เฟซบุ๊กวิเคราะห์ประเด็นนี้ว่า "พิธา ลาออกจากหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพ้นจากตำแหน่งทั้งชุด ประชุมสมาชิกพรรค เลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารใหม่ ภายใน 60 วัน แต่ ยังมีกรรมการบริหารรักษาการอยู่

ที่ประชุมร่วม สส. กับ กรรมการบริหารพรรค ลงมติ ไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ลงมติขับ หมออ๋อง ออกจากพรรค เนื่องจากขัดมติที่ขอให้ลาออกจากรองประธานสภา

หมออ๋อง หาพรรคใหม่ ใน 30 วัน เช่น ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเป็นธรรม ทำให้ยังคงมีสมาชิกภาพเป็น สส. และ คงตำแหน่งรองประธานสภาได้ ก้าวไกล เลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภา

สรุป ได้ทั้ง รองประธานสภา และ ผู้นำฝ่ายค้านในสภา จำนวน สส. ฝ่ายค้านเท่าเดิม พรรคเป็นธรรม มี สส.เพิ่มขึ้นอีกคนใครวางแผนให้เนอะ มือยิ่งกว่าชั้นเซียนเหยียบเมฆ"

ซึ่งวิธีการดังกล่าวมีหลายเสียงในโลกโซเชียลสนับสนุน เพื่อให้พรรคก้าวไกลสามารถเป็นผู้นำฝ่ายค้านได้ และ หมออ๋อง ก็ยังคงเป็นรองประธานสภาได้อยู่

วันนี้ (15 ก.ย.2566) นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เพื่อเปิดทางให้มีบุคคลเข้ามาเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งจะมีผลต่อตำแหน่งรองประธานสภาฯ ว่า สิ่งที่ชัดเจนหลังจากหัวหน้าพรรคลาออก คือคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ทั้งชุดต้องสิ้นสภาพไปด้วย

ฉะนั้น เราจะคุยกับ กก.บห.ชุดใหม่เท่านั้น ว่าแนวทางต่างๆ จะเป็นเช่นไร ซึ่งหลังจากที่มีการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือก กก.บห.ชุดใหม่ก็จะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง

เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ พรรคก้าวไกลจะมีการขับนายปดิพัทธ์ออกจากพรรคแล้วไปสังกัดพรรคอื่น เพื่อให้พรรค ก้าวไกลได้ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน โดยที่นายปดิพัทธ์ยังดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 อยู่ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า เราเรียกสิ่งนั้นว่าข้อจำกัดทางรัฐธรรมนูญ ไม่มีประเทศไหนมีทริคเช่นนี้ เช่นตนได้รับการโปรดเกล้าฯ มา ซึ่งไม่ควรที่จะได้รับข้อจำกัดเช่นนี้มาบีบให้เราต้องทำอะไรที่ไม่ตรงไปตรงมา แต่เมื่อข้อจำกัดเป็นเช่นนี้ แล้วทางพรรคเห็นสมควรเช่นไรก็เป็นเรื่องของพรรค แต่ตนก็จะทำงานของตนให้เต็มที่

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook